เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ก.พ. พ.ต.ท.วัชระ ประพฤติบัติ สารวัตรเวร สภ. พระนครศรีอยุธยา
รับแจ้งพบศพถูกฆ่ายัดท่อระบายน้ำริมถนนสายบ้านขยายวัดจอมเกษ หมู่ 6 ต.บ้านเกาะ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ. กรเอก เพชรไชยเวส รอง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ. สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน แพทย์ รพ.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทธไธสวรรค์เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุถนนเป็นทางเปลี่ยวเชื่อมระหว่างหมู่บ้านห่างไกลบ้านเรือนผู้คน มีป่าหญ้าขึ้นรกทึบ
บริเวณปากท่อระบายน้ำพบท่อนขาผู้ตายโผล่ออกมา จึงมอบหมายให้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯนำศพขึ้นมาชันสูตร พบเป็นศพหญิงสาววัยรุ่น รูปร่างหน้าตาดี ตัดผมสั้น เล็บมือทา สีดำ ข้อมือซ้ายสวมกำไลพลาสติกสีแดง ท่อนล่างเปลือย ใส่เสื้อแขนสั้นสีดำเอวลอย เสื้อชั้นในสีแดงถูกถลกขึ้นไปกองอยู่เหนือราวนม ตามลำตัวมีรอยบาดแผลจากปลิงดูดเลือดหลายแห่ง ปลายคางและใบหน้ามีร่องรอยถูกทำร้าย ที่จมูกและปากมีฟองอากาศไหลออกมา แพทย์ลงความเห็นถูกทำร้ายจนสลบแล้วจับกดน้ำเสียชีวิต
ตรวจสอบภายในท่อระบายน้ำพบกางเกงยีนส์ขายาวสีดำของผู้ตายจมน้ำอยู่ ในขากางเกงมีกางเกงในสีดำลายลูกไม้อยู่ด้วย
ส่วนในกระเป๋ากางเกงพบกระเป๋าสตางค์ของผู้ตาย ภายในกระเป๋ามีเงินสด 38 บาท กับเศษกระดาษ และเศษกระดาษทิชชูเขียนหมายเลขโทรศัพท์ไว้ 10 กว่าหมายเลข แถมเขียนชื่อด้วยหมึกสีน้ำเงิน มีระบุชื่อ “น๊อต เก้า” กับแสตมป์คูปองของร้านเซเว่นฯ 5 ดวง นอกจากนั้น ยังพบกำไลข้อมือพลาสติกสีเหลืองตกอยู่บริเวณปากท่อ 1 อัน รองเท้าส้นสูงลายสกอตสีขาวตก 1 คู่ และกระดาษฟอยล์คล้าย กับที่วัยรุ่นใช้เสพยาบ้าจำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาพนักงานสอบสวนตรวจสอบตามหมายเลขโทรศัพท์ที่จดบันทึกและพบในกระเป๋ากางเกงผู้ตาย จนทราบว่าเหยื่ออำมหิตรายนี้คือ ด.ญ.อักษรวดี หรือจ้าว วังยูโซ๊ป อายุ 14 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 12/3 หมู่ 9 ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ที่ร้านอาหารครัวกาญจนา ตั้งอยู่ริมถนนโรจนะ ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังทราบข่าวร้ายนางเบญจมินท์ วังยูโซ๊ป อายุ 35 ปี ผู้เป็นแม่มาดูศพลูกสาวแล้วปล่อยโฮร่ำไห้อย่างน่าเวทนา
สอบสวนนางเบญจมินท์ให้การทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนอิสลามศรีอยุธยา เป็นเด็กที่เรียนเก่ง ไม่มีปัญหาการเรียน
ระยะหลังไปคบกับกลุ่มวัยรุ่น มีหัวหน้ากลุ่มชื่อว่า “ปาล์ม” มีสมาชิกราว 7 คน มีบ้านพักอาศัยอยู่แถวหน้าวัดพระเมรุ เมื่อประมาณเดือน มิ.ย.51 ลูกสาวหลงผิดไปอยู่กับกลุ่มวัยรุ่นเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ครั้งนั้นตนได้เข้าไปช่วยเหลือรอดพ้นออกมาได้ กระทั่งเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ลูกสาวหายตัวออกจากบ้านอีก ตนและญาติออกตามหาหลายที่ก็ไม่พบ จึงแจ้งความกับตำรวจไว้แล้ว และพยายามตามหามาตลอด กระทั่งมาทราบว่าลูกสาวถูกลวงฆ่าหมกท่อระบายน้ำดังกล่าว
ขณะที่พยานซึ่งเป็นพนักงานร้านอาหารครัว กาญจนาให้เบาะแสว่า ผู้ตายเข้ามาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟไม่นานมากนัก ที่ผ่านมาจะมีกลุ่มชายวันรุ่นขี่รถ จยย.มารับอยู่เป็นประจำหลังเลิกงาน
คืนก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ผู้ตายนั่งซ้อนท้ายรถ จยย. ไปกับชายวัยรุ่นไม่ทราบชื่อคนหนึ่ง จนมาพบถูกลวงฆ่าในที่สุด ตำรวจประมวลจากพยานหลักฐานลงความเห็นผู้ตายน่าจะรู้จักกับคนร้ายและถูกลวงหมายข่มขืน แต่ผู้ตายต่อสู้ขัดขืนเลยถูกฆ่าทิ้ง พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในชั้นนี้ยังตรวจสอบไม่ได้ว่าผู้ตายถูกข่มขืนด้วยหรือ ไม่ ขณะที่การคลี่คลายคดีได้สั่งให้ พ.ต.ท.มนัสเวช ทองอิ่ม สว.สส.ระดมกำลังสืบหาเบาะแสว่า ที่ร้านครัวกาญจนาที่ผู้ตายทำงานอยู่มีใครเข้ามาติดพันบ้าง ขณะที่กำลังอีกชุดให้ติดตามหาข่าวตามร้านเซเว่นฯในรัศมีใกล้เคียงที่ผู้ตายได้เข้าไปซื้อของ อาจมีกล้องวงจรปิดบันทึก ภาพไว้ได้ และให้ติดตามประวัติกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ ต.คานหาม อ.อุทัย และวัยรุ่นในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา ว่ามีกลุ่มใดมีพฤติกรรมเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีบ้าง ให้นำมาประมวลประกอบการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป