"เราติดตามพฤติกรรมนายพรเทพมานานแล้ว หมอนี่เป็นนักค้ายาบ้ารายใหญ่ที่เพิ่งพ้นโทษออกมา พอได้อิสระก็กลับมาค้ายาบ้าอีกครั้ง นำยาบ้าตระเวนขายไปทั่วเมืองเชียงใหม่และลำพูน จนกระทั่งสายของเราสืบรู้มาว่าคนร้ายได้แอบมากบดานอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ จึงวางแผนล่อซื้อเพื่อทำการจับกุม แต่นายพรเทพฮึดสู้เลยถูกทำวิสามัญฆาตกรรม ซึ่งในขณะเดียวกันตำรวจของเราก็ได้รับบาดเจ็บจากการยิงปะทะไป 1 ราย ซึ่งต้องชมเชยชุดจับกุมที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างกล้าหาญ"
คือคำกล่าวของ พล.ต.ต.อำนวย จินตกานนท์ รองผบช.ภ.5 หลังเดินทางไปร่วมชันสูตรพลิกศพ นายพรเทพ หรือ "หนาน" โตวิเชียร นักค้ายาบ้าที่เหิมเกริมชักปืนยิงสู้ตำรวจ จนถูกเป่ากลายเป็นผีเฝ้าอพาร์ต เมนต์กลางเมืองเชียงใหม่
ลบชื่อคนดังวงการยาบ้าลงอีกราย
เหตุการณ์ครั้งนี้ยิงต่อสู้กันราวกับในหนัง เมื่อตำรวจสืบรู้ว่านายพรเทพเข้ามาพักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งนี้จึงวางแผนล่อซื้อยาบ้า 200 เม็ดจากผู้ตาย แต่ห้วงนั้นนายพรเทพเกิดไหวตัวทันเพราะจำหน้าตำรวจได้ จึงชักอาวุธปืน .38 กระสุนหัวระเบิด ซึ่งเป็นเขี้ยวเล็บออกมากระหน่ำยิงใส่ตำรวจแบบท้าตาย ก่อนที่จะถูกยิงสวนเป็นผีต่อหน้าหญิงสาว 3 คนที่ชักชวนกันมามั่วสุมเสพยาอยู่ในนั้น
นาทีจับตายนักค้ายา ดวลสนั่นเชียงใหม่ เหิมยิงสู้ตร.-เป็นผี!
ดวลสนั่นเมืองเชียงใหม่
ย้อนไปดูเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายพรเทพซึ่งเคยเป็นพ่อค้ายาบ้าและเพิ่งออกจากคุกมาได้หวนกลับมายึดอาชีพขายยาบ้าอีกครั้ง
คราวนี้เน้นไปที่กลุ่มนักศึกษาและวัยรุ่นในเชียงใหม่กับลำพูน!!
พฤติกรรมของนายพรเทพตกเป็นเป้าสายตาเจ้าหน้าที่ตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดภาค 5 กับตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ตามประกบนายพรเทพเหมือนเงาตามตัว
ด้วยเพราะนายพรเทพมีพฤติกรรมเป็นบุคคลอันตราย เพราะมีรายงานว่าหมอนี่มักจะพกปืนติดตัวเวลาไปไหนมาไหน พล.ต.ต.อำนวย จินตกานนท์ จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.สมพล อัครเดโชชัย พ.ต.อ.ภานุเดช บุญเรือง รองผบก. พ.ต.อ.กริช กิตติลือ ผกก.สภ.แม่ปิง ประสานตำรวจหน่วยปราบปรามยาเสพติด จ.ลำพูน ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ดอย วงศ์พุ่ม รองผกก.สส.ภ.จว.ลำพูน เฝ้าติดตามนายพรเทพในทุกความเคลื่อนไหว
สุดท้ายทุกอย่างก็เข้าทางตำรวจ
เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานจากสายว่า นายพรเทพมีแหล่งกบดานอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ ตั้งอยู่หลังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ รองฯอำนวย จึงมอบหมายให้ผู้การฯสุเทพ ผนึกกำลังตำรวจชุดสืบสวนเมืองเชียงใหม่ ตำรวจจังหวัดลำพูน และตำรวจปส.ภาค 5 กระจายกำลังเฝ้าจุดเอาไว้
