เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.รัชดาภิเษกศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ว.5178/2552
ที่พนักงานอัยการแขวงพระนครเหนือ 1/2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายนนทรีย์ นิมิบุตร หรืออุ๋ย ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง เป็นจำเลย ในความผิดฐานขับขี่รถขณะมึนเมาสุราโดยมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย
คดีนี้ฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย.52 เวลากลางคืน จำเลยซึ่งได้รับใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพจากนายทะเบียนขนส่งจังหวัดนนทบุรี
ได้บังอาจขับขี่รถยนต์ ทะเบียน วข-7188 กรุงเทพฯ แล่นตามถนนพหลโยธินขาเข้าเฉี่ยวชนกับรถแท็กซี่ ทะเบียน มจ-5169 กทม. โดยในขณะที่จำเลยขับรถอยู่ในอาการมึนเมาสุราโดยมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายวัดได้ 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา ศาลสั่งสืบเสาะความประพฤติจำเลยแล้ว พบว่าจำเลยเคยถูกศาลพิพากษาในคดีความผิดเดียวกันเมื่อปี 2546 โดยศาลให้รอการลงโทษไว้ ขณะที่คดีนี้ถูกพนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับเฉี่ยวชนรถแท็กซี่ไปแล้ว จึงเห็นว่าจำเลยทำผิดตามฟ้อง
พิพากษาให้จำคุกจำเลย เป็นเวลา 14 วัน ฐานขับรถขณะมึนเมาสุรา ซึ่งคำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี เห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกไว้ 7 วัน
โดยศาลเห็นว่า บทบัญญัติของกฎหมายเกี่ยวกับความผิดนี้ เป็นไปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนซึ่งเกิดจากการเมาสุราขณะขับขี่รถ ประกอบกับองค์กรที่เกี่ยวข้องได้รณรงค์เกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวและการเมาไม่ขับที่เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถ แต่จำเลยซึ่งเคยทำผิดมาแล้วยังกระทำผิดซ้ำอีกแสดงให้เห็นว่าไม่มีจิตสำนึกต่อสังคมโดยรวม โดยเคยก่อเหตุมาแล้วกลับไม่เข็ดหลาบ ดังนั้นจึงไม่สมควรให้รอการลงโทษจำเลย แต่ศาลให้เปลี่ยนโทษจำคุก เป็นโทษกักขังแทนเป็นเวลา 7 วัน และให้ยึดใบอนุญาตขับขี่จำเลยเป็นเวลา 6 เดือน
โดยนายนนทรีย์ กล่าวว่า ศาลให้กักบริเวณเป็นเวลา 7 วัน ไม่ใช่การเข้าเรือนจำ ซึ่งตนเตรียมจะยื่นประกันตัวพร้อมกับยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อไป
ที่ผ่านมาตนเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์เมาไม่ขับมาแล้ว ดังนั้นรู้สึกเสียใจอย่างมาก และยอมรับว่าเคยถูกศาลพิพากษาจำคุกมาแล้ว และรู้สึกเสียใจแต่อยากให้สังคมเข้าใจว่าตนมีความจำเป็น ซึ่งต้องขับรถเองเพื่อไปงานเลี้ยงฉลองที่ภาพยนตร์เรื่องก้านกล้วย 2 ทำรายได้ครบ 80 ล้านบาท ซึ่งคาดไม่ถึงว่าขณะเดินทางกลับจะประสบเหตุ อย่างไรก็ตาม ถือว่ายังโชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย
ต่อมาทนายความนายนนทรีย์ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 30,000 บาทขอประกันตัว ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวออกไป