มาเฟียกระทืบแม่ค้าคลองเตย ปูดขัดผลประโยชน์รายเก่าใหม่

ตร.อัดกลุ่มตื้บพ่อค้าตลาดคลองเตย "ทำตัวเหมือนมาเฟีย" รวบได้ 19 คนเป็นแค่พลเรือนปล่อยตัวชั่วคราวก่อนงัดกฎหมายเล่นงาน ระบุชนวนเหตุการท่าฯ ให้บริษัทเอกชนผู้รับสัมปทานรายใหม่เข้าจัดสรรพื้นที่ ปูดขัดผลประโยชน์รายเก่า-รายใหม่

จากกรณีกลุ่มชายฉกรรจ์นับสิบคนแต่งกายคล้ายทหารพกพาอาวุธปืนบุกเข้าไปในตลาดคลองเตยรุมซ้อมพ่อค้าแม่ค้า พร้อมประกาศไล่ออกจากพื้นที่ ซึ่งอ้างว่ามีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้รับสัมปทานดูแลตลาดคลองเตย และจะเข้ามาดูแลแทนบริษัทเก่าที่หมดสัญญานั้น 

 ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ต.อ.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช ผกก.สน.ท่าเรือ กล่าวว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ เมื่อชาวบ้านแจ้งมาก็ไปตรวจสอบ พบว่าปัญหาเรื่องนี้เกิดมาจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยมอบหมายให้บริษัท อีเกิล โปรเฟสแชนแนล จำกัด ของนายธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้ได้รับสัมปทานดูแลตลาดคลองเตย ที่มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ต่อจากบริษัทเก่า โดยมอบหมายต่อให้นายสมควร กิตติโชติ เข้าไปดำเนินการกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้า

 พ.ต.อ.สุทิพย์กล่าวต่อว่า กำลังตรวจสอบพฤติกรรมกลุ่มชายฉกรรจ์ว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจากการสอบสวนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มของนายสมควรได้ระดมชายฉกรรจ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก บางคนสวมชุดซาฟารี สวมเสื้อคลุมอย่างดี ชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นทหาร ตำรวจ เมื่อได้รับแจ้งจึงส่งตำรวจไปควบคุมตัวมาได้ทั้งหมด 19 คน

 "เมื่อสอบสวนทั้ง 19 คนแล้ว ปรากฏว่าเป็นชาวบ้านธรรมดา มีบัตรประชาชน ถูกระดมมาจากย่านบางแค เพื่อให้มาดูแลตลาดแห่งนี้ ในจำนวนนี้ไม่พบว่าเป็นทหารหรือตำรวจเลย จึงปล่อยตัวไป หากสอบสวนอย่างละเอียดพบว่ามีการกระทำความผิดกฎหมายอาญา ก็จะเรียกตัวมารับทราบข้อหาอีกครั้ง" พ.ต.อ.สุทิพย์กล่าว

 ส่วนการดำเนินการตามกฎหมายนั้น พ.ต.อ.สุทิพย์กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุที่จะมีการปะทะกับพ่อค้าแม่ค้านั้น มีชายฉกรรจ์นำเครื่องขยายเสียงไปประกาศว่าจะเข้ามาดูแลตลาดแห่งนี้แทนบริษัทเก่าที่หมดสัญญาไปแล้ว พร้อมกับไล่ให้พ่อค้าบางคนออกไป จึงเกิดการไม่พอใจขึ้น แต่กลุ่มชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายทหารทำเหมือนเป็นการบีบบังคับ ซึ่งไม่ถูกต้อง ที่ถูกต้องจะต้องมีการเจรจากัน พร้อมแจ้งล่วงหน้า 15-30 วัน หากยังไม่ดำเนินการควรทำตามกฎหมายฟ้องร้องขับไล่ หรือมีการร้องให้ศาลคุ้มครอง มิฉะนั้นแล้วจะเป็นการกระทำที่ส่อไปทางมาเฟีย และหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดกฎหมาย โดยตำรวจจะต้องตรวจสอบต่อไป

