หนีไปจนมุมที่ลาว สองม้งนักค้ายาบ้า รูดกุญแจหนีโรงพัก

จากเหตุการณ์ที่ 2 ผู้ต้องหาชาวม้งคดีค้ายาบ้าคือ นายมงคล หาญกำจร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 5 ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย กับนายวีระพล แซ่หาง อายุ 25 ปี อยู่หมู่เดียวกัน ซึ่งถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมพร้อมของกลางยาบ้า 2 หมื่นเม็ด

นำตัวส่ง สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ดำเนินคดี แต่ระหว่างสอบสวนผู้ต้องหาได้วิ่งหนีลงจากโรงพักหายไปอย่างไร้ร่องรอย ต่อหน้า ด.ต.เกษมสันต์ สำเริง เสมียนเวรประจำวัน ส่วน พ.ต.ท.นันทิกรณ์ เย็นวัฒนา พงส. (สบ 2) เจ้าของคดีกำลังเข้าห้องน้ำ จนกลายเป็นที่กังขาของหลายฝ่าย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น  หลังการหลบหนีหายไปกว่า 3 เดือน ในที่สุดผู้ต้องหาทั้ง 2 ก็ไม่พ้นมือกฎหมายถูกตารวบตัวได้ที่ประเทศลาว ทั้งนี้เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง ผบก. พ.ต.อ.ทวีพันธ์ แสงประเสริฐ รอง ผบก. พ.ต.อ.วีรสันธ์ สมใจ ผกก. สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายมงคล หาญกำจร กับนายวีระพล แซ่หาง 2 ผู้ต้องหาชาวม้งที่หลบหนีไปจาก สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์

พล.ต.ท.ฉลองกล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต. ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี ติดตามตัวคนร้ายทั้ง 2 ให้ได้

เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาตัวการสำคัญและเป็นผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่ นอกจากนี้เพื่อเป็นการตัดข้อครหาว่า มีตำรวจหรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา ขณะที่ พล.ต.ต.ประพันธ์กล่าวว่า หลังคนร้ายหลบหนีได้สั่งให้ พ.ต.อ.นันทชาติ พ.ต.ท.จีรวัฒน์ แนวจำปา รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.ปทุมธานี รวมทั้งตำรวจ ภาค 1 และ ป.ป.ส.นำกำลังไล่ล่าผู้ต้องหาจนทราบว่า หนีไปกบดานที่ประเทศลาวจึงประสานไปยังทางการลาว กระทั่งวันที่ 28 ก.ค. 51 พ.ต.อ.นันทชาติ ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจของลาว ว่าได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนได้แล้วและส่งตัวมาให้บริเวณท่าเรือบั๊ก ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย

จากการสอบสวนนายวีระพลให้การรับสารภาพว่า ก่อนหลบหนีถูกสวมกุญแจมือแน่นมากเลยบอกตำรวจว่า เจ็บข้อมือขอให้คายกุญแจมือออกนิดเดียว

ระหว่างเผลอได้ใช้น้ำลายป้ายและบ้วนใส่ที่ข้อมือ จากนั้นค่อยๆรูดกุญแจมือออกจากแขนซ้าย พร้อมพูดเป็นภาษาม้งกับนายมงคลปลดกุญแจได้แล้วเตรียมตัวหนี จังหวะเดินออกจากห้องสอบสวนรีบรูดกุญแจมือออก ต่างคนต่างวิ่งแยกย้ายหนีไปคนละทิศละทาง แล้วติดต่อกันภายหลังและพากันหนีไปกบดานที่ประเทศลาว กระทั่งถูกตำรวจลาวจับกุมข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ทางด้าน พ.ต.ท.นันทิกรณ์เจ้าของคดีกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยรอยยิ้มว่า คิดว่าจะต้องตกเป็นจำเลยสังคมเสียแล้ว ถ้ายังจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ไม่ได้ ชีวิตราชการคงจะจบแน่ ถือว่าโชคดีและถือเป็นบทเรียนราคาแพงในชีวิตราชการทีเดียว ต่อไปต้องทำงานให้รัดกุมมากกว่านี้ และต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่คอยให้การช่วยเหลือติดตามจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้