ตกเหวตาย6 เที่ยวขุนตาลดับทั้งคัน

แค่ 2 วันช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ ตายแล้ว 143 ศพ
 
เพิ่มจากปี 51 ถึง 25 ศพ โคราช สถิติสูงสุด 8 ศพ เชียงราย พิษณุโลก ประจวบคีรี ขันธ์ รองลงมา 5 ศพ ส่วนผู้บาดเจ็บ 1,595 คน มากกว่าปีที่แล้ว 341 คน เชียงรายมีอุบัติเหตุสูงสุด ตามด้วยโคราช สุรินทร์ ยังมี 19 จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต อาทิ นครนายก ยโสธร สกลนคร ลำพูน อุตรดิตถ์ กระบี่ พังงา ระนอง สตูล ปัตตานี นราธิวาส นักท่องเที่ยวร่วมเคานต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่า และทำบุญตักบาตรรับปีใหม่คึกคักทั่วประเทศ แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดต่างๆเนืองแน่นไปด้วยผู้คน นับหมื่นปักหลักโขงเจียม อุบลฯ รอดูแสงแรกของปี แต่ต้องผิดหวังเมื่อดวงอาทิตย์ถูกเมฆบดบัง

เมื่อวันที่ 1 ม.ค.นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย

ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2552 เปิดเผยถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุ และผู้เสียชีวิตช่วง 7 วันอันตราย เทศ กาลปีใหม่ 2552 พบว่า ในรอบ 24 ช.ม.ของวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวนอุบัติเหตุทั่วประเทศ 882 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 960 คน มีผู้เสียชีวิต 87 ราย จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จ.นครราชสีมา 6 ราย รองลงมาได้แก่ บุรีรีมย์ ราชบุรี สระแก้ว 4 ราย และชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ พิจิตร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ระยอง ลพบุรี 3 ราย

สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด

ได้แก่ จ.ราช บุรี 32 ครั้ง รองลงมาได้แก่ สุรินทร์ 30 ครั้ง เชียง ราย 29 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ราช บุรี 34 คน รองลงมาได้แก่ เพชรบูรณ์ สุรินทร์ 31 คน สุพรรณบุรี 29 คน จำนวนครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ ระหว่างวันที่ 30-31 ธ.ค.ที่ผ่านมา รวม 1,478 ครั้ง เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของการรณรงค์ ในปี 2551 จำนวน 1,147 ครั้ง เพิ่มขึ้น 331 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 28.86 จังหวัดที่มีจำนวนครั้งอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จ.เชียงราย 57 ครั้ง รองลงมาได้แก่ สุรินทร์ เพชรบูรณ์ 50 ครั้ง

ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิต ระหว่างวันที่ 30-31 ธ.ค.ที่ผ่านมา
 
จำนวน 143 ราย เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของการรณรงค์ ปี 2551 จำนวน 118 ราย เพิ่มขึ้น 25 ราย คิดเป็นร้อยละ 21.19 โดยจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จ.นครราชสีมา 8 ราย รองลงมาได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก และประจวบคีรีขันธ์ 5 ราย มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 1,595 คน เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 จำนวน 1,254 คน เพิ่มขึ้น 341 คน คิดเป็นร้อยละ 27.19 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ จ.เชียงราย เพชรบูรณ์ 60 คน รองลงมาได้แก่ นครราชสีมา และสุรินทร์ 53 คน ส่วนจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 19 จังหวัด อาทิ จ.นครนายก ยโสธร สกลนคร ลำพูน อุตรดิตถ์ กระบี่ พังงา ระนอง สตูล ปัตตานี และนราธิวาส เป็นต้น

สำหรับบรรยากาศช่วงเช้าวันขึ้นปีใหม่ 1 ม.ค. 2552
 
ทุกจังหวัดจัดพิธีทำบุญตักบาตรเพื่อความเป็นสิริมงคล เช่นที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราช ดำเนิน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา มีประชาชนและนักท่องเที่ยวหลายพันคน มาตักบาตรและเข้าแถวกราบไหว้สักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง จากนั้นใช้บริการรถขบวนชมเมืองโคราชอย่างคึกคัก

ที่พัทยา จ.ชลบุรี มีกิจกรรมเคานต์ดาวน์ 2009 บริเวณท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ แหลมบาลีฮาย และบริเวณสวนสาธารณะลานโพธิ์ นาเกลือ สร้างความสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยวนับแสนคนอย่างมาก

จ.เชียงราย ตั้งแต่เวลา 23.30 น.วันที่ 31 ธ.ค. นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 1 หมื่นคน มารวมตัวกันที่หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ ถ.บรรพปราการ เขตเทศบาลนครเชียงราย เพื่อร่วมงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยปิดถนนและตั้งเวทีการแสดง รวมทั้งพลุไฟ แสงสีอย่างสวยงาม เป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยว

