ใช้หมอนกดดับ ชำเราศพ! นศ.สาวแม่โจ้ปี3

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ก.พ. พ.ต.ท.คมเดช จันทรมณี สารวัตรเวร สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่

รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวถูกฆ่าข่มขืนภายในห้องหมายเลข 405 ชั้น 1 หอพักอัญชลี ตั้งอยู่เลขที่ 158 หมู่ 9 ต.หนองหาร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.จ. เชียงใหม่ พ.ต.ท.มานพ พิมสาร รอง ผกก.สส.สภ.สันทราย พ.ต.ท.หาญชัย รัตนกิจธรรม รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ฐานนันดร วิทยาวุฑฒิกุล สว.วท.เชียงใหม่ เขต 32 แพทย์เวร รพ. สันทราย แพทย์นิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง


ที่เกิดเหตุเป็นหอพัก 4 ชั้น อยู่ในซอยตรงข้ามประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ พบนักศึกษานับร้อยคนมายืนมุงดูอยู่ที่หน้าหอพักส่งเสียงสาปแช่งฆาตกรโหด

โดยมี รศ.อาคม กาญจนโชติ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มาร่วมตรวจสอบ ห้องเกิดเหตุอยู่ใกล้บันไดทางขึ้นชั้น 2 กระจกบานเกล็ดหน้าต่างถูกถอดออก ประตูเปิดแง้มไว้ ภายในพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ น.ส.วิไลรัตน์ หรือต้อม กุจะพันธ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 10 ต.เอราวัณ กิ่ง อ.เอราวัณ จ.เลย เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นอนหงายอยู่บนเตียงมีผ้าห่มคลุมร่าง หมอนปิดทับใบหน้า สภาพศพท่อนล่างเปลือย เสื้อนอนสีขาวลายจุดแดงถูกถลกขึ้นไปกองอยู่เหนือราวนม กางเกงขาสั้นสีเดียวกันถูกถอดออกมากองอยู่ปลายเท้า โดยมีคราบเลือดคราบอสุจิเปรอะเปื้อนอวัยวะเพศ โคนขา รวมทั้งที่นอน คล้ายถูกข่มขืนจนอวัยวะเพศฉีกขาด และมีขนเพชร คาดเป็นของคนร้ายตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 ชม. จึงนำศพส่ง รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง 


ขณะเดียวกัน ตำรวจสอบปากคำพยานเป็นนักศึกษาสาวสถาบันเดียวกันให้การว่าเป็นเพื่อนกับผู้ตาย

ช่วงเช้าวันเดียวกัน สังเกตผู้ตายไม่ไปเรียนเหมือนเช่นปกติทุกวัน ตามไปที่หอพักพบบานเกล็ดหน้าต่างถูกถอดออก ประตูเปิดแง้มไว้ เมื่อเปิดเข้าไปพบผู้ตายนอนอยู่บนเตียงโดยมีผ้าห่มคลุมร่างและมีหมอนปิดทับใบหน้า เรียกก็ไม่ตื่น ด้วยความสงสัยดึงผ้าห่มออกพบว่าเสียชีวิตไปแล้ว รีบแจ้งให้เจ้าของหอพักทราบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ จากคำให้การของพยานตำรวจเชื่อว่าคนร้ายน่าจะพักอยู่ในละแวกใกล้เคียง โดยเฉพาะแรงงานชาวพม่าที่เข้ามาทำงานก่อสร้างหอพักหลังใหม่ที่อยู่ด้านหลังหอพักเกิดเหตุ จึงระดมกำลังเข้าตรวจค้น พบร่องรอยล้างคราบเลือดและภาพวาดการสมสู่คนกับสุนัขอย่างวิตถารภายในห้องพักของนายชัย คนงานชาวพม่า ส่วนนายชัยหายตัวไป ตำรวจเชื่อว่านายชัยน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรืออาจเป็นฆาตกรโหดรายนี้ จึงกระจายกำลังออกติดตามไล่ล่าเร่งด่วนแล้วแต่ยังไม่พบตัว


พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานเบื้องต้นทราบว่า น.ส.วิไลรัตน์ ผู้เสียชีวิตเพิ่งจะย้ายมาอยู่หอพักแห่งนี้ได้เพียง 4 วัน

