ชาวสงขลานับพัน บุกล้อมโรงพักแค้นคนร้ายฆ่าข่มขืน

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (17 ก.พ.) ว่า เมื่อเวลา 00.55 น. ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน นายอภิชาต หรือติ่ง คงแก้ว อายุ 32 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 29/9 ม. 1 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืน น.ส.อนุรักษ์ เอดติ้ง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 ม. 10 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา อดีตพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.สะเดา ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่บริเวณป่าสวนยาง ม.10 ต.สำนักแต้ว ได้มีกลุ่มชาวบ้านกว่าพันคน มารวมตัวปิดล้อมโรงพัก เนื่องจากแค้นที่ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนผู้ตาย 
 

โดยวานนี้ (16 ก.พ.) พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ผบก.ภ.จว.สงขลา

พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.สงขลา พ.ต.ท.ศักดา เจริญกุล รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวนฯ และ พ.ต.ท.นิรัตน์ ปานดำ รอง ผกก.สภ.สะเดา ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายอภิชาต ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืน น.ส.อนุรักษ์ โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา จับกุมตัวได้ เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ขณะหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านญาติในพื้นที่หมู่ 5 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา โดยตำรวจตามแกะรอยจากหลักฐานที่พบอยู่ในจุดเกิดเหตุทั้งรถจักรยานยนต์ และรองเท้าแตะของผู้ต้องหา

ทั้งนี้ จากการสอบสวน นายอภิชาต ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่า น.ส.อนุรักษ์จริง แต่ไม่ได้ข่มขืน โดยในวันเกิดเหตุได้ตั้งวงดื่มเหล้ากับเพื่อนอีก 4 คน

ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์ออกไปซื้อของ แต่ระหว่างทางรถเกิดเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ของ น.ส.อนุรักษ์ และเกิดโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ทำให้ตนโมโห จึงลากตัว น.ส.อนุรักษ์ เข้าไปในป่าสวนยางริมทาง เพื่อพยายามข่มขืน แต่ น.ส.อนุรักษ์  พยายามขัดขืนโดยใช้มือตบหน้า และกัดลิ้น ตนจึงใช้จอกรองน้ำยางทุบเข้าที่ศีรษะหลายครั้งจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไปโดยทิ้งรถจักรยานยนต์ที่ยืมมาจากเพื่อน และรองเท้าแตะที่หลุดไว้ในที่เกิดเหตุ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ นายอภิชาต เนื่องจากผลการชันสูตรศพพบร่องรอยของการถูกข่มขืน

โดยมีคราบอสุจิติดอยู่ที่อวัยวะเพศของผู้ตาย และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายอภิชาต เป็นผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวดำเนินคดีใน ข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข่มขืนหญิงซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยหญิงอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย