เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 ธ.ค. ร.ต.ท.ศรายุทธ มั่งเรือน ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งมีศพหญิงสาวลอยน้ำมาติดที่โป๊ะเรือข้ามฟากฝั่งวัดกลางเกร็ด
จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ศานิตย์ โพธิ์พรหม รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.วิทิต จันทร์เอี่ยม สว.สส. แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และมูลนิธิร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบ พบศพหญิงสาวคว่ำหน้าลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา นำขึ้นมาตรวจสอบบนฝั่งพบผู้ตายนุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น สวมเสื้อยืดสีเทา มีรอยสักรูปหัวใจเหนือราวนมซ้าย ตามร่างกายไม่พบบาดแผล ในกระเป๋ากางเกงมีเงินสด 540 บาท เสียชีวิตมาราว 3 วัน คาดว่าผู้ตายคือ น.ส.ปราณิศา วานิชาชีวะ หรือน้องก้อย อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 259/84 ถนนเพชรเกษม แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ปี 1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งกระโดดสะพานพระนั่งเกล้า 2 ฆ่าตัวตาย เมื่อกลางดึกคืนวันอาทิตย์ที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ฉัตรเพชร ศิลา ร้อยเวร สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ รับแจ้งว่ามีหญิงสาวกระโดดจากสะพานพระนั่งเกล้า 2 ลงแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วสูญหายไปกับกระแสน้ำ
ไปที่เกิดเหตุบริเวณกลางสะพานพระนั่งเกล้า 2 ฝั่งมุ่งหน้าแยกแคราย พบรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน ชศ 4653 กรุงเทพมหานคร จอดชิดขอบราวสะพานเปิดไฟกะพริบอยู่ ในที่เกิดเหตุมีชาวบ้านมุงดูหลายคน และมี น.ส.สุกัญญา แซ่เจ็ง อายุ 22 ปี ยืนตกใจกลัวตัวสั่น พร้อมเล่าว่า เจ้าของรถเป็นเพื่อนสนิทชื่อ น.ส.ปราณิศา วานิชาชีวะ โดย น.ส.ปราณิศา มีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนในกลุ่มอย่างรุนแรง ด้วยความน้อยใจได้ขับรถเก๋งออกจากบ้าน พร้อมโทรศัพท์บอกเพื่อนอีกคนว่า ฝากให้ช่วยดูแลสุนัขด้วย เพราะจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ตนกับเพื่อนเป็นห่วงจึงว่าจ้างรถแท็กซี่ออกตามหา
กระทั่งพบ น.ส.ปราณิศาจอดรถอยู่กลางสะพานพระนั่งเกล้า 2 แล้วนั่งอยู่ในรถ เพื่อนๆเข้าไปพูดคุยปรับความเข้าใจ
ทันใดนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ น.ส.ปราณิศารีบเปิดประตูรถวิ่งกระโดดสะพานดิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ร่างจมหายไปต่อหน้าต่อตา จึงแจ้งตำรวจทราบเหตุดังกล่าว ขณะที่แนวทางการสืบสวนทราบว่า น.ส.ปราณิศาคบหาเป็นแฟนกับสาวทอมคนหนึ่งมานานร่วม 3 เดือน ช่วงกลางวันก่อนเกิดเหตุ สาวทอมหายตัวไปลึกลับ น.ส.ปราณิศาพยายามโทรศัพท์ ตามหาแต่ก็ติดต่อไม่ได้ กระทั่งมืดค่ำจึงรู้ว่าสาวทอมคนรัก พาหญิงสาวแฟนใหม่อีกคนไปดูหนังด้วยกัน ทำให้ น.ส.ปราณิศาหึงหวง และผิดหวังในรักอย่างแรง จึงขับรถเก๋งออกจากบ้านมากระโดดน้ำฆ่าตัวตายดังกล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นายประสาม วานิชาชีวะ อายุ 68 ปี บิดา และนางนพรัตน์ ธรณินทร์ อายุ 42 ปี พี่สาว พร้อมญาติและเพื่อนๆ เดินทางมารับศพ น.ส. ปราณิศา
เพื่อนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดอ่างแก้ว เขตภาษีเจริญ กทม. บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด นางนพรัตน์ พี่สาวผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวตนมีพี่น้อง 4 คน น้องก้อย เป็นน้องคนเล็กต่างมารดา ทุกคนก็รักกันดี น้องก้อยเป็นคนเงียบๆ ชอบเก็บตัว ที่สำคัญเป็นคนกลัวความสูง จึงไม่เชื่อว่าจะฆ่าตัวตายเอง และครั้งแรกที่ไปดูที่เกิดเหตุก็ไม่พบศพ พบเพียงรถเก๋งของน้องสาวจอดอยู่ พร้อมกับสาวทอมชื่อ “เจี๊ยบ” และสาวทอมอีกคนที่ยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ
ส่วนการเสียชีวิตนั้นญาติพี่น้องทุกคนยังคลางแคลงใจ ไม่เชื่อว่าน้องสาวจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตายเอง
เพราะจากการให้ปากคำของ “เจี๊ยบ” สาวทอมคนสนิทของน้องสาวบอกว่า พูดคุยกับผู้ตายเพียงไม่กี่คำคือ “ก้อยยังไม่รักตัวเอง แล้วอย่างนี้ก้อยจะมารักเราได้ยังไง” จากนั้นผู้ตายก็กระโดดสะพานฆ่าตัวตายทันที ทุกคนจึงไม่ปักใจเชื่อว่าน้องสาวจะฆ่าตัวตายเอง อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง โดยเฉพาะเพื่อนๆอีกหลายคนที่ผู้ตายพูดคุยและติดต่อกันในช่วงวันเวลาดังกล่าว เพื่อทางญาติจะได้หายสงสัย
ด้าน นพ.ไกรสร อัมมวรรธน์ แพทย์ผู้ผ่าชันสูตรศพ กล่าวว่า จากการผ่าพิสูจน์ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้และไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย สาเหตุการเสียชีวิตมาจากจมน้ำ และเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
