การเปิดประเด็น "ทหารเรือไทย" ทารุณกรรมผู้อพยพชาวโรฮิงญา ก่อนจะตามมารุมถล่มอีกชุดใหญ่จากสื่อหัวใหญ่ๆ ทั่วโลก ล่าสุดก็เป็นซีเอ็นเอ็นที่ย้ำหัวตะปูด้วยภาพที่อ้างว่า ทหารเรือไทยชักลากเรือผู้อพยพออกไปลอยเท้งเต้งกลางทะเล
ปูพรมถล่มต่อเนื่องมานานกว่า 2 สัปดาห์จนทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาล และทหารเรือไทยป่นปี้ไปทั่วโลก โดยใช้ข้อมูลคำบอกเล่าฝ่ายเดียวของผู้อพยพ และการตัดต่อภาพบรรยายเหตุการณ์สั้นๆ
โดยเฉพาะภาพข่าวซีเอ็นเอ็นที่บรรยายว่า ทหารเรือไทยชักลากเรือชาวโรฮิงญาออกจากฝั่งก็ยิ่งคลุมเครือไปใหญ่ เพราะดูไม่ออกเลยว่า เป็นการชักลากเข้าฝั่ง หรือปล่อยออกไปกลางทะเลกันแน่
แต่ที่ดูจะปรักปรำกันมากที่สุด คือ การอ้างว่า เป็นเรือของทหารไทย ทั้งที่คลิปวิดีโอมีเพียงภาพท้ายเรือ ซึ่งดูไม่ออกเลยว่าเป็นเรือของทหาร หรือเรือของเอกชน และยิ่งไม่ต้องถามต่อไปเลยว่า เป็นเรือสัญชาติไทยด้วยหรือไม่
ประเด็นที่ว่า ใครเป็นคนทารุณชาวโรฮิงญากันแน่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ก็เคยโพล่งอย่างอึดอัดใจว่า ทหารไทยปฏิบัติด้วยหลักมนุษยธรรมมากที่สุดแล้ว และให้ลองไปสอบถามดูว่า ประเทศเพื่อนบ้านกระทำต่อผู้อพยพอย่างไรบ้าง
ไล่ให้ไปสืบดูว่า มีประเทศไหนที่ไล่ยิงเรือ หรือเฆี่ยนตีผู้อพยพบ้าง แต่สื่อนอกก็ย้ำแต่ประเด็นที่ว่า ทหารไทยทารุณผู้อพยพอย่างเดียว
ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จึงมอบหมายให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.ระนอง เพื่อตรวจสอบกรณีผู้อพยพโรฮิงญา 78 คน ซึ่งถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 27 มกราคม
ประเด็นที่นายกฯ อภิสิทธิ์ สนใจ คือ "บาดแผล" ตามร่างกายของผู้อพยพเพื่อพิสูจน์ความจริงให้เห็นกันชัดๆ ว่า ทหารไทย หรือฝ่ายไหนที่เป็นคนทรมานผู้อพยพกลุ่มนี้
“ที่ผ่านมาหลายฝ่ายต่างอ้ำอึ้ง ไม่มีหน่วยงานใด หรือใครที่ออกมาให้ข้อมูลที่ชัดเจน เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน สำหรับการมาครั้งนี้ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานต้นสังกัด และรัฐบาลให้สามารถให้ข้อมูล และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้"
พญ.คุณหญิง พรทิพย์ ส่งสัญญาณบางอย่างที่คล้ายจงใจสื่อสารไปยังสื่อหัวนอกโดยเฉพาะ โดยเริ่มจากประเด็นการตรวจสอบเกาะทรายแดง และเกาะทรายดำ จ.ระนอง ซึ่งมีการระบุว่าเป็นจุดที่ทหารเรือไทยใช้ควบคุมตัว และทารุณผู้อพยพ