วันเดียวกันเวลา 10.30 น.ร.ต.ท.สักรินทร์ ขันแก้ว ร้อยเวรสภ.ขุนตาล จ.เชียงราย รับแจ้งเหตุรถยนต์พลิกคว่ำตกเหวลึกบนดอยพญาพิภักดิ์ หมู่บ้านพญาพิภักดิ์ หมู่ 13 ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย เส้นทางไปยังภูชี้ฟ้า อ.เทิง สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยพ.ต.อ.เถกิง ทองอินทร์ ผกก. พ.ต.ท. วิเชียร ชุ่มชิต รองผกก.ป. และนายสัมฤทธิ์ สวามิ ภักดิ์ นายอำเภอขุนตาล

ที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางลาดชันตามหุบเขาและยังคดเคี้ยว
 
จุดเกิดเหตุเป็นเหวลึกประมาณ 30 เมตร พบรถกระบะอีซูซุ สีเขียว ทะเบียน ลข 1491 กทม. ตกลงไปติดค้างต้นไม้ใหญ่ในสภาพพังยับเยิน เจ้าหน้าที่ระดมกำลังฝ่ายปกครองร่วมกับหน่วยกู้ภัยช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าคนขับและผู้โดยสารรวม 6 คน เป็นชาย 4 คนและหญิง 2 คนเสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วยนายฤทธิรณ สุวรรณผูก อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217/1 หมู่ที่ 15 ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย นายเอนก นุชสา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ที่ 9 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายมนตรี แก่นท้าย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ที่ 6 ต.ในคลอง อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ นางรัตนา ฉัตรมณี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 303 หมู่ 15 ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล นายสมภพ มณีสาคร และนางขนิษฐา หวานฉ่ำ

พ.ต.อ.เถกิงกล่าวว่า

ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นขึ้นไปเที่ยวบนดอยพญาพิภักดิ์ ซึ่งมีทะเลหมอกสวยงามไม่แพ้ภูชี้ฟ้า แต่เนื่องจากทางขึ้นลงค่อนข้างชัน จึงสันนิษฐานว่าคนขับไม่ชำนาญเส้นทางเมื่อไปถึงทางโค้งทำให้รถแหกโค้งและตกลงไปในเหวลึกทั้งๆที่เหลืออีกเพียงแค่ 2 โค้งก็จะถึงที่ราบ

วันเดียวกัน เวลา 12.45 น.ที่สภ.เมืองนราธิวาส พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผบ.ตร./ผบ.ศปก. ตร.สน. นำนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ออกพบปะเยี่ยมเยียนบำรุงขวัญตำรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่

สำหรับจ.นราธิวาส สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสรุปอุบัติเหตุวันที่สองช่วง 7 วันอันตรายว่า เกิดอุบัติเหตุ 6 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 6 ราย

จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงเช้าที่หน้าวิหารหลวงพ่อพระมงคลบพิตร ประชาชนกว่า 3,000 คนมาร่วมทำบุญตักบาตรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต โดยมีพระเกจิอาจารย์จำนวนมากมาประพรมน้ำพระพุทธมนต์

ส่วนที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบล ราชธานี

นักท่องเที่ยวหลายพันคนมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นเป็นแสงแรกของวันขึ้นปีใหม่ แต่ต้องผิดหวัง เพราะดวงอาทิตย์ถูกเมฆบดบัง จึงร่วมกันตักบาตรเพื่อความเป็นสิริมงคลแทน โดยศูนย์อุตุนิยม วิทยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พยากรณ์ว่า ดวงอาทิตย์จะขึ้นพ้นขอบฟ้า เวลา 06.27 น. ขณะเดียวกันจะมีเมฆเต็มท้องฟ้า อุณหภูมิเฉลี่ย 19 องศาเซลเซียส

วันเดียวกันศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 รับผิดชอบ จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ นายวัลลภ เทพภักดี ผอ.ศูนย์ฯ เปิดเผยว่า

2 วันในช่วง 7 วันอันตรายมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 142 ครั้ง บาดเจ็บ 154 คน เสียชีวิต 16 ราย จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ นครราชสีมา มีอุบัติเหตุ 48 ครั้ง เสียชีวิต 8 ราย น้อยที่สุดคือ จ.สุรินทร์ มีอุบัติเหตุ 50 ครั้ง เสียชีวิต 1 ราย

ด้านพล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา สั่งตำรวจสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งด่าน 96 จุด ใน 32 อำเภอ เปลี่ยนรูปแบบจากบริการประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา เป็นเน้นตรวจเข้มตามพ.ร.บ.จราจรทางบก เพื่อป้องกันและลด อุบัติเหตุ ตั้งแต่เวลา 00.00-06.00 น. จับกุมผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด 198 ราย

รายงานข่าวจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัยเขต 12 สงขลา ระบุว่า เจ้าหน้าที่ยังตั้งจุดตรวจตามเส้นทางถนนสายเอเชีย ซึ่งการจราจรยังหนาแน่นเนื่องจากประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว โดยวันที่ 2 ของ 7 วันอันตราย ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 44 ครั้ง เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 47 คน จ.สงขลาสูงสุดเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 16 คน

จ.ปราจีนบุรี เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต