ตร.ชุมพรล่าคนร้ายฆ่าทุบหัวแม่เฒ่าวัย 68 ชิงทรัพย์แล้วหลบหนี ทิ้งศพไว้กลางบ้าน เผยผู้ตายเป็นคนมีฐานะดี เข้าขั้นเศรษฐินี ก่อนตายดุด่าชายหนุ่มซึ่งเป็นคู่ขาลูกชายที่เป็นตุ๊ด เลยถูกทำร้ายจนตาย
ก่อนที่คนร้ายจะชิงเอาสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทติดมือไป มีพยานเห็นคนร้ายวิ่งออกจากบ้านไปจะจะ ตร.สกัดจับแต่ไร้วี่แวว แฉผู้ตายกับคนร้ายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน เพราะผู้ตายกลัวว่าลูกชายจะถูกหนุ่มคู่ขาหลอกเอาเงิน เจอกันเมื่อไหร่เป็นมีเรื่องเมื่อนั้น จนกระทั่งตัวเองถูกฆ่าในที่สุด เมื่อเวลา 11.15 น.วันที่ 7 มี.ค.พ.ต.ต.พัฒนา กองช่าง สารวัตรเวร สภ.สวี อ.สวี จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 3 ต.ท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมด้วยพ.ต.อ.สมภพ กันทศรี ผกก. พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ ประเสริฐผล รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ธรรมรัตน์ อินนาปา สว.สป. หน่วยกู้ภัยชุมพรการกุศลสงเคราะห์ กำลังสายสืบ สายตรวจจำนวนหนึ่ง รุดไปที่เกิดเหตุ
ฆ่าทุบหัวเศรษฐินี ฝีมือเกย์ คู่สวาท-ลูกชายตุ๊ด!
ถูกคู่ขาลูกชายซึ่งเป็นเกย์ทุบศีรษะและรัดคอ
เสียชีวิตคาบ้านพักใน อ.สวี จ.ชุมพร เพราะแค้นที่ผู้ตายดุด่า
โดยกระชากสร้อยคอทองคำ 1 บาทไปด้วย ตามข่าว
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ขนาดใหญ่ในเนื้อที่หลายสิบไร่ แวดล้อมด้วยสวนผลไม้ ภายในห้องโถงชั้นล่างของบ้านที่พื้นพบร่างนางหนูจันทร์ ปัญญารักษ์ อายุ 68 ปี นอนเสียชีวิต สภาพศพ ถูกคลุมด้วยผ้าห่ม
เปิดออกมาดูพบว่า ศพนอนจมกองเลือดไหลนองพื้น จึงให้แพทย์เวรจากร.พ.สวี ชันสูตรพลิกศพสภาพศพสวมเสื้อคอกระเช้า ผ้าถุงลายดอก ที่หน้าผากมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็ง ศีรษะด้านหลัง ถูกทุบด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์ ที่ลำคอมีร่องรอยถูกรัด คาดว่าเสียชีวิตไม่เกิน 1 ช.ม. ตรวจสอบทรัพย์สินในร่างกาย พบว่าสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาทหายไป แต่ทรัพย์สิน อย่างอื่นในบ้านยังอยู่ครบ นอกจากนั้น ยังพบชิ้นส่วนของสร้อยคอทองคำ 1 ท่อน ตกอยู่ที่พื้นทางเดินเข้าบ้าน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้มีเพื่อนบ้านมาหานางหนูจันทร์ แต่ไม่มีใครออกมาจากบ้าน กระทั่งเจอนายไพฑูรย์ หรือเอก อินทรจันทร์ อายุ 30 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 88/1 หมู่ที่ 12 ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นคู่ขา ของนายวัชรินทร์ ปัญญารักษ์ อายุ 34 ปี ลูกชายคนสุดท้องของนางหนูจันทร์
ที่มีพฤติ กรรมพวกรักร่วมเพศ วิ่งหน้าตาตื่นออกจากบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนร้าย เจ้าหน้าที่จึงวิทยุสกัดจับแต่ไร้วี่แวว สำหรับนางหนูจันทร์ผู้ตาย นับเป็นผู้ที่มีฐานะร่ำรวยเข้าขั้นเศรษฐินี มีทรัพย์สินมากมาย ก่อนหน้านี้ได้แบ่งทรัพย์สินให้กับลูกๆ แยกไปสร้างครอบครัวใหม่ พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวกับนายวัชรินทร์ ซึ่งในวันเกิดเหตุนายวัชรินทร์ไม่อยู่บ้าน ที่ผ่านมา นางหนูจันทร์ไม่พอใจที่นายวัชรินทร์ซึ่งมีท่าทางกระตุ้งกระติ้งเป็นตุ๊ด ที่พานายไพฑูรย์ หรือ "เอก" หนุ่มคู่ขาเข้าบ้าน เนื่องจากเกรงว่าจะถูกนายไพฑูรย์หลอกลวงเอาทรัพย์สิน จึงจะดุด่าและขับไล่นายไพฑูรย์ทุกครั้งที่พบกัน วันเกิดเหตุผู้ตายก็ดุด่านายไพฑูรย์อีกเช่นกันจนกระทั่งถูกฆ่าในที่สุด