รัวโจ๋ 17 ดับในรถนางแบบ
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 4 มี.ค. ร.ต.ท.สรชัย กาญจนรุจวิวัฒน์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองนนทบุรี สาขารัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุยิงกัน ภายในหมู่บ้านโสภา หมู่ 9 ถนนงามวงศ์วาน ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ต.วิทยา บวรศิขริน สว.สส. สภ.อ.เมืองนนทบุรี
พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ศข 5560 กรุงเทพมหานคร จอดพุ่งชนเสาปูนปักเขตรั้วกั้น ที่ดินเปล่าริมถนน สภาพติดเครื่องยนต์คาอยู่ หน้ารถพังยับเยิน ข้างรถด้านซ้ายพบปลอกกระสุน .22 ตกอยู่ 3 ปลอก ภายในรถมีเลือดเปรอะเปื้อนเบาะที่นั่งคนขับเต็มไปหมด ส่วนที่พนักพิงมีรอยกระสุนทะลุไปตุงประตูด้านขวา 1 รู และทะลุพวงมาลัยไปตุงมุมขอบกระจกล่างหน้ารถ 1 รู ส่วนเหยื่อกระสุนถูกนำส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น ไปแล้วและเสียชีวิตระหว่างทาง ทราบชื่อนายกฤษดา จิรัตถิติกุล อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 5 ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีแผลถูกยิงที่ขมับซ้าย 1 นัด
สอบสวนนายสวาท นันทเพชร อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/1 ซอยซื่อตรง 1 หมู่ 4 ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี เพื่อนผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้ามืดได้ไปยืม รถเก๋งคันดังกล่าวมาจาก น.ส.กาญจนา ปะสาวะทัง อายุ 22 ปี แฟนสาวของตน ซึ่งเป็นนางแบบนิตยสารสำหรับผู้ชายฉบับหนึ่ง จากนั้นได้ให้นายกฤษดา ผู้ตายเป็นคนขับไปรับเพื่อนสาวอีก 2 คน โดยตนนั่งเบาะข้างคนขับ ส่วนเพื่อนสาวอีก 2 คน นั่งเบาะหลัง ชวนกันไปหานายเดฟ ไม่ทราบนามสกุล ภายในหมู่บ้านโสภา
นายสวาทให้การอีกว่า เมื่อไปถึงพบนายเดฟได้ ขี่รถ จยย.มากับเพื่อนชายอีกคนก่อนจะมีการพูดคุยตกลงปัญหาบางอย่างกัน แต่คุยกันไม่รู้เรื่องทำให้มีปากเสียงกัน นายกฤษดาเห็นท่าไม่ดีรีบขับรถออกมา แต่ถูกนายเดฟ ขี่รถ จยย.พาเพื่อนนั่งซ้อนท้ายไล่ประกบด้านซ้ายและตะโกนบอกให้ตนเปิดกระจกรถคุยกัน แต่ยังไม่ทันได้คุยอะไรเพื่อนของนายเดฟได้ชักปืนออกมาจ่อยิงใส่หน้าทันที จึงรีบก้มหัวหลบก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัดซ้อนกระทั่งรถเสียหลักไปชนสิ่งของริมถนน ถึงรู้ว่านายกฤษดาถูกยิงบาดเจ็บสาหัสจึงร่วมกับเพื่อนสาวอีก 2 คน ช่วยนำส่งโรงพยาบาล แต่สายเกินไป
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจตามคำให้การของนายสวาท เนื่องจากเชื่อว่ายังมีการปิดบังข้อมูลบางอย่าง ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบภายในรถอย่างละเอียด พบอุปกรณ์การเสพยาบ้าซุกซ่อนบริเวณใต้เบาะรถ 1 ชุด ส่วนนายเดฟเท่าที่ตรวจสอบประวัติพบว่าเป็นผู้กว้างขวางคนหนึ่งในย่านเตาปูน มีฉายาว่า เดฟ เตาปูน หรือชัย เตาปูน มีพฤติกรรมเกี่ยวพันกับธุรกิจไม่เปิดเผยบางอย่าง ในเบื้องต้นจึงเชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากปัญหาขัดแย้งกันเรื่องธุรกิจดังกล่าว