รมว.ศธ.เอาจริง เชือดผู้บริหารฯ ปล่อยเด็กตีกัน

ปัญหานักเรียนอาชีวะยกพวกตีกันเริ่มกระจายไปทั่วเมืองถึงขั้นเข้าใจผิดไล่ทำร้ายนายประเสริม ระไวกลาง ช่างซ่อมบำรุงบริษัทวีแอนด์วี สยามพลาสติก จำกัด ย่านนครปฐม

ขณะยืนอยู่ป้ายรถประจำทางหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาบางแค ได้รับบาดเจ็บเพราะสวมเสื้อช็อปคล้ายสถาบันคู่อริ ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 ก.พ. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ เดินทางไปเยี่ยมดูอาการนายประเสริมเหยื่อลูกหลงจากนักเรียนช่างกลที่ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ห้อง 408 ชั้น 4 รพ.บางไผ่ หลังจากนั้นนายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์ว่า ปัญหาเรื่องนักศึกษา ยกพวกตีกัน เป็นเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการห่วงอยู่ และกำชับไปยังสถานศึกษาทุกระดับแล้วให้เฝ้าระวังนักเรียน นักศึกษาที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เชื่อว่าสถานศึกษาแต่ละแห่งทราบอยู่แล้วว่าเด็กกลุ่มใดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นกับนายประเสริม หากจับกุมผู้ที่ก่อเหตุได้ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย  

นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า หากสถานศึกษาใดที่มีนักเรียน นักศึกษาไปก่อเหตุ ผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องรับผิดชอบด้วย

หรืออาจารย์ที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ท้ายเด็กก็จะต้องมีการลงโทษอาจารย์ด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่อ วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้นัดประชุมสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เพื่อหาแนวทางในการจัดกิจกรรมร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และหาทางแก้ไขปัญหาการขัดแย้งกันระหว่างทั้ง 2 สถาบันแล้ว อย่างไรก็ตาม หากเกิดการยกพวกตีกันขึ้นมาอีกก็คงต้องใช้ยาแรงขั้นเด็ดขาด ต้องจัดการ ต้องมีมาตรการลงโทษ ที่ผ่านมาทำกันแบบลูบหน้าปะจมูก ส่วนจะถึงขั้นให้ปิดทั้ง 2 สถาบันหรือไม่ ยังไม่อยากพูดถึงตรงนั้น อยากให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) พิจารณา เพราะสถานศึกษาแต่ละแห่งมีกฎระเบียบอยู่แล้ว ขอให้บังคับกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และขอย้ำให้สถานศึกษาที่มีเด็กกลุ่มเสี่ยงที่จะก่อเหตุทะเลาะวิวาทให้มีการเฝ้าระวัง และตื่นตัวตลอดเวลา

ด้าน พล.ต.ต.ฉักกฉัฐ กิตติขจร ผบก.น.9 กล่าวว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของศูนย์รถยนต์โตโยต้า และหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาบางแค

จนทราบแล้วว่ากลุ่มนักศึกษาที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายนายประเสริม ระไวกลาง เป็นเด็กจากสถาบันไหน พร้อมส่งหนังสือไปขอความร่วมมือจากสถาบันให้รีบนำตัวผู้ต้องหา มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจด่วน เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความเข้าใจผิดของกลุ่มผู้ต้องหาที่เห็นเหยื่อใส่เสื้อช็อปคล้ายสถาบันคู่อริเท่านั้น ซึ่งตำรวจในพื้นที่มีการเฝ้าระวังอย่างดี และต่อเนื่องมาตลอด โดยเฉพาะจะเน้นตรวจตราตามเส้นทาง และช่วงเวลาที่นักศึกษามักจะก่อเหตุทำร้ายกัน แต่กรณีนายประเสริมนั้นถือว่าสุดวิสัยจริงๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่งตรวจตราผ่านไปไม่นานก่อนมาเกิดเหตุ เชื่อว่าทางสถาบันน่าจะมีแฟ้มข้อมูลของนักศึกษาทุกคนอยู่แล้ว คาดว่าไม่นานจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดี