การขยายผลดำเนินคดีแก๊งโจรกรรมยกเซฟตามหมู่บ้านหรูที่มีนายหทัย ไชยวัณณ์ นักแข่งรถแชมป์ ประเทศไทยหลายสนามเจ้าของฉายา “ออฟซ่า” อยู่ร่วมขบวนการ
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักทรัพย์ ภายในบ้านทยอยกันเดินทางไปดูของกลางที่เก็บไว้ใน สน.วังทองหลาง มี พ.ต.อ.สมิต เชิงสะอาด ผกก.จัดพื้นที่ให้เหยื่อลงทะเบียน ก่อนเข้าไปตรวจสอบของกลางอยู่ที่หน้าห้องประชุมชั้น 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำของกลางบางส่วนใส่ตู้กระจกไว้ให้ดูอย่างละเอียด บางส่วนมีไว้เฉพาะรูปถ่าย เนื่องจากมีจำนวนมาก ไม่สามารถนำมาแสดงให้ดูได้หมด ยกเว้นผู้เสียหายเห็นภาพถ่ายแล้วไม่แน่ใจถึงนำเอาของจริงไปให้ดูอีกครั้ง
พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 กล่าวว่า ของกลางกว่า 300 ชิ้น ได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่ สน.วังทองหลาง
ตามคำสั่ง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ที่กำชับให้ทำด้วยความละเอียดรอบคอบ ไม่ให้ของกลางหายไปแม้แต่ชิ้นเดียว และขอยืนยันว่าไม่มีของกลางหายไปตามที่มีข่าวลือออกมาอย่างแน่นอน ขณะนี้ตำรวจปวดหัวเรื่อง ของกลางมาก เพราะเท่าที่มีผู้เสียหายมาดูพบว่าของ 1 ชิ้น มีเจ้าของ 7-8 รายยืนยันเป็นของตัวเอง ดังนั้น เพื่อเป็นการคืนทรัพย์สินให้แก่เจ้าของตัวจริงที่ถูกต้อง จึงสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบก่อนส่งมอบ มีคณะกรรมการทั้งสิ้น 7 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. วังทองหลาง เป็นคณะกรรมการส่งมอบทรัพย์สิน หากมีประชาชนพบว่าของกลางเป็นของตัวเองต้องประสานงานท้องที่เกิดเหตุก่อนเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการลงมติ 5 ใน 7 เสียงถึงสามารถคืนทรัพย์สินเพื่อความโปร่งใส ส่วนทรัพย์สินที่ผู้ต้องหานำไปขายรวมถึงเงินสดแล้วเอาไปซื้อของ เช่นรถยนต์ บ้าน ทองรูปพรรณ ปืน ต้องตรวจสอบที่มาว่าได้มาจากการกระทำผิดหรือไม่ หากได้มาจากการกระทำผิดก็ต้องตรวจยึดตามขั้นตอน
ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.หน.ศส.บช.น.เดินทางไปที่ สน.วังทองหลาง
เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยในทรัพย์สินของกลาง 300 กว่ารายการที่ยึดได้จากแก๊งนักแข่งรถชื่อดัง ก่อนประชุมสรุปความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี จากนั้น พล.ต.ท.วรพงษ์กล่าวว่า ได้ให้ความเป็นห่วงเรื่องการคืนของกลาง และตรวจสอบทรัพย์สิน เพราะจากข้อมูลของผู้เสียหายทราบว่ามีทรัพย์สินหลายรายการ ถูกกลุ่มผู้ต้องหาซุกซ่อนอยู่ เช่น พระเครื่องชุดเบญจภาคี ทองคำแท่งประมาณ 20 กิโลกรัม ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ไม่สามารถนำออกจำหน่ายได้ง่ายๆ จึงให้ฝ่ายสืบสวนเข้าตรวจค้นตามจุดที่สงสัยว่า คนร้ายนำไปซุกซ่อนไว้ นอกจากนี้ ทรัพย์สินบางรายการจะต้องมีการพิสูจน์ทราบมูลค่า เช่นพระเครื่องและเครื่องเพชร โดยจะได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือไม่ เพราะเคยมีกรณีที่ผู้เสียหายนำภาพถ่ายพระเครื่องที่ถูกโจรกรรมไปแจ้งความ แต่เมื่อมาตรวจสอบแล้วพบเป็นของปลอม
ด้าน พ.ต.อ.สมิต เชิงสะอาด ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเดินทางมาดูทรัพย์สินของกลางแล้ว 249 ราย
ชี้ยืนยันเป็นของตัวเองจำนวน 64 ชิ้น เท่ากับมีคดีร่วมกันลักทรัพย์แล้ว 64 คดี มูลค่าหลายล้านบาท ทำให้พนักงานสอบสวนต้องไปสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกหลายประเด็นในเรือนจำ รวมทั้งสอบพยานอีกบางส่วน คาดว่าจะสรุปสำนวนคดีเสร็จได้ ภายในระยะเวลา 2 เดือน
และต้องตรงกับบัญชีตรวจยึดของกลางของ กก.สส.บก.น.4 เนื่องจากของกลางมีจำนวนมาก ทรัพย์สินหลายชิ้นมูลค่ารวมแล้วหลายล้านบาท หากไม่ละเอียดรอบคอบ ผบช.น.เป็นห่วงว่าอาจเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เฉกเช่นคดีเพชรซาอุดีอาระเบียที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายอมของกลางจนกลายเป็นข่าวดังฉาวโฉ่วงการสีกากีกลายเป็นบทเรียนสำคัญของเจ้าหน้าที่ ตำรวจถึงทุกวันนี้