ตั้ง1หมื่นล่าไอ้โหดเผาทั้งเป็นสาวทอม

"ตั้งนำจับ 1 หมื่น"


"สถาพร หลาวทอง" ผบช.ภาค 3 รุดเยี่ยมสาวทอมเหยื่อเผาทั้งเป็น พร้อมมอบเงินส่วนตัวช่วยเหลือ สั่งระดมกำลังไล่ล่าไอ้โหดมือเผา ตั้งรางวัลนำจับ 1 หมื่นให้กับคนที่แจ้งเบาะแส มั่นใจได้ตัวในเร็วๆ นี้ ศาลจังหวัดนครราชสีมาอนุมัติหมายจับคนร้ายที่เหลืออีกคน เป็นคนจุดไฟเผา ส่วนอาการเหยื่อยังโคม่า แพทย์ระบุผิวหนังไหม้เกรียมกว่า 50 เปอร์เซ็นต์

จากกรณีคนร้ายเผาทั้งเป็นน.ส.กฤษณา หรือน้องจ๋า กระแสร์วิก อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 768 หมู่ 13 บ้านพูลทวี ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา เหตุเกิดที่บริเวณด้านหลังเต็นท์ขายรถมือสองศรีมิตร ข้างปั๊มน้ำมันเจ็ท สาขาจอหอ ถ.มิตรภาพ ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา โดยขณะนี้น้องจ๋าพักรักษาตัวอยู่ตึกผู้ป่วยรวม ชั้น 4 ศัลยกรรมหญิง ตึกผู้ป่วยรวม ร.พ.มหาราชนครราชสีมา ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น


"ยังโคม่า ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ"


ความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยพ.ต.อ.ประจวบ จันทร์ประวิตร ผกก.สภ.อ.เมืองนครราชสีมา พ.ต.อ.ภาณุ บุรณศิริ ผกก.สส.ภ.3 และชุดสายสืบสวน ทั้งของบช.ภ.3, ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจ.นครราชสีมา และชุดสืบสวนสภ.อ.เมือง ประชุมกันอย่างเคร่งเครียดเพื่อเร่งคลี่คลายคดี และติดตามจับกุมตัวมือเผาน.ส.กฤษณา

จากนั้นพล.ต.ท.สถาพร และคณะเดินทางนำกระเช้าดอกไม้ไปเยี่ยมน.ส.กฤษณา ที่ร.พ.มหาราชนครราชสีมา พร้อมมอบเงินส่วนตัวช่วยเหลือ โดยอาการของน.ส.กฤษณายังอยู่ในขั้นโคม่า ไม่รู้สึกตัว บริเวณใบหน้ามีรอยไหม้ด่าง ผมถูกไฟไหม้เกรียม และที่บริเวณลำตัว แพทย์ระบุว่าร่างกายถูกไฟไหม้กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ โดยน.ส.กฤษณานอนพักรักษาตัวที่ห้องปลอดการติดเชื้อและแพทย์ยังใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ โดยมีนายอุทัย สืบปรุ อายุ 65 ปี และนางประกอบ สืบปรุ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นตายายอยู่บ้านเลขที่ 768 หมู่บ้านพูลทวี หมู่ 13 ต.จอหอ อ.เมือง และญาติเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด


"จับได้แล้ว 3 ยังล่าอีก 1"


โดยหลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนสภ.อ.เมืองนครราชสีมาจับกุมนายคมสันต์ หรือฆ้อง ศรีภิรมย์มิตร อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/210 ซอยการเคหะ 21 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. นายธีระพันธ์ หรือเบนซ์ ศรีภิรมย์มิตร อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 680 หมู่ 13 ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา และนายไก่(นามสมมติ) อายุ 17 ปี บ้านอยู่ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองนครราชสีมา ผู้ต้องหา พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเผานั่งยางน.ส.กฤษณา

สำหรับในที่เกิดเหตุพบยางรถยนต์จำนวนหนึ่งถูกไฟไหม้ และร่องรอยการต่อสู้ จึงสั่งสายสืบลงพื้นที่หาข้อมูลกับพยานที่มีบ้านพักอยู่ในละแวกที่เกิดเหตุ และพยานที่เกี่ยวข้องจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ คือนายคมสันต์ แฟนหนุ่มของน.ส.กฤษณา และพวกอีก 2 คน นอกจากนี้ยังมีนายคมทวน เจริญ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 5 ต.จอหอ อ.เมือง มือจุดไฟเผาน.ส.กฤษณาที่กำลังหลบหนี


"เหตุหึงหวง อ้างพาแฟนสาวมาเย้ย"


สำหรับสาเหตุเกิดจากความหึงหวงขณะที่กลุ่มผู้ต้องหากำลังนั่งดื่มเหล้ากันอยู่หลังเต็นท์ขายรถมือสอง น.ส.กฤษณาพาเพื่อนสาวมาหา ทำให้นายคมสันต์ ซึ่งเป็นแฟนของน.ส.กฤษณาเกิดความหึงหวง คิดว่าน.ส.กฤษณาพาแฟนสาวมาเย้ย จึงได้ต่อว่า และโต้ตอบกันไปมากับน.ส.กฤษณา