เมื่อมั่นใจว่าเป้าหมายอยู่กับที่ตำรวจจึงวางแผนล่อซื้อ
สายวันที่ 12 พ.ย. กำลังตำรวจนอกเครื่องแบบกว่า 20 นาย กระจายกำลังไปทั่วอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ เมื่อทุกอย่างพร้อม สายลับจึงขึ้นไปติดต่อขอซื้อยาบ้า 200 เม็ดจากนายพรเทพ ซึ่งพักอยู่ในห้อง 304 ชั้น 3 การทำงานของสายลับในครั้งแรกราบรื่นดีไม่มีปัญหาอะไร สายได้กลับลงมา แต่ทว่านายพรเทพกลับโทร.เรียกให้สายกลับย้อนขึ้นไปเอายาบ้าอีกชุดที่ห้องพัก
คราวนี้สายจึงย้อนขึ้นไปพร้อมตำรวจ
ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไปเจ้าหน้าที่พบนายพรเทพกำลังนั่งมั่วสุมเสพยาอยู่กับหญิงสาว 3 คนในห้อง ซึ่งจังหวะเดียวกันนั้นคนร้ายเกิดไหวตัวทัน เพราะจำได้ว่าคนที่ขึ้นไปด้วยนั้นเป็นตำรวจ
เพียงเท่านั้นนายพรเทพก็เปิดฉากยิงใส่ทันที
ปังๆๆๆ!!
เสียงปืนในมือคนร้ายกระหน่ำยิงใส่เจ้าหน้าที่อย่างไม่ยั้ง กระสุน .38 ชนิดหัวระเบิด ทำหน้าที่ของมันได้อย่างมีประสิทธิ ภาพ ถึงแม้จะไม่ถูกใครจังๆ แต่สะเก็ดหัวกระสุนก็พุ่งไปถูกด.ต.จีระศักดิ์ เชียรชัย ตำรวจนปพ.ลำพูนที่บุกชาร์จจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณศีรษะจนต้องถอย ฉากไป ก่อนที่กำลังที่เหลือจะยิงสวนคน ร้าย ถูกนายพรเทพจนสิ้นใจตาย ซึ่งการดวลเดือดครั้งนี้เกิดขึ้นต่อหน้าหญิงสาวทั้ง 3 รายที่อยู่ในห้องกับผู้ตาย
เสียงหวีดร้องจึงดังแข่งเสียงปืนส่งวิญญาณนายพรเทพ!!
หลังตำรวจควบคุมสถานการณ์ได้จึงเข้าไปชันสูตรพลิกศพนายพรเทพ พบว่าถูกยิงด้วยปืน 9 ม.ม. เข้าที่หัวไหล่ซ้ายและเชิงกราน กระสุนฝังใน นอนตายในสภาพไม่สวมเสื้อ สวมแต่กางเกงขาสั้น เห็นรอยสักเต็มตัว บริเวณปลายเท้าพบอาวุธปืน .38 ตกอยู่ พร้อมกระสุนชนิดหัวระเบิดที่อยู่ในกล่องอีกจำนวน 43 นัด ยาบ้า 5,000 เม็ด เงินสด 1,900 บาท พร้อมอุปกรณ์การเสพที่วางไว้คู่กัน
เจ้าหน้าที่นำตัวผู้หญิงทั้ง 3 รายมาสอบปากคำ ทราบชื่อคือ น.ส.มณีเนตร พูนเขตวิทย์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230 บ้านสันพระเนตร ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เป็นนักศึกษาอยู่สถาบันแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ น.ส.เอ (นามสมมติ) และน.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี บ้าน อยู่จ.ลำพูน เพื่อหาข้อมูลไปขยายผลต่อ
จากการสอบปากคำพยานที่อยู่ใน อพาร์ตเมนต์เล่าว่า ก่อนหน้านี้เห็นผู้ตายเช่าอยู่คนเดียว อยู่ได้ประมาณ 1 เดือนแล้วและไม่ค่อยได้อยู่ห้อง หรือถ้าอยู่ก็จะปิดไฟมืดตลอด จะมีคนแปลกหน้าแวะเวียนมาหาบ่อยครั้ง และที่สำคัญแทบจะไม่มีใครรู้เลยว่าผู้ตายค้ายาบ้า จนกระทั่งมาเกิดเหตุดวลปืนกับตำรวจ
อันเป็นจุดจบของนักค้ายา!!