นศ.แม่โจ้ร่ำไห้ รับศพเหยื่อหื่น

จากคดีฆาตกรหื่นกามงัดห้องพักเลขที่ 405 หอพักอัญชลี เลขที่ 158 หมู่ 9 ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

ตรงข้ามมหาวิทยาลัยแม่โจ้ บุกเข้าไปใช้หมอนกดปิดหน้า น.ส.วิไลรัตน์ กุจะพันธ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 10 ต.เอราวัณ กิ่ง อ.เอราวัณ จ.เลย นักศึกษาชั้นปี 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่ง นอนอยู่ตามลำพัง แล้วรุมข่มขืนจนตายคาที่ เพื่อนนักศึกษาไปพบศพเมื่อตอนสายวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจสามารถลากคอนายจายบึก อายุ 22 ปี ชาวพม่าเชื้อสายไทยใหญ่ คนงานก่อสร้างหอพักใกล้กัน มาดำเนินคดีได้แล้ว และอยู่ระหว่างตามล่านายนุ้ย หรือทุน เพื่อนชาวพม่าที่ร่วมก่อเหตุสยอง ขณะที่นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ กว่าพันคนยื่นคำขาดให้เจ้าของหอพักผลักดันแรงงานต่างด้าวออกจากพื้นที่ก่อน 18.00 น. วันที่ 9 ก.พ.นั้น 


ความคืบหน้าการตามล่าฆาตกรเหี้ยมเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 ก.พ. พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ เดินทางมาที่ สภ.สันทราย

เรียกชุดสืบสวนสอบสวนประชุมวางแผนล่านายนุ้ย ฆาตกรหื่นที่ยังหลบหนี ซึ่งทราบว่านายนุ้ยได้หลบหนีไปตั้งแต่คืนวันที่ 8 ก.พ. แต่ยังไม่ออกนอกพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พร้อม แบ่งกำลังเร่งล่าตัวให้ได้โดยเร็ว กำชับให้ตำรวจใช้ความระมัดระวังเนื่องจากคนร้ายมีปืนติดตัว ซึ่ง พ.ต.อ.ภาณุเดชยังแสดงความหนักใจกรณีคนงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำงานมักจะไม่มีประวัติที่จะติดตาม ได้แต่สกัดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี ขณะเดียวกัน ตำรวจก็ยังไม่สามารถนำนายจายบึกไปทำแผนประทุษกรรมได้ เนื่องจากกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ยังปักหลักวนเวียนอยู่ที่หอพักที่เกิดเหตุจำนวนมาก ทำให้ยากแก่การควบคุม


ตอนสายวันเดียวกัน นายสุปัญญา กุจะพันธ์ อายุ 50 ปี นางลำดวน กุจะพันธ์ อายุ 53 ปี พ่อแม่ของ น.ส.วิไลรัตน์ ผู้ตาย พร้อมญาติ

เข้าพบ พ.ต.ท.มานพ พิมสาร รอง ผกก.สส.สภ.สันทราย เพื่อทำเรื่องขอรับศพ น.ส.วิไลรัตน์ โดย พ.ต.ท.มานพได้แจ้งว่า นายจายบึก ผู้ต้องหา อ้างว่าร่วมกับนายนุ้ย เพื่อน งัดเข้าไปเพื่อลักทรัพย์ เพราะคิดว่าไม่มีคนในห้อง แต่พอเข้าไปแล้วพบ น.ส.วิไลรัตน์นอนอยู่ในห้อง ทำท่าจะร้องขอความช่วยเหลือ นายนุ้ยจึงชกเข้าที่ท้องแล้วใช้หมอนกดปิดใบหน้าจนแน่นิ่ง ก่อนที่นายจายบึกจะลงมือข่มขืนเป็นคนแรกจนสำเร็จความใคร่ นายนุ้ยข่มขืนต่อ โดยไม่รู้ว่า น.ส.วิไลรัตน์เสียชีวิตหรือยัง จากนั้นนายสุปัญญาและนางลำดวนขอดูตัวนายจายบึกที่ถูกคุมตัวอยู่ในห้องขัง โดยนางลำดวนร่ำไห้ถามว่าฆ่าลูกตนทำไม พร้อมกันนี้นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้กลุ่มใหญ่ฮือเข้าไปดูหน้านายจายบึก ตะโกนด่าและสาปแช่งด้วยความโกรธแค้น


ขณะที่บริเวณหอพักอัญชลี ที่เกิดเหตุ มีนักศึกษาชายหญิงมหาวิทยาลัยแม่โจ้หลายร้อยคนมาดักรอเจ้าหน้าที่ตำรวจนำผู้ต้องหามาทำแผนประทุษกรรม

