ด.ต.ถูก 'บีบคอตาย' กลางถนนวิภาวดีรังสิตกลางดึก ระหว่างขับรถกลับบ้าน เจอกลุ่มเด็กแว้นกำลังแข่งรถ จึงเข้าระงับเหตุ เผยวงจรปิดบันทึกภาพก่อเหตุได้ ล่าสุดตร.ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัย 3 คน ควบคุมต่อ 1 คน หลังตรวจพบฉี่ม่วง ตร.ปูนบำเหน็จ 7 ขั้น
พยานเห็นด.ต.วิ่งไล่'เด็กแว้น'หลังรถตู้ ต่อมาล้มฟุบที่พื้น
พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ถึงคดีด.ต.สัมฤทธิ์ แต้มทอง อายุ 51 ปี ผบ.หมู่งานจราจร สน.วิภาวดี ถูกกลุ่มโจ๋แก๊งซิ่งรุมทำร้ายจนเสียชีวิต ว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งหาข้อมูล พยานหลักฐานและพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานกันหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวน โดยจะเก็บพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุให้มากที่สุด รวมถึงการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุว่า สามารถจับภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ได้หรือไม่ นอกจากนี้ ฝ่ายสืบสวน บก.น.2 ได้ส่งทีมสายสืบออกมาช่วยทำงานด้วย
ด้านนายสันติ แต้มทอง อายุ 28 ปี ลูกชายคนเล็กของด.ต.สัมฤทธิ์ ได้เดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารการแจ้งความ และกล่าวว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เพราะพ่อเป็นแบบอย่างที่ดีของลูกมาตลอด เพราะขยันทำงาน และไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยจากการทำงานเลย ตนเชื่อว่า พ่อน่าจะเสียชีวิตเพราะถูกทำร้ายร่างกาย เนื่องจากพ่อเป็นคนแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว ต่อมา ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสมพร (ไม่ทราบนามสกุล) เจ้าของรถตู้ที่สามารถยึดได้จากที่เกิดเหตุ มาสอบปากคำที่ สน.พหลโยธิน โดยนายสมพร กล่าวว่า เพิ่งขายรถคนนี้ไปเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยการโอนลอย ซึ่งมีนายนิรันดร์ อ่อนสมจิตร ที่มีอาชียขับรถตู้รับจ้างเหมือนกัน เป็นหน้านายพาคนชื่อก๊อฟ กับนายเบ็นซ์ ซึ่งเป็นพี่น้องกัน มาติดต่อซื้อรถตู้กับตน ตกลงกันในราคา 200,000 บาท โดยนายก๊อฟซื้อด้วยเงินสด ตนจึงจัดการเซ็นโอนลอยให้ไปเลย หลังจากโอนรถให้นายก๊อฟไปแล้วตนก็ไม่รู้ว่านายก๊อฟจะเอาไปทำอะไร
'ผมมีอาชีพขับรถรับจ้างทั่วไปอยู่ย่านลาดพร้าว ซึ่งรถตู้ที่ขายนี้ก็ใช้ทำมาหากินขับรับจ้างมาหลายปีแล้ว หลังเกิดเรื่องดังกล่าวผมก็ถูกเรียกมาให้ปากคำที่สน.พหลโยธิน เมื่อผมมาเห็นรถตู้ที่ผมขายไปก็พบว่ารถถูกดัดแปลงไปมาก ด้วยการเอากันชนออก เอาเบาะผู้โดยสารด้านในรถออก ซึ่งก่อนที่ผมจะขายรถยังอยู่สภาพเหมือนเดิมไม่มีการดัดแปลงใดๆ' นายสมพร กล่าว
พยานเห็นด.ต.วิ่งไล่′เด็กแว้น′หลังรถตู้ ต่อมาล้มฟุบที่พื้น ผลชันสูตรพบถูก′บีบคอตาย′
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายสืบสวนทั้งของบก.น. 2 และสน.พหลโยธินกำลังติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ช่วงที่ด.ต.สัมฤทธิ์ถูกรุมทำร้าย
