เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 27 มี.ค. เกิดโศกนาฏกรรมกับชาวเมืองชานกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย
ซึ่งเผชิญอุบัติภัยคล้ายคลื่นยักษ์สึนามิซัดใส่บ้านเรือน เมื่อเขื่อนดินกั้นแม่น้ำสิทู จินตังพังถล่มในช่วงเช้ามืดวันศุกร์ น้ำปริมาณมหาศาลไหลทะลักซัดเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็วและรุนแรงขณะที่ประชาชนกำลังหลับสนิท ทำให้มีผู้จมน้ำจำนวนมาก พบผู้เสียชีวิต 58 รายและสูญหายอีกหลายสิบคน แต่บางส่วนหนีเอาชีวิตรอดได้ทัน ติดค้างอยู่บนหลังคาบ้านรอหน่วยกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ
เขื่อนดังกล่าวพังถล่มในช่วงที่ชาวบ้านไม่มีโอกาสหนีเอาชีวิตรอด ขณะที่กำแพงน้ำซัดเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้าน
ซึ่งสร้างในที่ลุ่ม ลักษณะเหมือนคลื่นยักษ์สึนามิ ซัดอาคารบ้านเรือนพังราบและล้มระเนระนาด อีกหลายร้อยหลังจมอยู่ใต้น้ำ บางบ้านระดับน้ำท่วมสูงถึงหลังคา บางจุดน้ำท่วมสูงถึง 6 เมตร จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่ามีบ้านเรือนเสียหาย 500 หลัง
นายรัสทาม ปากายา หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ชาวบ้านบางส่วนอพยพออกไปแล้วแต่ยังเหลือตกค้างตามหลังคาบ้านอีกราวครึ่งหนึ่ง
ส่วนศพผู้ที่จมน้ำถูกนำมาวางเรียงรายเป็นแถวยาวที่หอประชุมของมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อให้ญาติมาชี้ตัวและรับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา เขื่อนดังกล่าวมีความสูงถึง 10 เมตร กักเก็บน้ำไว้ถึง 2 ล้านลูกบาศก์เมตร สาเหตุที่ทำให้พังถล่มเนื่องจากฐานรากของเขื่อนไม่ได้ใช้คอนกรีตในการก่อสร้าง ประกอบกับพายุฝนที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างหนักในช่วงหลายวันก่อนส่งผลให้เกิดรอยแตกร้าวที่กำแพงเขื่อน
กูฟรอน นักเรียนอายุ 17 ปี กล่าวว่า ตนหนีรอดมาได้ช่วงที่น้ำซัดบ้านเพราะตื่นขึ้นมาพอดีจึงปีนขึ้นไปบนหลังคา จากนั้นได้ยินเสียงคนร้องตะโกนโหวกเหวก แต่ลุงของตนเสียชีวิต ส่วนญาติอีก 3 คนจมน้ำหายไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