โดยก่อนหน้านั้นมีหญิงสาวจากพื้นที่สูงคนหนึ่งมาเช่าพักอาศัย และทราบว่ามีเพื่อนชายไปมาหาสู่ตลอด แม้กระทั่งผู้เช่าเดิมจะย้ายออกไปแล้ว แต่เพื่อนชายคนดังกล่าวก็ยังวนเวียนมาที่หอพัก ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกรายเป็นแรงงานชาวพม่าชื่อนายชัยที่เข้ามาก่อสร้างหอพักหลังใหม่ หลังเกิดเหตุพบว่าหายตัวไปเช่นกัน ในชั้นนี้เชื่อว่าคนร้ายน่าจะพักอยู่ในละแวกใกล้เคียงหรือไม่ก็เคยเข้าออกหอพัก เมื่อเห็นว่าผู้เสียชีวิตพักอยู่คนเดียว ฉวยโอกาสช่วงปลอดคนแอบถอดบานเกล็ดหน้าต่างแล้วลอดมือเข้าไปหมุนลูกบิดเปิดประตูตรงเข้าปลุกปล้ำข่มขืน แต่ น.ส.วิไลรัตน์ขัดขืนต่อสู้จึงใช้หมอนกดทับใบหน้าจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต จากนั้นลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ก่อนจะหลบหนี พฤติกรรมของคนร้ายคล้ายเป็นพวกจิตวิตถาร ได้สั่งการให้ตำรวจเร่งติดตามนายชัยแรงงานชาวพม่ากับชายต้องสงสัยที่วนเวียนเข้าออกหอพักเร่งด่วนแล้ว


เมื่อช่วงเย็นวันเดียวกันภายหลังเกิดเหตุกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้กว่า 1 พันคน ไปรวมตัวชุมนุม ประท้วงภายในบริเวณหอพักที่เกิดเหตุ

โดยยื่นคำขาดให้เจ้าของหอพักผลักดันแรงงานต่างด้าวออกจากพื้นที่รอบ มหาวิทยาลัยแม่โจ้โดยเร็วที่สุด เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุ ร้ายกับนักศึกษาขึ้นมาอีก นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ โดยกลุ่มนักศึกษาขีดเส้นตายให้ผลักดันแรงงานต่างด้าวออกจากพื้นที่ก่อนเวลา 18.00 น. ของวันที่ 9 ก.พ. ก่อนจะสลายตัวกลับไป อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ ตำรวจสามารถสกัดจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้แล้ว 1 คน บริเวณ สถานีขนส่งเชียงใหม่อาเขต อ.เมืองเชียงใหม่ ขณะเตรียม ขึ้นรถหลบหนี นำตัวไปสอบสวนทราบชื่อนายจายบึก อายุ 22 ปี เป็นชาวไทยใหญ่เชื้อสายพม่า ลักลอบเข้ามาเมืองไทยทางด้าน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ค้นในตัวพบโทรศัพท์ มือถือของผู้ตาย 1 เครื่อง 

หลังจากที่ตำรวจเค้นสอบปากคำนายจายบึกอยู่ นานร่วม 1 ชั่วโมง ในที่สุดนายจายบึกยอมเปิดปากสารภาพว่าร่วมกับนายนุ้ยเพื่อนชาวพม่าก่อเหตุข่มขืน น.ส.วิไลรัตน์ จริง

โดยก่อนก่อเหตุเข้าไปทำงานเป็นคนงานก่อสร้าง ระหว่างนั้นสังเกตเห็นผู้ตายเดินทางเข้าออกหอพักคนเดียว จึงวางแผนบุกเข้าไปข่มขืน แต่ระหว่างเปิดประตูเข้าไปในห้องพัก น.ส.วิไลรัตน์ตื่นขึ้นมาพบเห็นร้องเอะอะโวยวาย ใช้หมัดชกท้องจนจุกแล้วผลักให้ นอนโดยให้นายนุ้ยเอาหมอนกดทับใบหน้าจนแน่นิ่งแล้วตนเองลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นให้นายนุ้ยข่มขืนต่อ โดยไม่ทราบว่า น.ส.วิไลรัตน์เสียชีวิตตอนไหน หลังก่อเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนี


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์