นอกจากนี้ ตามแนวทางการสืบสวนทราบว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทำการสอบปากคำพยานแวดล้อมที่เป็นผู้แจ้งเหตุเข้า 191 ทั้งหมด 4 ราย แต่ไม่มีรายใดที่เห็นเหตุการณ์ช่วงที่ด.ต.สัมฤทธิ์ถูกรุมทำร้าย แต่ทั้งหมดให้การตรงกันว่า เห็นเหตุการณ์ช่วงที่ด.ต.สัมฤทธิ์ วิ่งไล่กลุ่มซิ่งจักรยานยนต์เข้าไปบริเวณข้างรถตู้ ซึ่งเป็นมุมอับ และเมื่อเห็นอีกทีพบว่า ด.ต.สัมทธิ์นอนฟุบอยู่กับพื้นแล้ว จากนั้น เห็นกลุ่มวัยรุ่นวิ่งขึ้นรถกะบะแบบ 4 ประตูแต่งซิ่งขับหลบหนีไป ส่วนรถเก๋งยี่ห้อนิสัน เซฟิโร่ สีดำ ที่มีวัยรุ่น 4 คน ถือไม้เบสบอลวิ่งตรงไปที่ ด.ต.สัมฤทธิ์นั้น พยานยืนยันว่าช่วงนั้น ด.ต.สัมฤทธิ์ ล้มไปกับพื้นแล้ว จึงไม่สามารถระบุบไปได้ว่าเป็นกลุ่มที่ลงมือทำร้ายได้
ปูนบำเหน็จ5ขั้นด.ต.สังเวย'เด็กแว้น' สั่งหาคนร้ายด่วน
พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งปูนบำเหน็จด.ต.สัมฤทธิ์ แต้ทอง ผบ.หมู่จราจร สน.วิภาวดี ภายหลังที่ถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต โดยการเลื่อนขั้นเงินเดือน 5 ขั้น และเลื่อนชั้นยศเป็นพ.ต.ต. พร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้อีกจำนวน 5.5 แสนบาท พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ก กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด และเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุกพื้นที่กวดขันจับกุมแก๊งรถจักรยานซิ่งอย่างเต็มที่ และยังขอฝากไปยังผู้ปกครองให้สอดส่องดูแลบุตรหลานไม่ให้สร้างความวุ่นวายต่อสังคม เพราะสถาบันครอบครัวเป็นสถาบันแรก ที่ต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขปัญหานี้
ผลชันสูตรศพ ด.ต.ปราบแว้นถูกบีบคอจนตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานผลการชันสูตรพลิกศพของ ด.ต.สัมฤทธิ์ แต้มทอง อายุ 51 ปี ผบ.หมู่ สน.วิภาวดี ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ที่ถนนวิภาวดีรังสิต ว่า ผู้ต้องสงสัย 4 คนที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ จึงปล่อยตัวไปแล้ว 3 คน โดยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ แพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจสันนิษฐานการตาย ของ ด.ต.สัมฤทธิ์ คาดว่าถูกบีบคอจนตายสมองขาดออกซิเจน กล้ามเนื้อสมองตาย ขาดเลือดเฉียบพลัน
ตร.ปล่อยแล้ว3เด็กแว้นไร้หลักฐานเอาผิด พบอีก1ฉี่ม่วง
พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช ผู้กำกับการ สน.พหลโยธิน กล่าวเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ถึงความคืบหน้าคดีด.ต.สัมฤทธิ์ แต้มทอง อายุ 51 ปี ผบ.หมู่ สน.วิภาวดี ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ที่ถนนวิภาวดีรังสิต ว่า ผู้ต้องสงสัย 4 คนที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ จึงปล่อยตัวไปแล้ว 3 คน โดยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ เนื่องจากตำรวจยังไม่มีหลักฐานและพยานยืนยันว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนกระทำความผิด ส่วนนายประเสริฐ มีถาวร อายุ 29 ปี ผู้ต้องสงสัยที่ไม่ได้ถูกปล่อยตัวไปนั้น เจ้าหน้าที่ยังควบคุมตัวไว้ เนื่องจากการตรวจปัสสาวะพบว่ามีสีม่วง จึงต้องนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดต่อไป พ.ต.อ.อาคม กล่าวว่า รถตู้ที่หมายเลขทะเบียน อต 9737 กรุงเทพมหานคร ที่สามารถยึดได้จากที่เกิดเหตุนั้น น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เนื่องจากบรรทุกอุปกรณ์ที่ใช้สนับสนุนการแข่งรถ และด.ต.สัมฤทธิ์ได้นอนหมดสติอยู่ข้างรถคันนี้ด้วย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดต่อเจ้าของรถมาเข้าให้ปากคำต่อไป