จับแล้วมือฆ่า อดีตผอ.ภัทรฯเพื่อนสนิทเมียผู้ตาย

จากคดีนายธีระยุทธ วรวิทยานนท์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/274 หมู่ 9 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. อดีตผู้อำนวยการบริษัทหลักทรัพย์ภัทรธนกิจ จำกัด (มหาชน)

ถูกจ่อยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้ากกหูซ้ายทะลุปาก ตายคาเบาะคนขับในรถเก๋งมาสด้าสีเขียวเข้ม ทะเบียน 7 ฮ-3873 กรุงเทพมหานคร ที่จอดติดเครื่องอยู่กลางซอยเทพกุญชร 24 หมู่ 12 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จนหม้อน้ำเดือดเครื่องน็อกดับสนิท เหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยพยานเห็นนายธีระยุทธขับรถเข้าไปในซอย โดยมีผู้หญิงนั่งคู่ด้านหน้า ก่อนจะกลายเป็นศพถูกฆ่าโหด ขณะที่เมียผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายธีระยุทธออกไปพบแพทย์ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แล้วหายเงียบไป กระทั่งตำรวจโทรศัพท์ไปแจ้งเหตุร้าย คาดคนร้ายต้องมีความคุ้นเคยกับผู้ตาย มุ่งปมขัดแย้งส่วนตัวนั้น

 

ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถปิดคดีฆ่าอดีต ผู้อำนวยการบริษัทหลักทรัพย์ภัทรธนกิจได้เป็นผลสำเร็จ

โดยเมื่อเช้าวันที่ 8 มี.ค. พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จ. ปทุมธานี พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท. พิชาญ ทองสุกแก้ว รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ขวัญชัย เผือกพูนผล รอง ผกก.กสส.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.ต.ธีรพรรดิ์ บัณฑิโตหิรัญโชติ สว.สส. สภ.คลองหลวง พร้อมกำลังพร้อมหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 328/2552 ลว. 8 มี.ค.52 บุกเข้าจับกุมตัวนายธนิสร หรือต่อ หรือหมาย บำรุงจิตร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/26 ม.11 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน บริเวณถนนเลียบคลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ขณะขับรถยนต์กลับจากธุระ คุมตัวมาสอบสวน ซึ่งนายธนิสรได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อหา จากนั้นในช่วงบ่ายจึงนำตัวนายธนิสรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

 

พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี เปิดเผยถึงเบื้องหลังการคลี่ปมมรณะว่า หลังจากเกิดเหตุได้สั่งการให้ พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง ผบก. ภ.จ.ปทุมธานี เป็นหัวหน้าชุดนำกำลังตำรวจ กสส.ภ.จ.ปทุมธานี ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง

โดย พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ ผกก. ลงพื้นที่หาข่าวและข้อมูลทั้งในที่เกิดเหตุพยานแวดล้อม รวมทั้งบุคคลใกล้ชิดกับผู้ตาย เนื่องจากสันนิษฐานว่าคนร้ายต้องมีความสนิทสนมหรือรู้จักมักคุ้นกับผู้ตาย กระทั่งชุดสืบสวนได้ข้อมูลจากคำให้การของนางชุติมา วรวิทยานนท์ อายุ 53 ปี ภรรยาผู้ตาย ที่ระบุว่าก่อนเกิดเหตุนายธีระยุทธไปพบแพทย์โรคหัวใจที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ก่อนจะหายเงียบไป มารู้ข่าวอีกครั้งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ไปแจ้งข่าวร้ายที่บ้าน ซึ่งขัดกับหลักฐานและแนวทางการสืบสวนอย่างสิ้นเชิง

 

ผบก.ภ.จ.ปทุมธานีกล่าวอีกว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนางชุติมา มาสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง ก่อนที่จะปริปากเผยความจริงว่า ก่อนเกิดเหตุได้ให้นายธีระยุทธ มารับที่ป้ายรถเมล์ริมถนนพหลโยธิน หน้า รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

ก่อนจะขับรถมารับนายธนิสร ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเพื่อนชายที่มีความสนิทสนมกัน และเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์ แต่ไม่รู้เรื่องการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลแน่ชัดและมีพยานแวดล้อมยืนยันว่าคนร้ายที่ก่อเหตุนั้นคือนายธนิสร จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับ และติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา

 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เคยเป็นเจ้าของร้านสปาย่าน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อมาเลิกกิจการลง และหันมาเป็นนายหน้าขายที่ดินและรับจำนองซื้อขายรถยนต์

กระทั่ง 4-5 ปีก่อน ได้รู้จักกับนางชุติมา ภรรยาผู้ตาย และมีความสนิทสนมกันมากขึ้นและมีการทำธุรกิจร่วมกัน โดยที่นางชุติมาได้เงินลงทุน
มาจากผู้ตายโดยที่ผู้ตายยังไม่เคยรู้จักตน ระยะหลังเศรษฐกิจย่ำแย่ธุรกิจที่ทำอยู่ไม่สู้ดีนัก ทำให้นายธีระยุทธ ทวงเงินที่ให้นางชุติมานำไปลงทุนนับล้านบาทคืนหลายครั้ง และยังด่าทอต่างๆนานา ซึ่งนางชุติมามักจะมาบ่นให้ตนฟังหลายครั้ง ตนรู้สึกเห็นใจและสงสารที่นางชุติมา ต้องมาถูกด่าเพราะตน จึงโทรศัพท์หานางชุติมาก่อนเกิดเหตุ 2 วัน บอกว่าจะจัดการเรื่องเงินทองเอง และขอให้นายธีระยุทธไปรับเงินกับตนด้วยตัวเอง

 ผู้ต้องหาปืนโหดให้การอีกว่า ในวันเกิดเหตุตนได้นัดแนะกับนางชุติมา ให้มารับบริเวณถนนสีขาว ริมถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง

และเมื่อถึงเวลานัดหมายนางชุติมานั่งรถมากับนายธีระยุทธ ผู้ตาย และจอดรับตนโดยให้นั่งที่เบาะหลัง จากนั้นนางชุติมาได้ขอตัวแยกทางไปหาลูกค้าอีกรายที่ย่านรังสิต เหลือเพียงตนกับนายธีระยุทธอยู่ภายในรถ ก่อนที่ตนจะลวงให้ขับรถเข้ามาในซอยที่เกิดเหตุและได้ให้นายธีระ
ยุทธจอดรถเพื่อพูดคุยเจรจาแต่คุยไม่รู้เรื่อง จึงชักอาวุธปืนขนาด .38 ขึ้นมาจ่อยิงนายธีระยุทธ 2 นัด แล้วเดินมาขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างปากซอย และทำเหมือนไม่ มีอะไรเกิดขึ้น รวมทั้งยังไปร่วมในงานสวดและวันเผาศพอีกด้วย แต่ไม่วายถูกตำรวจจับกุมจนได้

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์