จับแล้วกะเทยโหด ขวดทุบ-ฆ่าชิงทอง

จับแล้วกะเทยโหดโยงคดีรัดคอ-ใช้ขวดเป๊ปซี่ตีหัวฆ่าสาวใหญ่เพื่อนบ้านชิงสร้อยหนักแค่ 2 บาท ตามรอยไปถึงบ้านเช่าล็อกตัวได้กลางดึก

พบให้การพิรุธแถมเนื้อตัวมีรอยถูกข่วน เท้าก็ถูกเศษแก้วบาด สงสัยเหยียบถูกเศษขวดน้ำอัดลมที่ทำร้ายเหยื่อขณะลงมือ นอกจากนี้ ยังซักเสื้อผ้าที่ใส่ในวันเกิดเหตุอย่างมีพิรุธ แต่ยังให้การปฏิเสธ ตร.มั่นใจพยานหลักฐานชัดเจน ส่งตรวจร่ายกายเทียบกับเนื้อเยื่อที่พบในเล็บผู้ตายระหว่างต่อสู้กับคนร้าย และส่งเสื้อไปตรวจหาคราบเลือดด้วย จากเหตุการณ์สยองขวัญคนร้ายบุกห้องเช่าซอยสาธุประดิษฐ์ 57 เขตยานนาวา กทม. ใช้ผ้าขาวม้ารัดคอและขวดน้ำอัดลมเป๊ปซี่ทำร้ายนางวิยะดา รักซ้อน อายุ 48 ปี เสียชีวิตชิงสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา

เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นฝีมือของนายต้น กะเทยที่รู้จักกัน เนื่องจากก่อนเกิดเหตุมาหานางวิยะดาที่ห้องพักก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น และนายต้นก็หายตัวไป ตำรวจสอบพบว่านายต้นกำลังตกงานและติดกัญชาด้วย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. พ.ต.ท.กฤษณ์ แจ้งแสง สว.สส.สน.บางโพงพาง กล่าวว่า ตำรวจสามารถติดตามจับกุมนายต้น หรือนายธีระธิติ โพธิวงศ์ อายุ 24 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 44 ม.3 ต.วารีสวัสดิ์ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย โดยจับกุมได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซ.ต้นโพธิ์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา ห่างจากที่เกิดเหตุไม่มากนัก เมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมยึดของกลางเสื้อผ้าที่นายธีระธิติ หรือต้น ใส่ไปหานางวิยะดาในวันเกิดเหตุ ซึ่งช่วงที่ตำรวจไปจับกุมนั้นพบว่าเสื้อผ้าชุดดังกล่าวเพิ่งซักและตากอยู่

พ.ต.ท.กฤษณ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุร้ายตำรวจสอบปากคำพยานจนเชื่อว่าคนร้ายคือนายธีระธิติ จึงประสานฝ่ายสืบสวนออกหาเบาะแสกระทั่งพบว่าหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ในซ.ต้นโพธิ์

จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับ ก่อนนำกำลังเข้าจับกุม พบผู้ต้องหาลักษณะท่าทางมีพิรุธ ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่อย่างรีบร้อน นอกจากนี้ ตรวจสอบตามร่างกายบาดแผลเป็นรอยขีดข่วนคล้ายรอยเล็บ รวมทั้งที่เท้าซ้ายยังพบรอบแผลคล้ายบาดแผลถูกเศษแก้วบาด แต่ไม่พบสร้อยคอทองคำ จึงควบคุมตัวส่ง พ.ต.ท.ฉลาด ศรศิริ สวส.สน.บางโพงพาง สอบปากคำ ด้านพ.ต.ท.ฉลาด กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่านายธีระธิติ เป็นผู้ก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่จะส่งเนื้อเยื่อของผู้ต้องหาเปรียบเทียบกับเศษเนื้อเยื่อที่พบในซอกเล็บของผู้ตาย ที่ต่อสู้กับคนร้าย รวมทั้งเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหานำไปซักว่ามีรอยคราบเลือดของผู้ตายติดอยู่หรือไม่ โดยจะใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์ในการหาร่องรอย นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำปัสสาวะผู้ต้องหาส่งตรวจเพื่อตรวจหาสารเสพติดด้วย หากพบมีสารเสพติดก็จะดำเนินคดีในข้อหาเสพยาอีกกระทงหนึ่ง