ทีแท้เปิดทีวีดัง-ปมฆ่าบก.สาวคาห้องพัก

เปิดทีวีเสียงดัง ชนวน ฆ่าปาดคอบก. สาวนิตยสารชื่อดัง

เมียแท็กซี่เปิดปากระหว่างตร.คุมไปทำแผนฯ ที่อพาร์ตเมนต์เกิดเหตุ แฉผู้ตายอยู่ห้องตรงข้ามเปิดทีวีดังจึงไปเคาะประตูต่อว่า ก่อนบานปลายกลายเป็นลงไม้ลงมือกัน ผัวแท็กซี่เข้ามาผสมโรงจับหัวกระแทกพื้น มีดปาดคอ แล้วลากศพไปไว้ในห้องน้ำ กล่อมผัวทำอะไรให้ยอมรับความจริง ฝ่ายผัวยังปากแข็ง โวยตร. กล่อมเมียปรักปรำเป็นแพะ

จากกรณีน.ส.อรอัจฉรา พรหมผลิน อายุ 27 ปี ผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสาร SHAPE ถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตคาห้องพัก ชัยพฤกษ์อพาร์ตเมนต์ ย่านตลิ่งชัน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.น.7 และสน.ตลิ่งชัน จับกุมนายสัญชัย สังข์แป้น และนางเสาวนีย์ ช้างเขียว สามีภรรยาที่พักอยู่ห้องตรงข้าม แต่ทั้งสองต่างให้การปฏิเสธ โดยฝ่ายภรรยาอ้างว่าคืนเกิดเหตุมีรอบเดือน ทำให้สามีไม่พอใจที่มีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ สามีอารมณ์หงุดหงิดหายหน้าไปก่อนจะกลับมาตอนเช้าในสภาพมือถือมีด เสื้อผ้าเปื้อนเลือด ขณะที่ฝ่ายสามีโวยวายว่าเจ้าหน้าที่จับแพะ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 พ.ค. พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน

นำนางเสาวนีย์ ช้างเขียว ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ห้องเกิดเหตุหมายเลข 216 ชัยพฤกษ์อพาร์ตเมนต์ ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านผู้พักอาศัยในอพาร์ตเมนต์ดังกล่าวมุงดูจำนวนมาก พากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุ การณ์ที่เกิดขึ้นต่างๆ นานา ซึ่งหลายคนรู้จักสนิทสนมกับนางเสาวนีย์เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ก่อนทำแผนนางเสาวนีย์จุดธูปขอขมาดวงวิญญาณผู้ตายบริเวณหน้าห้อง แล้วเริ่มชี้จุดที่มีปากเสียงกับผู้ตาย กระทั่งลงมือตบตีกัน ระหว่างนั้นนายสัญชัย สามีเข้ามาร่วมก่อเหตุด้วยการจับศีรษะผู้ตายกระแทกกับพื้น ใช้มีดปาดคอจนเสียชีวิต ลากศพเข้าไปไว้ในห้องน้ำห้องพักผู้ตาย จัดการปิดล็อกประตูห้องด้านใน ก่อนปีนระเบียงด้านหลังเข้าห้อง 215 ที่ไม่มีคนพักเพื่อล้างคราบเลือด จากนั้นเดินกลับห้องตัวเองนำถุงขยะใส่เสื้อเปื้อนเลือดไปทิ้ง แล้วพากันหลบหนี

นางเสาวนีย์เปิดเผยขณะทำแผนว่า วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 02.00 น. ตนและสามีกำลังนอนหลับอยู่ในห้อง

ได้ยินเสียงโทรทัศน์จากห้องผู้ตายเปิดเสียงดังมากจนทนไม่ไหว จึงลุกไปเคาะประตูขอร้องให้ผู้ตายลดเสียงลง ก่อนเรื่องจะบานปลายกลายเป็นมีปากเสียงกัน กระทั่งสามีเข้ามาร่วมก่อเหตุจนถึงขั้นคู่กรณีเสียชีวิต สำหรับสามีนั้นอยากให้ยอมรับสารภาพ ทำอะไรไว้ขอให้ว่ากันตามกฎหมาย ตนยืนยันว่าสามีได้ร่วมก่อเหตุฆ่าน.ส.อรอัจฉราจริงๆ

ขณะที่นายสัญชัย สามีนางเสาวนีย์ ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว ระหว่างถูกควบ คุมตัวอยู่ในห้องขังสน.ตลิ่งชัน ว่า ไม่รู้เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

มั่นใจว่าภรรยาโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเกลี้ยกล่อมให้ยอมรับสารภาพ ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่จึงต้องการให้ตนเป็นแพะ ทั้งที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างดีมาตลอด ไม่ต้องการพูดอะไรมากไปกว่านี้ ขอเพียงแค่ให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย ขอยืนยันว่าไม่ได้ฆ่าน.ส.อรอัจฉรา และขอให้ภรรยาพูดความจริงออกมาทั้งหมด

ด้านพ.ต.ท.สุกิจกล่าวว่า เมื่อวานนี้ นางเสาวนีย์ให้การยอมรับสารภาพ แต่ช่วงกลางดึกกลับให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงให้พักสงบสติอารมณ์ก่อน

ช่วงเช้านางเสาวนีย์มีสภาพจิตใจและอารมณ์ดีขึ้นจึงสอบปากคำอีกครั้ง พร้อมกับให้พูดคุยกับญาติพี่น้องที่มาเยี่ยม กระทั่งยืนยันยอมรับสารภาพอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ รองผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน กล่าวอีกว่า สำหรับข้อมูลเบาะแสที่นางเสาวนีย์ให้การนั้น สอดคล้องกับการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น ภายในห้องพักเลขที่ 215 ที่ให้การว่าสามีเข้าไปล้างคราบเลือดที่อ่างน้ำ แล้วนำผ้าไปเช็ดถูคราบเลือดบนพื้น เมื่อตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ปรากฏเห็นคราบเลือดเด่นชัดขึ้นมาทันที นอกจากนี้ ยังมีพยานในที่เกิดเหตุให้การยืนยันว่า เห็นสามีภรรยาทั้งคู่อยู่ในห้องผู้ตายในคืนเกิดเหตุ

พ.ต.ท.สุกิจกล่าวด้วยว่า แม้นายสัญชัยยังให้การปฏิเสธ แต่จากพยานหลักฐานรวมทั้งคำให้การของภรรยาสอดคล้องกันแน่นหนา เจ้าหน้าที่จะส่งฟ้องดำเนินคดีนายสัญชัยไปตามกระบวนการต่อไป หากยอมรับสารภาพและเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีก็อาจจะได้ลดโทษ ซึ่งขึ้นกับการตัดสินใจของผู้ต้องหา