เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 ม.ค. นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.กระทรวงพาณิชย์
พร้อมด้วยนางปัจฉิมา ธนสันติ รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิช ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ก. พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป. พล.ต.ต.ราเชนท์ รื่นกมล รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.นพรัตน์ รินทพล รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.ท.สมศักดิ์ ตระการไพโรจน์ สวญ.สภ.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี นำกำลังตำรวจพร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ ค 120/2552 ลงวันที่ 30 ม.ค.52 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 101/774 หมู่บ้านซื่อตรง ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี หลังสืบทราบมาว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นแหล่งลักลอบผลิตซีดีละเมิดลิขสิทธิ์แหล่งใหญ่
จากการเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวตำรวจสามารถตรวจยึดเครื่องไรท์แผ่นซีดี ดีวีดี ขนาด 10 แผ่นต่อเครื่อง จำนวน 49 เครื่อง
แผ่นซีดีละเมิดลิขสิทธิ์หนังชนโรง อาทิ ความสุขของกะทิ องค์บาก 2 โหดหน้าเหี่ยว สามก๊กตอนโจโฉแตกทัพเรือ 2 และซีดีละเมิดลิขสิทธิ์อีกประมาณ 3,000 แผ่น รวมทั้งปกซีดีภาพยนตร์ ซีดีเพลง และซีดีลามก รวม 57,000 แผ่น พร้อมควบคุมตัวนายกฤษดา หลุนบูชา อายุ 17 ปี นายวิเชียร ก้อนทอง อายุ 27 ปี น.ส.พรรณทิพย์ ป้องเขต อายุ 19 ปี คนงานที่รับเป็นผู้ดูแลและผลิตซีดีที่อยู่ในบ้านไปสอบสวนดำเนินคดี ขณะเดียวกันตำรวจยังได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 101/252 ในหมู่บ้านเดียวกัน พบปกซีดีลามกและละเมิดลิขสิทธิ์อีกจำนวนหนึ่ง โดยทราบว่าบ้านหลังนี้ใช้เป็นสถานที่บรรจุแผ่นซีดีลงซองเพื่อรอส่งไปจำหน่าย
ปรากฏว่า ระหว่างตำรวจเข้าตรวจค้นจับกุมนั้น มีนางวรรณา อุเทนนาม อายุ 48 ปี เดินเข้ามาในบ้านหลังดังกล่าวพร้อมกับเจรจากับตำรวจชุดจับกุมโดยเสนอว่าจะให้คนนำเงินมาให้ 1 แสนบาท
เพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ตำรวจจึงซ้อนแผนโดยทำทีให้นางวรรณาโทรศัพท์ติดต่อคนนำเงินมาให้ ต่อมานายชนาธิป จิตตคราม อายุ 39 ปี เดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าวพร้อมกับนำธนบัตรใบละหนึ่งพันจำนวน 1 แสนบาท มาส่งมอบให้ตำรวจชุดจับกุม ตำรวจรวบตัวไว้ได้ทั้ง 2 คน โดยตั้งข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่นำตัวพร้อมของกลางเงินสด 1 แสนบาทไปดำเนินคดีและจะสอบสวนขยายผลสาวถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลังต่อไป โดยของกลางที่จับกุมได้ทั้งหมดในครั้งนี้มีมูลค่าหลายสิบล้านบาท อย่างไรก็ตามทราบว่าซีดีเถื่อนดังกล่าวเป็นเครือข่ายของผู้ผลิตฉายา “ท่าน้ำนนท์”
นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ประกาศปราบ
ปรามอย่างจริงจัง
และ เมื่อตำรวจในพื้นที่ใดปล่อยให้มีการลักลอบผลิตหรือขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้นๆจะต้องรับผิดชอบหากถูกหน่วยงานอื่นเข้ามาจับกุมซึ่งจะต้องมีมาตรการลงโทษกับพื้นที่นี้ต่อไปเพื่อเป็นตัวอย่างให้พื้นที่อื่นๆดู หากยังปล่อยให้มีการผลิตหรือขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในพื้นที่ไหนก็ตาม ตนคิดว่ากำลังพลของตำรวจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงต้องการกำลังคนเข้าไปเสริม
พล.ต.ต.ราเชนท์ รื่นกมล รอง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้มีคำสั่ง ลงไปในพื้นที่ให้เร่งรัดกวดขันดำเนินการจับกุมกลุ่มผู้ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นซีดีหนัง ซีดีเพลง หรือสินค้าอื่นๆที่
ละเมิดลิขสิทธิ์
โดยเฉพาะในพื้นที่ของ จ.นนทบุรี ถูกจับตาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นที่ย่าน ท่าน้ำนนท์ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน หรือตามตลาดนัดต่างๆ การจับกุมครั้งนี้แม้ว่ากลุ่มผู้ลักลอบผลิตซีดีเถื่อนจะเพิ่งเข้ามาอาศัยบ้านหลังดังกล่าวลักลอบผลิตตั้งแต่หลังปีใหม่มาก็ตาม ตนจะให้ทาง พ.ต.ท.สมศักดิ์ ตระการไพโรจน์ สวญ.สภ.บางศรีเมือง เจ้าของพื้นที่ทำหนังสือรายงานชี้แจงและตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการลงโทษต่อไปที่ปล่อยให้มีการลักลอบผลิตซีดีเถื่อนในพื้นที่ตามคำสั่งของ รมช.กระทรวงพาณิชย์