เทคโนฆ่าปวช. ยิงบนรถเมล์!

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ส.ค. พ.ต.ต.อดิศร แก้วโหมดตาด พงส. (สบ 2) สน.หนองค้างพลู รับแจ้งจากโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแคว่า มีนักเรียนถูกยิงเสียชีวิตถูกนำส่งโรงพยาบาล จึงไปตรวจสอบ

ทราบชื่อผู้ตายนายวันเฉลิม มีวงศ์ อายุ 18 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 49 หมู่ 3 ต.บางไกล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เป็นนักเรียน ปวช.ชั้นปีที่ 2 สาขาการตลาด โรงเรียนพณิชยการกรุงเทพ ย่านบางแค มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุน .38 เข้าที่บริเวณอกด้านซ้าย 1 นัด ผู้ตายอยู่ในชุดนักเรียนเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำเงิน 

สอบปากคำเพื่อนนักเรียนสถาบันเดียวกันที่นำผู้ตายส่งโรงพยาบาลได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งหมดขึ้นรถเมล์สาย 81 วิ่งระหว่างอ้อมน้อย-ปิ่นเกล้า

เมื่อรถผ่านมาถึงปากซอยเพชรเกษม 114 มีวัยรุ่นชาย 2 คน สวมเสื้อช็อปสีน้ำตาลคล้ายนักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีแห่งหนึ่งซึ่งเป็นอริกัน ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและสี ไล่ติดตามมาพร้อมชักปืนยิงขู่ขึ้นฟ้า 3 นัด จากนั้นทั้งคู่ก็ขี่รถจากไป ต่อมาเมื่อรถเมล์วิ่งมาถึงห้างคาร์ฟูร์ หนองแขม บริเวณแยกถนนเพชรเกษมตัดกับพุทธมณฑล สาย 3 ก็ถูกรถแท็กซี่จำยี่ห้อและสีไม่ได้วิ่งมาปาดหน้า จากนั้นมีวัยรุ่นชาย 4 คนลงมาจากรถแท็กซี่ 2 คน คนแรกสวมเสื้อช็อปสีน้ำตาลซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่ขี่จักรยานยนต์ตามไล่ยิงบริเวณปากซอยเพชรเกษม 114 ส่วนอีก 2 คน สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ทั้งหมดเดินตรงมาที่รถเมล์ หลังจากนั้น หนึ่งในวัยรุ่นที่สวมเสื้อช็อปก็ชักปืนออกมา ยิงขึ้นมาบนรถเมล์ 3 นัด บริเวณที่นายวันเฉลิมนั่งอยู่ริมหน้าต่างติดกับประตูหลัง กระสุนถูกนายวันเฉลิมฟุบลง หลังก่อเหตุทั้งหมดต่างแยกย้ายกันหลบหนี ขณะที่กลุ่มนักเรียนร่วมสถาบันเดียวกับผู้ตาย ช่วยกันนำนายวันเฉลิมส่งโรงพยาบาลแต่สิ้นลมลงระหว่างทาง

ต่อมานางถนอม มีวงศ์ อายุ 55 ปี มารดานายวันเฉลิม เดินทางไปที่โรงพยาบาลเมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของบุตรชายก็โผเข้ากอดศพร่ำไห้ด้วยความเสียใจ

นางถนอมเปิดเผยว่า ทำอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ที่บ้านย่านอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร มีบุตร 2 คน ผู้ตายเป็นบุตรชายคนโต วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายก่อนปิดภาคเรียน ก่อนออกจากบ้านยังมาหอมแก้มแม่ พร้อมกับขอพรให้สอบผ่านฉลุย ไม่คิดว่าจะมาเสียชีวิต ก่อนหน้านี้เคยบ่นอยากย้ายไปเรียนที่อื่น เพราะเกรงว่าขณะไปโรงเรียนจะไม่ปลอดภัย เพราะเพื่อนๆถูกนักเรียนสถาบันคู่อริทำร้ายได้รับบาดเจ็บไปแล้วหลายคน

เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ณรงค์ อภิรักษ์อโณทัย สว.สส.สน.หนองค้างพลู พร้อมกำลังนำตัวนายณัฐพล หรือแป๋ง สงประชา อายุ 18 ปี นายวุฒินันท์ หรือต้อง ฮกมาลี อายุ 18 ปี

ทั้งคู่เป็นนักเรียน ปวช.ชั้นปีที่ 2 แผนกช่างกลโรงงาน โรงเรียนเทคโนโลยีกรุงธน และนายมารุต หรือขุน เนตรติวงศ์ อายุ 19 ปี ปวช.ชั้นปีที่ 3 แผนกช่างกลโรงงาน โรงเรียนเดียวกัน ไปสอบปากคำเครียด นายณัฐพลและนายวุฒินันท์ให้การสารภาพว่าร่วมกับนายมณฑล หรืออุ๋ย ทองทัต อายุ 25 ปี นักเรียนภาคค่ำ และนายตั้ม ปวช.ชั้นปีที่ 2 แผนกช่างกลโรงงาน ไปก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยนายมณฑลหรืออุ๋ย เป็นผู้ลั่นกระสุน แล้วหลบหนีนำปืน .38 ไปฝากไว้กับนายมารุตที่บ้านย่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม สาเหตุเพราะทั้ง 2 โรงเรียนเป็นคู่อริมีเรื่องผูกใจเจ็บกันมาตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวนายมณฑลหรืออุ๋ย มาดำเนินคดีต่อไป ขณะที่นายตั้มให้ญาติประสานมาทางพนักงานสอบสวนเพื่อขอมอบตัวแล้ว