บอดแค้นผัว ข่มขืนเมีย

ตำรวจรวบไอ้บอดข่มขืนแม่ค้าขายผักเพื่อระบายแค้นที่ถูกผัวผู้เสียหายข่มเหงจับมัดจู๋ ขณะเมาหลับรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 มี.ค. พ.ต.ท.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผกก.กสส.ศสส. ภ.4 ร่วมกับ พ.ต.อ.วีระวัฒน์ สระบัว ผกก.สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี และ พ.ต.ท.วุฒิชัย จันโทภาส รอง ผกก.ป. สภ.น้ำโสม

แถลงจับกุมนายณรงค์ชัย สระงาม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162 หมู่ 2 ต.ศรีสำราญ อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ซึ่งพิการตาข้างซ้ายบอด ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 155/2552 กล่าวหาว่า ชิงทรัพย์ และข่มขืน พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ลิปสติก กรรไกรตัดเล็บ และพวงกุญแจ  สำหรับเบื้องหลังคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา นายเอก (นามสมมติ) อายุ 35 ปี บ้านอยู่ ต.ศรีสำราญ อ.น้ำโสม ประคองร่างนางเล็ก (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ภรรยาเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.บรรจบ สีหานาวี พงส.(สบ 3) สภ.น้ำโสม ว่า นางเล็ก ภรรยา ถูกคนร้ายชิงทรัพย์และข่มขืน

โดยนางเล็กเหยื่อคนร้ายหื่นกามให้การถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า อยู่กินกับนายเอกจนมีลูกด้วยกัน 3 คน ยึดอาชีพเป็นแม่ค้า ขายผักในตลาด ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้ามืดได้ขี่รถ จยย.ออกจากบ้านตามลำพังเพื่อจะไปขายผักที่ตลาดตามปกติ

นางเล็กให้การอีกว่า ระหว่างวิ่งมาตามถนนบ้านนาจาน-บ้านนาโพธิ์ ต.ศรีสำราญ ซึ่งเป็นเส้นทางค่อนข้างเปลี่ยว และไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ปรากฏว่าได้ชนเส้นลวดที่มีคนนำมาขึงขวางถนนไว้จนขาด ทำให้ลวดพันเข้าไปในวงล้อขี่ต่อไปไม่ได้ ต้องจอดรถดึงเอาเส้นลวดออก ขณะดึงเส้นลวดออก มีคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงสีดำ ใช้ผ้าสีดำโพกพันหัวและใบหน้าเข้ามาล็อกคอทางด้านหลัง พร้อมกับเอามือปิดปากไม่ให้ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนลากไปในป่าละเมาะห่างจากถนนเข้าไปประมาณ 100 เมตร

แม่ค้าเหยื่อกามให้การต่อว่า ขณะนั้นพยายามต่อสู้สุดฤทธิ์ แต่ถูกคนร้ายชกที่ใบหน้าและหน้าท้องจนจุกเสียดหมดทางสู้

จากนั้น คนร้ายลงมือข่มขืน โดยขู่ฆ่าปิดปากหากขัดขืนจำต้องยอมให้ขืนใจจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง หลังเสร็จกิจคนร้ายคิดจะฆ่าทิ้ง แต่ได้ยกมือไหว้อ้อนวอนขอชีวิต ทำให้คนร้ายเปลี่ยนใจคว้ากระเป๋าสะพายภายในมีโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เงินสด 500 บาท สลากออมสิน กรรไกรตัดเล็บ ลิปสติก และพวงกุญแจบ้านของตนหลบหนีไป หลังเกิดเหตุเดินโซเซออกมาขี่รถกลับบ้านไปเล่าให้สามีฟังก่อนพาเข้าแจ้งความในสภาพหน้าตาเขียวช้ำ

ด้านนายณรงค์ชัย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า พิการตาข้างซ้าย ตาบอดมาตั้งแต่เด็กอายุได้ 4 ขวบ เนื่องจากถูกน้องเอานิ้วจิ้มตา

ปัจจุบันไม่มีอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง อาศัยรับจ้างทั่วไป พร้อมกับยอมรับว่าได้ ดักฉุดนางเล็กไปข่มขืนจริง สาเหตุเพราะแค้นนายเอก สามีของนางเล็ก ที่มักข่มเหงตนมาตั้งแต่เด็กๆ โดยนายเอกที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่มักเอาปมด้อยของตนที่พิการตาบอดไปกลั่นแกล้งสารพัดต่อหน้าต่อหน้าเพื่อนๆ กระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่จนถึงปัจจุบันก็ยังถูกนายเอกข่มขู่และหาเรื่องแกล้งไม่เลิก สร้างความอับอายไปทั่ว ทำให้เกิดความคับแค้นใจตลอดมา

นายณรงค์ชัยให้การอีกว่า ที่รู้สึกแค้นฝังใจสุดๆ คือเมื่อกลางปี 51 ที่ผ่านมา ขณะนั่งดื่มเหล้ากันที่บ้านเพื่อน นายเอกได้เล่นพิเรนทร์ ฉวยโอกาสช่วงที่ตนเมาหลับไม่รู้สึกตัว

โดยร่วมกับเพื่อนช่วยกันจับตนแก้ผ้าแล้วนำเชือกมามัดนิ้วหัวแม่เท้า ก่อนเอาปลายเชือกอีกข้างหนึ่งมัดกับอวัยวะเพศ แล้วเขย่าตัวปลุกให้ตื่น ปรากฏว่าพอขยับขาจะลุกขึ้น  ทำให้เชือกตึงกระชากอวัยวะเพศจนเจ็บปวดแทบขาดใจ  แต่ก็ยังไม่เท่ากับรู้สึกอับอายที่ถูกนายเอกกับเพื่อนหัวเราะชอบใจอย่างสนุกสนาน ทำให้ เกิดความแค้นฝังใจ พยายามหาโอกาสล้างแค้นมาตลอด แต่ไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร ก่อนเปลี่ยนใจหันมาระบายแค้นกับนางเล็กเมียของนายเอกแทน ผู้ต้องหารับสารภาพอีกว่า ก่อนเกิดเหตุรู้ว่านางเล็ก ขี่รถ จยย.ไปขายของที่ตลาดคนเดียว เลยเอาลวดไปขึงขวางทางเพื่อให้รถล้ม ก่อนลากไปข่มขืนในป่าละเมาะเพื่อเป็นการระบายแค้น จากนั้นนำโทรศัพท์มือถือและของในกระเป๋าติดมือไปด้วยแล้วหนีไปซ่อนตัวอยู่ในป่าก่อนย้อนกลับบ้าน และถูกตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว หลังก่อเหตุไม่รู้สึกเสียใจเลย แต่กลับสบายใจ เพราะได้ระบายความแค้นที่สะสมมานาน และเชื่อว่าตอนนี้นายเอกคงแค้นตนมากกว่าหลายเท่า