 ด้านนายปรีชา แสงดี อายุ 46 ปี พนักงานทำความสะอาดตลาดคลองเตย เล่าว่า เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา มีชายกลุ่มฉกรรจ์กว่า 10 คน เข้ามารุมทำร้ายตน โดยตอนนั้นยืนดูกลุ่มชายฉกรรจ์แต่งตัวคล้ายทหาร สวมชุดซาฟารี รุมตีและด่าทอบรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว จึงเข้าไปห้ามปราม

 "แต่หนึ่งในนั้นสั่งให้หันมารุมทำร้ายผม หาว่าเสนอหน้า และจับผมใส่กุญแจมือแล้วรุมตีผม แต่โชคดีที่มีคนจำนวนมากร้องขอ พวกนั้นจึงปล่อยตัว ซึ่งก็ได้รับบาดเจ็บตามลำตัวและข้อมือเป็นรอยแผลจากกุญแจมือบาด ตอนนี้ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.ท่าเรือแล้ว" นายปรีชากล่าว

 นายปรีชากล่าวอีกว่า พ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านใกล้ตลาดคลองเตยกำลังทำประชาพิจารณ์ว่าต้องการให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยเห็นดีหรือไม่ที่จะให้เปิดประมูลตลาดเพื่อให้เอกชนมาดูแล ซึ่งโดยรวมแล้วไม่ต้องการ เพราะคิดว่าค่าเช่าจะต้องแพงขึ้นอีกหลายเท่า ทุกวันนี้ก็ดีอยู่แล้ว ค่าเช่าทุกวันนี้ตกแผงละ 1,200 บาทต่อเดือน จ่ายเป็นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า โดยมอบให้ผู้ประกอบการเดิมที่รู้จักกันในนามคุณต้อย

 ขณะที่นายชัย (นามสมมติ) กล่าวว่า ไม่ได้เป็นพ่อค้า แต่ได้รับความเดือดร้อนเหมือนกัน ตนและครอบครัวอาศัยอยู่ชุมชนตึกแถวคลองเตย หากเปลี่ยนผู้ดูแลใหม่ ชาวบ้านที่อาศัยในชุมชนตึกแถวก็จะโดนไล่ที่เช่นเดียวกัน จึงออกมาลงทะเบียนทำประชาพิจารณ์ไม่เห็นด้วย ตอนนี้ทำมาได้ 2 วันแล้ว  ได้รายชื่อกว่า 2,000 คน ซึ่งเป้าหมายที่ต้องการ 5,000 ชื่อ โดยมีนายสมพงษ์ ตั้งสกุลวิวัฒนา ประธานชุมชน เป็นผู้ดูแล

 "เชื่อว่ากลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาเพื่อก่อกวนและข่มขู่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดไม่ให้ทำประชาพิจารณ์ แต่พวกผมก็จะสู้ให้ถึงที่สุด แม้จะกลัวอำนาจมืดก็ตาม จึงอยากวอนสื่อมวลชนช่วยเป็นสื่อกลางให้ด้วย เพราะไม่ต้องการให้มีอำนาจมืดในตลาดคลองเตย" นายชัยกล่าว

 รายงานข่าวแจ้งว่า ตลาดคลองเตยที่ผ่านมา การท่าเรือแห่งประเทศไทย เปิดประมูลใหม่ เนื่องจากผู้บริหารรายเดิมหมดสัญญา มีบริษัทที่เข้ายื่นขอจัดแผนการตลาดทั้งสิ้น 6 บริษัท โดยบริษัท อีเกิล โปรเฟสแชนแนล จำกัด ของนายธรรมนัส พรหมเผ่า และบริษัทของวุฒิสมาชิกคนหนึ่ง เป็นผู้เข้ารอบ 2 บริษัทสุดท้าย

 ต่อมาทั้ง 2 บริษัท ได้ยื่นซองเสนอราคาต่อการท่าเรือฯ ปรากฏว่าบริษัท อีเกิล โปรเฟสแชนแนล  จำกัด ชนะประมูล โดยบอร์ดของการท่าเรือฯ ได้นัดเซ็นสัญญาไปเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา

 รายงานข่าวระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากผู้ดูแลตลาดคลองเตยเดิม เป็นผู้กว้างขวางในย่านคลองเตยและได้ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อให้คุ้มครองชั่วคราวโดยอ้างว่าการท่าเรือฯ เปิดประมูลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ศาลได้ยกคำร้องไปในเวลาต่อมา

 รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า หลังจากบริษัทของนายธรรมนัสเข้าไปจัดการบริหารตลาด ในช่วงต้นได้ว่าจ้างให้นายสมควร กิตติโชติ หรือแก่ ซึ่งกว้างขวางในย่านตลาดคลองเตย เข้าไปดูแลโดยมีสัญญาเป็นเวลา 1 เดือน เนื่องจากต้องรอทีมงานมืออาชีพที่บริษัทของนายธรรมนัสจ้างเข้าไปบริหารแทนดำเนินการ

 รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างนี้เกิดมีปัญหากันเองระหว่างนายสมควรกับญาติคนหนึ่ง ที่ยังเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากตลาดคลองเตยอยู่ เนื่องจากคู่กรณีคนดังกล่าวมีนายตำรวจยศ พล.ต.ท.ให้การหนุนหลัง ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งกันขึ้น โดยฝ่ายของนายสมควรพยายามจะเข้าไปกันไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากบรรดาพ่อค้าแม่ค้า โดยบันทึกภาพกลุ่มที่เข้าไปรีดไถ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีข้อหากรรโชกทรัพย์ จนเกิดการปล่อยข่าวว่ากลุ่มผู้บริหารใหม่ จะเข้าไปยึดพื้นที่อยู่อาศัยบางส่วน จนเกิดเป็นชนวนปัญหาขึ้น ซึ่งบริษัทอีเกิลฯ กำลังจะส่งตัวแทนเข้าไปยืนยันต่อพ่อค้าแม่ค้าอีกครั้งว่า จะไม่มีการเก็บค่าเช่าเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างแน่นอน

 อนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดย พ.ต.อ.ธนกฤษ โภควณิค รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช ผกก.สน.ท่าเรือ นำกำลังตำรวจประมาณ 10 นาย เข้าตรวจค้นป้อมยามและตลาดคลองเตย หลังจากกลุ่มแม่ค้าในตลาดแจ้งว่า มีชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายทหารเข้ามาทำร้ายร่างกายและข่มขู่ให้ย้ายออกจากตลาด

 จากการตรวจค้นพบชายแต่งกายคล้ายทหารอยู่ภายในป้อมยามท้ายตลาด 5 คน รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บท 7771 กาฬสินธุ์ มีจ่าเอกสวภัทร เล็กรัตน์ ทหารสังกัดขนส่งทหารเรือ สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม รับเป็นเจ้าของรถ อ้างว่ามารอนาวาเอกพจน์ เพื่อเดินทางไปทำธุระที่ จ.เพชรบุรี จากการตรวจค้นภายในรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย มีเพียงเสื้อลายพรางติดริบบิ้นสีเขียว จากนั้นได้เชิญชายฉกรรจ์ทั้งหมดไปสอบปากคำที่ สน.ท่าเรือ เนื่องจากมีพยานยืนยันว่า หนึ่งในกลุ่มชายดังกล่าวทำร้ายร่างกาย

 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบตลาดคลองเตย ระหว่างทางก็พบชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายทหารและมีริบบิ้นสีเขียวติดหน้าอกทุกคนประมาณ 10 คน จึงขอตรวจค้นพบอาวุธปืน 2 กระบอก จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำ เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะต่อชายฉกรรจ์ที่พกพาอาวุธปืน

 ก่อนหน้านี้ เวลา 16.00 น. วันเดียวกัน มีชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายทหารประมาณ 30 คน เข้าไปในตลาดคลองเตย พร้อมกับอ้างว่ามีเฮียคนหนึ่งประมูลตลาดคลองเตยได้แล้ว และเข้ายื้อแย่งแบบสอบถามประชาพิจารณ์เกี่ยวกับการดำเนินการในตลาดของกลุ่มแม่ค้าและทำร้ายร่างกาย จนทำให้แม่ค้าได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ ที่มารักษาความปลอดภัยไม่สามารถจัดการอะไรได้