ก่อนที่นายคมสันต์กับพวกจะโมโหและรุมซ้อม จากนั้นนายคมทวนจุดไฟเผาน.ส.กฤษณาทั้งเป็น ส่วนเพื่อนสาวของน.ส.กฤษณาเห็นเหตุการณ์ ตกใจจึงวิ่งหลบหนีไป ต่อมาตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ดังกล่าว พร้อมตั้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 3 คนร่วมกันพยายามฆ่า เบื้องต้นทั้งหมดให้การปฏิเสธ แต่จำนนต่อหลักฐาน และคำให้การซัดทอด จึงยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา


"รุดเยี่ยมด้วยตนเอง ขณะเหยื่อยังอยู่ห้องปลอดเชื้อ"


ต่อมาเวลา 15.30 น. ศาลจังหวัดนครราชสีมาอนุมัติหมายจับนายคมทวน เจริญ อาชีพรับจ้างทั่วไป ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยผู้ต้องหารายนี้ร่วมกับพวกรุมซ้อมและใช้น้ำมันราดผู้เสียหายก่อนจะใช้ไฟจุดเผาน.ส.กฤษณาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาช่วยกันดับไฟพาตัวส่งร.พ.มหาราชนครราชสีมา โดยผู้ต้องหาที่เป็นคนลงมือจุดไฟเผาน.ส.กฤษณาอย่างโหดเหี้ยมโหดคือนายคมทวนที่กำลังหลบหนี นอกจากนี้พล.ต.ท.สถาพรประกาศให้รางวัลกับผู้ที่สามารถแจ้งเบาะแสคนร้ายรายนี้จำนวนเงิน 10,000 บาทอีกด้วย

พล.ต.ท.สถาพร กล่าวว่า ตนรับปากกับตายายและครอบครัวของน้องจ๋าว่าจะจับกุมคนร้ายที่เหลืออีก 1 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว สำหรับคดีนี้ที่น้องจ๋าถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกายและใช้น้ำมันราดจุดไฟเผา ตนรู้สึกเป็นห่วง และหลังจากเสร็จภารกิจงานราชการก็มาดูแลเยี่ยมอาการด้วยตนเอง ตอนนี้น้องจ๋ายังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องที่ป้องกันการติดเชื้ออยู่


"อาการค่อนข้างสาหัสมาก"


ไฟไหม้ประมาณ 50% ของร่ายกาย อาการค่อนข้างสาหัส ส่วนผู้ต้องหาที่ทำร้ายน้องจ๋าตำรวจจับกุมได้ 3 คน หลบหนีไปได้ 1 คน คือนายคมทวน เจริญ ตอนนี้ขออนุมัติศาลออกหมายจับแล้ว และตนสั่งให้มีการสนธิกำลังตำรวจชุดสายสืบทั้งสส.ภาค 3, สืบสวนจังหวัด และสืบสวน สภ.อ.เมืองระดมกำลังออกตรวจค้นจับกุมและมีชุดไล่ล่า หาเบาะแสต่างๆ ทุกเส้นทางที่คาดว่านายทวนจะไปหลบซ่อนตัว

ผบช.ภาค 3 กล่าวต่อว่า ใครสามารถให้เบาะแสนายทวนได้ ตนจะให้รางวัล 1 หมื่นบาททันที กรณีที่แจ้งเบาะแสและตำรวจสามารถจับกุมตัวนายทวนได้ ตนถือว่าเป็นคดีที่อุกอาจและทำร้ายร่างกายอย่างสาหัส กระทบกระเทือนต่อจิตใจของประชาชนทั่วไปอย่างมาก


"ถือว่าเป็นคดีที่โหดเหี้ยมมาก"


ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่ดูสภาพร่างกายของน้องจ๋าที่ถูกไฟไหม้ร่างกายเกรียมแล้วรู้สึกอย่างไร พล.ต.ท.สถาพร กล่าวว่าน่าสงสารมาก และตนมอบเงินส่วนตัวช่วยญาติพี่น้อง คุณตา คุณยาย ที่เลี้ยงน้องจ๋ามาตั้งแต่เล็กเพื่อไว้เป็นเงินทุนทรัพย์ในการดูแล ตนคิดว่าคดีโหดเหี้ยมมาก ส่วนนี้คิดว่าสาเหตุจากการดื่มสุราจนเมามาย และกระทำไปโดยขาดสติ ซึ่งข้อหาที่ตั้งคือร่วมกันพยายามฆ่า และเป็นการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อนที่สุด กรณีนี้ถ้าผู้เสียหายหรือผู้บาดเจ็บถึงแก่ความตาย โทษสูงสุดก็คือขั้นประหารชีวิต ตนคิดว่าจะดำเนินการถึงที่สุด และจะตามหาคนร้ายจุดไฟเผาแล้วหนีไปให้ได้ภายในเร็ววันนี้

พล.ต.ท.สถาพร กล่าวต่อว่า เมื่อช่วงบ่าย ตนเรียกประชุมชุดสืบสวน ภ.3 และชุดสืบสวนสภ.อ.เมืองเพื่อคลี่คลายคดีนี้อย่างเต็มที่ ตนให้ความสนใจเรื่องความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนอย่างมาก ขอให้ความมั่นใจว่าจะพยายามจับกุมตัวนายทวนมาดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมืองให้ได้


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์