คดีฆาตกรรมอำมหิตนายชัยวัฒน์ หลั่งยิ้ม อายุ 44 ปี และ ด.ช.อรรถชัย หลั่งยิ้ม ลูกชายวัย 13 ปี ถูกคนร้ายทุบหัวฆ่าโหด 2 ศพสยอง
ที่บ้านเลขที่ 1/3 ซอยคลองสี่ตะวันออก 52 ถนนเลียบคลองสี่ หมู่ 9 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยศพผู้เป็นพ่อถูกทิ้งอยู่ในบ่อน้ำข้างบ้าน ส่วนศพลูกชายอยู่บนที่นอนในบ้าน เบื้องต้นคาดว่าฆาตกรโหดเป็นคนรู้จักมานั่งดื่มเหล้ากับนายชัยวัฒน์ แล้วมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันจึงลงมือฆ่าโหด จากนั้นฆ่าปิดปากลูกชายที่นอนอยู่ในบ้านอีกศพ ก่อนรื้อค้นเอาทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 13 บาทหลบหนีไปนั้น ล่าสุดผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงฆ่าตัวตายแล้ว
ความคืบหน้าคดีฆ่าโหด 2 พ่อลูก เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 ส.ค. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี เดินทางไปที่ สภ.คลองหลวง
เรียกประชุมนายตำรวจชุดคลี่คลายคดี ใช้เวลานานกว่า 2 ชม. จากนั้น พล.ต.ต.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าว พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 สั่งการให้มาควบคุมการสืบสวนสอบสวนเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากมีพฤติกรรมเหี้ยมโหดก่อคดีสะเทือนขวัญ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งพบผู้ต้องสงสัยแล้ว 1 คน คือ นายวิสูตร หรือแห้ง บัวสร้อย อายุ 45 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนายชัยวัฒน์ อยู่บ้านเลขที่ 25/3 ถนนเลียบคลองสี่ หมู่ 10 ต.คลองสี่ จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง ผบก.ภ.จ. ปทุมธานี พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผกก.สภ.คลองหลวง นำกำลังไปตรวจสอบหาหลักฐาน
ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 ได้รับแจ้งจาก พ.ต.อ.นันทชาติ ว่านายวิสูตร ผู้ต้องสงสัยรายนี้ ได้ใช้ปืนยิงตัวตายขณะตำรวจจะเข้าตรวจค้นในบ้าน
จึงประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่วิทยาการ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น หลังใหญ่ปลูกในเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวา ภายในบ้านชั้นล่าง พบศพนายวิสูตร บัวสร้อย เจ้าของบ้านนอนหงายจมกองเลือดอยู่บนที่นอนในห้องโถง ถูกยิงที่ขมับขวา 1 นัด โดยมีปืน .38 ตกอยู่ใกล้มือขวาของผู้ตาย ในลูกโม่มีปลอกกระสุน 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนางวิลัยพร บัวสร้อย อายุ 45 ปี ภรรยาผู้ตายให้การทั้งน้ำตานองหน้าว่า สามีเป็นญาติผู้พี่ของนายชัยวัฒน์ เนื่องจากมารดาเป็นพี่สาวของแม่นายชัยวัฒน์
หลังเกิดเหตุฆาตกรรมนายชัยวัฒน์กับลูกชาย เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้นำตัวสามีไปสอบปากคำในฐานะมีส่วนต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดี โดยได้ทำประวัติและสอบปากคำจนถึงเวลาเกือบตีหนึ่ง สามีให้การปฏิเสธ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของสองพ่อลูก หลังถูกตำรวจปล่อยตัวก็กลับบ้าน โดยมีนางวรรษมนต์ ฐากู้เกียรติ อายุ 24 ปี ภรรยาอีกคนของสามีพาลูกสาววัย 1 ขวบเศษมานอนที่บ้านด้วย จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุได้มีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาตะโกนเรียกสามีที่หน้าบ้าน จึงบอกให้นางวรรษมนต์เดินไปเปิดประตู แล้วทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด หันไปดูก็ต้องตกใจแทบช็อก เมื่อพบว่าสามียิงตัวตายต่อหน้าต่อตา
ด้าน พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง ผบก.ภ.จ. ปทุมธานี กล่าวว่า การที่นายวิสูตรยิงตัวตายอาจมาจากความเครียด ที่กลัวว่าจะถูกตำรวจจับกุมข้อหาฆ่าคนตาย
แต่ตำรวจยังไม่ได้ตั้งข้อหานายวิสูตร เพียงแต่สงสัยว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเท่านั้น ส่วน พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวเสริมว่า ตามแนวทางการสืบสวนสอบสวนพยานแวดล้อมพบว่า ผู้ต้องสงสัยที่สุดคือนายวิสูตร จากการที่นำตัวไปสอบปากคำเมื่อคืนที่ผ่านมา ยังให้การขัดแย้งกับพยานแวดล้อมและพยานวัตถุ ล่าสุดตำรวจกำลังจะรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับเร็วๆ นี้อยู่แล้ว แต่กลับมาชิงฆ่าตัวตายก่อน คงต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ให้แน่ชัด ว่าผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมสองพ่อลูกหรือไม่ เพื่อจะได้หมดข้อกังขาและคลายความสงสัยของญาติๆ ส่วนของกลางทองรูปพรรณหนัก 13 บาทนั้นคงต้องพยายามค้นหาต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
