ลูกพตท.เป็นโจรเสียเอง ทุบกระจกรถ-ฉกทรัพย์

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 ธ.ค. พ.ต.อ. วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก นำตัวนายกลวัชร พูนสถาพร อายุ 27 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 64/23 หมู่ 2 ต.ดอนตะโก อ.เมือง ราชบุรี พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นเพลงเอ็มพี 3 กล้องถ่ายรูปดิจิตอล กระเป๋าสะพายสตรี และบัตรเอทีเอ็ม และบัตรนักศึกษาอีกหลายสถาบัน รวม 21 รายการ มาแถลงต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำลายสิ่งกีดขวาง ภายหลังจับกุมได้ขณะทุบกระจกรถยนต์ ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.

พ.ต.อ.วัฒนาเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างไทย-เวียดนาม มีประชาชนนำรถมาจอดใน กกท.จำนวนมาก

ทางตำรวจได้ประสานกับเจ้าหน้าที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ให้กวดขันจับกุมคนร้ายที่เข้ามาทุบกระจกรถ และขโมยทรัพย์สินภายในรถยนต์ เพราะก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความถึง 2 ราย จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส.สน. หัวหมาก จัดชุดซุ่มโป่งสังเกตการณ์ กระทั่งพบผู้ต้องหากำลังทุบกระจกรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กจ 3376 ลพบุรี ของ น.ส.ชลธิชา วงศ์เครือ อายุ 26 ปี จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนขยายผลยึดของกลางเพิ่มเติมได้ที่ห้องพักผู้ต้องหา เลขที่ 219 เอสเค.อพาร์ตเมนต์ ถนนจรัญสนิทวงศ์ 12 แขวงและเขตท่าพระ กทม.

จากการสอบสวนนายกลวัชรให้การรับสารภาพอ้างว่า เป็นลูกชาย พ.ต.ท.คมสันต์ พูนสถาพร พนักงาน สอบสวน (สบ 3) สน.บางกอกน้อย

เดิมทีทำงานเป็นคนขับรถ แต่ถูกเลิกจ้าง จึงตัดสินใจก่อเหตุเพื่อหาเงินใช้จ่าย โดยเพิ่งก่อเหตุดังกล่าวเป็นครั้งแรก ขณะที่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำรับสารภาพเท่าไหร่นัก เพราะจากของกลางที่พบ น่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งหลายพื้นที่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกครั้ง ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.คมสันต์ พูนสถาพร พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางกอกน้อย กล่าวยอมรับว่านายกลวัชรเป็นลูกชายจริง แต่เป็นลูกที่เกิดกับภรรยาเก่าที่เลิกรากันไปแล้ว และทางภรรยาได้เอาลูกชายไปเลี้ยง โดยไม่เจอกันหลายปี มาทราบอีกครั้งต่อเมื่อลูกถูกจับกุมแล้ว

ต่อมานายพิทักษ์พงศ์ พูลสวัสดิ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/41 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นักศึกษาปริญญาโทคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เข้าพบ พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส.สน.หัวหมาก เพื่อขอดูของกลางก่อนยืนยันว่า กล้องดิจิตอลที่ตำรวจยึดมาจากห้องผู้ต้องหาเป็นของตน พร้อมให้รายละเอียดว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลศึกซูซูกิคัพ ระหว่างทีมชาติไทย กับอินโดนีเซีย โดยจอดรถโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ษฐ 8476 กรุงเทพมหานคร ไว้ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่เมื่อการแข่งขันเสร็จกลับมาที่รถ พบกระจกประตูหลังด้านซ้ายถูกทุบ มีทรัพย์สินหลายรายการ อาทิ โน้ตบุ๊ก กล้องถ่ายรูปดิจิตอล ยี่ห้อแคนนอน โทรศัพท์มือถือ และเอกสารต่างๆ ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายสีดำหายไป หลังเกิดเหตุได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำไว้เป็นหลักฐานก่อนดำเนินการต่อไป