บางกลุ่มยังเดินสำรวจตามเพิงพักคนงานหลังหอพักที่เกิดเหตุ ดูว่ามีการรื้อถอนออกไปตามที่เคยยื่นคำขาดไว้หรือไม่ พบว่ากลุ่มคนงานชาวไทยกำลังช่วยกันรื้อเพิงพัก โดยมีนายน้อย มหึมา หัวหน้าคนงาน ควบคุมการรื้อถอน ซึ่งนายน้อยกล่าวว่า เสียใจมากที่เกิดเหตุขึ้น ปกติตนจะต่อต้านคนงานชาวพม่าและชาวไทยใหญ่ แต่นายจายบึกเป็นช่างสีที่มีคนฝากเข้ามาทำงานชั่วคราว จึงรับไว้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางกัลยา อภิชาติกุล หรือเจ๊จู เจ้าของหอพักที่นายจายบึกเข้าไปทำงานอยู่ ได้ให้นายสมศักดิ์ โอภาสเจริญวิทย์ ผู้ดูแลหอพักนำเงิน 10,000 บาทมอบให้นางลำดวน แม่นักศึกษาเหยื่อโหด

เพื่อช่วยค่าทำศพ และจะส่งให้อีก 40,000 บาท พร้อมรับปากจะป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีก ส่วนนายวินัย เชียวรัตนพันธ์ เจ้าของหอพักอัญชลี มอบเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท 

ทางด้าน รศ.อาคม กาญจนประโชติ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า ทางมหาวิทยาลัยได้ทำประกันภัยให้นักศึกษาทุกคนไว้กับบริษัททิพยประกันภัย จะมอบเงินให้ 140,000 บาท และยังจะมีเงินช่วยเหลือด้านสวัสดิการและของนักศึกษาเองด้วย และทางมหาวิทยาลัยจะเชิญผู้ประกอบการหอพักรอบมหาวิทยาลัย ที่มีกว่า 300 แห่ง มาพูดคุยเรื่องมาตรการต่างๆในการป้องกันเหตุ หากยังไม่ให้ความร่วมมืออีกก็จะแจ้งไม่ให้นักศึกษาเข้าไปพัก ซึ่งระเบียบต่างๆรอบล้อมรั้วมหาวิทยาลัย จะต้องมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งบันเทิงจำนวนมาก ในส่วนของคนต่างด้าวที่เข้ามาสร้างหอพักและงานก่อสร้างยังมีอีกจำนวนมากที่ต้องดำเนินการ


ต่อมาเวลา 14.00 น. นางลำดวน แม่ผู้ตาย ร่วมกับทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป เข้าไปที่ห้องเกิดเหตุ

ทำพิธีสวดเชิญวิญญาณ น.ส.วิไลรัตน์ไปสิงสถิตในต้นกล้วยที่ตัดมาเตรียมไว้ตามพิธีสวดถอนแบบล้านนาโบราณ มอบญาตินำต้นกล้วยดังกล่าวเดินทางไปขอรับศพที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ นำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด โดยมีคณาจารย์ และเพื่อนนักศึกษาไปร่วมรับศพจำนวนมาก โดยมีการนำธงของมหาวิทยาลัยแม่โจ้คลุมโลงศพ น.ส.วิไลรัตน์ โดยขณะที่รถบรรทุกศพเคลื่อนออกจากห้องเก็บศพของโรงพยาบาล นักศึกษาได้กอดคอล้อมรถร้องเพลงไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย หลายคนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ร้องไห้ระงมด้วยความเศร้าสลด


ทางด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวถึงคดีเดียวกันว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีการจับกุมนายจายบึก

ผู้ต้องสงสัยคนงานก่อสร้างชาวพม่า ซึ่งรับสารภาพว่าร่วมกับเพื่อนชาวพม่าก่อคดีฆาตกรรมและข่มขืนนักศึกษาเหยื่อสาวอย่างโหดเหี้ยม ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สถาพร ดวงแก้ว ผบช.ภ.5 เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดีให้ได้ รวมทั้งตรวจหาพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการประกอบคดี และได้กำชับให้ ผบช.ภ.1-9 ผบช.น. และ ผบก.ทุกจังหวัด เร่งรัดหามาตรการป้องกันและตรวจตราในพื้นที่ล่อแหลมเพื่อระมัดระวังเหตุคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวกับทรัพย์สินและร่างกาย ซึ่งเชื่อว่าในช่วงนี้จะมีจำนวนคดีเกิดขึ้นมา โดยต้องขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่เห็นความสำคัญในการกำหนดสภาพแวดล้อมตัดหรือลดโอกาสการกระทำความผิดของคนร้าย เช่น การเพิ่มแสงสว่างในพื้นที่มืด การติดตั้งกล้องวงจรปิดติดตามสืบสวนพฤติกรรมของบุคคลต้องสงสัยคนร้ายหรือกลุ่มคนร้ายที่พ้นโทษ เพื่อไม่ให้มีโอกาสก่อคดีอาชญากรรมได้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์