เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 7 มี.ค. พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันตาย 2 ศพ บนถนนสายปัตตานี-ยะลา ท้องที่หมู่ 7 บ้านปูยุด จึงรายงานให้ พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นำกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุริมถนนพบศพนายอรุณ สุดมาส อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 3 บ้านป่าสี ต.ตะโล๊ะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทำงานเป็นนักการภารโรง ร.ร.ชุมชนวัดป่าสี ต.ตะโล๊ะ อ.ยะหริ่ง มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนอาก้า กระสุนปืน 11 มม.และกระสุนปืน 9 มม.ร่างพรุน แถมศพถูกเผาดำเป็นตอตะโก ส่วนอีกศพทราบชื่อนายหิรัญ สุดมาส อายุ 36 ปี น้องชายนายอรุณ เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านป่าสี ต.ตะโล๊ะ อ.ยะหริ่ง ศพนอนตายสุดสยองใกล้กัน ตามลำตัวมีรอยถูกยิงพรุนแถมศพถูกเผาไหม้ดำเกรียม ห่างกันไม่ไกลพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน กบน ปัตตานี 536 ของผู้ตายล้มพังเสียหายมีคราบเลือดเปรอะรถแดงฉาน นอกจากนั้นยังพบใบปลิวเขียนด้วยปากกาเคมี มีข้อความว่า “ถ้าเจ้าหน้าที่ยังไม่เลิกทำร้ายชาวมาลายูผู้บริสุทธิ์” จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายอรุณ เหยื่ออำมหิตขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน จะไปส่งนายหิรัญ น้องชาย ซึ่งเรียนอยู่ที่วิทยาลัยการชุมชน อ.เมืองปัตตานี
ถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้าย 4 คน พร้อมอาวุธปืนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ 2 คน ขี่แซงประกบ แล้วใช้ปืนคนละกระบอก กราดยิงถล่มร่างพรุนทั้งคู่ รถเสียหลักล้มดับอนาถคาที่ จากนั้นคนร้ายลากศพวางคู่กันที่ริมถนน ก่อนใช้น้ำมันเบนซินราดแล้วจุดไฟเผาพร้อมทิ้งใบปลิวไว้เป็นหลักฐาน ก่อนพากันขี่รถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว คาดเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ เพื่อแก้แค้นให้กับแนวร่วมที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเกือบ 10 คน ในช่วง 2-3 วันนี้
ใต้ฆ่าเผาสด 2ศพพี่-น้อง คาดล้างแค้น
ส่วนที่ จ.นราธิวาส บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ท.ปรีชา กิ่มเกลี้ยง สว.นปพ.นราธิวาสที่ 2 พร้อมด้วย พ.ท.ยุทธนา สายประเสริฐ ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 สนธิกำลังตำรวจทหารกว่า 100 นาย ใช้กฎอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้น 8 จุดเป้าหมายในพื้นที่บ้านดอเฮะ
หมู่ 3 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี หลังสืบทราบว่า มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีแฝงตัวเคลื่อนไหวประชุมวางแผนก่อเหตุร้ายในพื้นที่ ผลการตรวจค้นสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นเยาวชนชายได้ 8 คน นำตัวไปสอบขยายผลที่ฐานปฏิบัติการย่อย ร้อย ร.15132 ฉก.นราธิวาส 31 จากการสอบสวนปรากฏว่า 2 ผู้ต้องสงสัย ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเปิดเผยถึงแหล่งซุกซ่อนอุปกรณ์ในการผลิตระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 จุด
หลังทราบเรื่อง พ.ต.อ.ชาญ วิมลศรี รอง ผบก.ภ. จ.นราธิวาส ร่วมกับ พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ สว.กองวิทยาการ จ.นราธิวาส และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เดินทางไปค้นหาตามคำให้การของ 2 ผู้ต้องสงสัย
คือในป่ารกทึบเชิงเขากลางสวนยางพารา ห่างจากมัสยิดหมู่บ้านดอเฮะราว 2 กม. ใต้ต้นทุเรียนพบถุงพลาสติกสีดำขนาดใหญ่ซุกซ่อนอยู่ ภายในมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตระเบิดแสวงเครื่องจำนวนมาก อาทิ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล สายไฟฟ้า สีโป๊ว ถ่านไฟฉาย มิเตอร์วัดกระแสไฟฟ้า ดินดำ เสาวิทยุสื่อสาร ประทัดยักษ์ และหลอดไฟฟ้าแบบกลม ส่วนในโพรงต้นสะตอห่างกันไม่มาก พบถุงดำบรรจุอุปกรณ์ระเบิดอีกส่วนหนึ่ง จึงยึดไว้ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป