หมายจับกับบรรจง : รุมยำเกือบตายเพราะยิงหมาคนรวย

เรื่องการใช้อิทธิพลอย่างป่าเถื่อนยังคงมีให้เห็นในสังคมไทยอยู่ตลอดครับ

ล่าสุดที่ จ.อ่างทอง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "เมืองเล็ก แต่คนใหญ่" มีกรณีชาวบ้านถูกกลุ่มลูกสาวของเศรษฐินีเงินกู้รายใหญ่รายหนึ่งในจังหวัดรุมทำร้ายปางตาย โดยมีสาเหตุแค่ไม่พอใจที่สุนัขเลี้ยงไว้ถูกยิงด้วยหนังสติ๊ก เพราะไปวิ่งไล่กัดชาวบ้าน !!! เหตุเกิดช่วงเช้ามืดวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผู้เคราะห์ร้ายคือ นายเทิดพงษ์ สุริยน อายุ 40 ปี ถูกกระทืบจนบอบช้ำ ถึงกับม้ามแตก หัวถูกฟันจนกะโหลกเปิด มือขวาเส้นเลือดใหญ่ขาด เรียกได้ว่าอาการโคม่าเต็มที และตอนนี้นอนอยู่ที่ รพ.อ่างทอง เพื่อรอผ่าตัดอาการเลือดคั่งในสมอง

น.ส.ขนิษฐา สมหมาย อายุ 21 ปี ภรรยาของนายเทิดพงษ์ เป็นพยานคนเดียวที่เห็นเหตุการณ์ในคดีนี้ บอกว่า บ้านเจ้าของสุนัขอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านขายของที่เทิดพงษ์เป็นลูกจ้างของร้านพักอาศัยอยู่

ช่วงเกิดเหตุเห็นนายเทิดพงษ์ยืนถกเถียงอยู่กับเจ้าของสุนัขคือ น.ส.สมใจ คชสาร ลูกสาวเศรษฐินี ซึ่งมีลักษณะเป็นทอม จากนั้นก็มีลูกน้อง น.ส.สมใจขว้างเขียงใส่และเอาด้ามจอบตีนายเทิดพงษ์ จึงเข้าไปห้ามและพานายเทิดพงษ์กลับห้องพัก ไม่นานก็ได้ยิน น.ส.สมใจโทรศัพท์ตามกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นลูกน้องมาที่ร้าน แล้วทั้งหมดซึ่งมี 5 คน ก็ตามขึ้นไปรุมทำร้ายนายเทิดพงษ์ถึงในห้อง ดูแล้วเหมือนจะเอากันให้ตาย

หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองอ่างทอง ตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ผ่านไป 2 วันยังไม่มีการจับกุมผู้ก่อเหตุ เพราะไม่ได้ขอหมายจับจากศาล

แถมมีกระแสข่าวว่ามีความพยายามติดต่อขอเคลียร์เรื่องนี้กับตำรวจที่ดูแลสำนวนคดี แต่เผอิญคนเจ็บเป็นลูกจ้างของนักข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ จ.อ่างทอง ทำให้เรื่องนี้อยู่ในการติดตามอย่างใกล้ชิดของนักข่าวในพื้นที่ โดยมีการกระตุ้นไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ให้ความเป็นธรรมต่อผู้บาดเจ็บในคดีนี้ ทำให้ พ.ต.อ.รวีโรจน์ กองกันภัย ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง ต้องเร่งกำชับให้พนักงานสอบสวนรีบออกหมายจับโดยเร็ว โดยวันที่ 21 สิงหาคม ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 3 คน คือ น.ส.สมใจ คชสาร นางวรรณา พิมพ์จันทร์ และนายวรพจน์ ทองคำสุก โดยเกลี้ยกล่อมให้ทั้งหมดยอมเข้ามอบตัว และให้ปากคำต่อตำรวจแล้ว

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นเพราะนายเทิดพงษ์มีพฤติการณ์เอาหนังสติ๊กไล่ยิงสุนัขของผู้ต้องหามาแล้วหลายครั้ง จึงผูกใจเจ็บ

ขณะที่ พ.ต.อ.รวีโรจน์บอกว่า กำลังเพิ่มข้อหาเป็นทำร้ายอันตรายสาหัสและร่วมกันลักทรัพย์ โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปด้วย แต่ยังไม่ถึงขั้นพยายามฆ่า เพราะตอนขอหมายจับจากศาล ศาลบอกบาดแผลไม่ถึงขั้นพยายามฆ่า โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และว่ากันตามข้อเท็จจริง ขณะที่พยานในเหตุการณ์คือ น.ส.ขนิษฐา บอกว่า ต้องอยู่อย่างหวาดผวาต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะช่วงที่นำสามีส่งโรงพยาบาล และหลังจากตำรวจตรวจที่เกิดเหตุเสร็จสิ้น ทราบมาว่ากลุ่มผู้ต้องหาย้อนกลับไปเตรียมจะทำร้ายเธออีกคน เพื่อปิดปาก และมีการข่มขู่เธอไว้ด้วย แต่โชคดีที่ตอนนั้นอยู่ที่โรงพยาบาล และมีคนเตือนว่าให้ระมัดระวังตัวในช่วงนี้ รวมถึงแม่ของ น.ส.สมใจที่มาบอกว่าไม่ให้ตนเอาเรื่องลูกสาว ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า นี่สุนัขของคนรวยมีค่ามากกว่าชีวิตของคนจนหรืออย่างไร ?

เรื่องนี้เป็นกรณีเล็กๆ กรณีหนึ่งในสังคมไทยครับ ที่จะได้พิสูจน์มาตรฐานกระบวนการยุติธรรมของไทยครับว่า ตำรวจและอัยการจะมีสำนวนคดีที่มีหลักฐาน "แข็ง" พอที่จะเอาคนผิดติดคุกได้หรือไม่

อย่าให้ชาวบ้านตาดำๆ ต้องรู้สึกเลยครับว่า คนมีเงิน มีอิทธิพล ทำผิดติดคุกยากกว่าคนจน !!!

แจ้งเบาะแสทีมงานหมายจับกับบรรจง : 0-2751-5415