นางจันทร์ฉายให้การว่า
เมื่อเวลา 09.30 น. ตนพร้อมลูกจ้างผู้หญิงอีก 2 คน กำลังเปิดร้านตามปกติ และเปิดประตูกระจกหน้าร้านเอาไว้ โดยมีแม่ค้าขายสับปะรดที่ตั้งแผงอยู่หน้าร้าน ซึ่งรู้จักกันเดินเข้ามาดูทอง ระหว่างนั้นมีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น อายุประมาณ 20-25 ปี รูปร่างสันทัด ไว้ผมยาวย้อมสีทอง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเขียวขี้ม้า นุ่งกาง เกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋าสีเขียว ใช้เสื้อยืดสีน้ำตาลคลุมใบหน้าเห็นแต่ดวงตา เดินถืออาวุธมีดหัวตัดยาวประมาณ 50 ซ.ม. เข้ามาภายในร้าน ผลักแม่ค้าขายสับปะรดล้มลง แล้วตรงปรี่เข้ามาใช้มีดขู่ตนพร้อมสั่งว่าให้อยู่เฉยๆ ก่อนที่จะกระ โดดข้ามตู้กระจก เข้าไปหยิบสร้อยทองรูปพรรณบนตู้โชว์ติดผนัง ยัดใส่กระเป๋าไปทั้งหมด 22 เส้น น้ำหนักรวม 25 บาท มูลค่าทั้งสิ้น 377,500 บาท ยัดใส่กระเป๋าสะพาย แล้ววิ่งหนีออกจากร้าน
นางจันทร์ฉายให้การต่อไปว่า
เมื่อคนร้ายออกจากร้านตนและลูกจ้างรีบวิ่งตามออกไป พบว่าคน ร้ายโบกรถแท็กซี่สีขาว หลบหนีไปทางถนนเพชร เกษมขาเข้า จึงรีบโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังสอบ สวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงวิทยุสกัดและกระจายกำลังออกติดตามตัวคนร้าย
จนกระทั่งเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.อัศวินได้รับรายงานจากพ.ต.อ.อนุชา ว่า
สามารถสกัดจับกุมคน ร้ายได้แล้วพร้อมของกลางทั้งหมด ที่อู่ธนิตยนต์ เลขที่ 40/78 ซอยเพชรเกษม 92/9 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. จึงนำกำลังไปร่วมสอบสวน ก่อนนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทอง
จากการสอบสวน ทราบชื่อคนร้ายคือ นายณรงค์ หรือตั้ม เรืองฤทธิ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/12 หมู่ 4 ต.กุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี นายณรงค์ให้การว่า
เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกทม. และ ยังรับงานเดินโพยฟุตบอลให้โต๊ะบอลในย่านมหา วิทยาลัยด้วย ก่อนหน้านี้เก็บเงินค่าพนันฟุตบอลมาได้จำนวน 140,000 บาท จากนั้นมีเพื่อนมาชวนไปเล่นกำถั่วที่บ่อนย่านพุทธมณฑล สาย 4 จนเงินหมด ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาใช้คืนโต๊ะบอล จึงตัดสินใจจี้ร้านทอง
นายณรงค์กล่าวว่า
ก่อนลงมือได้มาดูทางหนีทีไล่ร้านแห่งนี้เอาไว้ก่อนแล้ว ในช่วงเช้าวันนี้เตรียมอาวุธมีดหัวตัดมาใช้ก่อเหตุ ขณะที่รอเวลาให้ร้านเปิด ได้มานั่งดื่มเบียร์ย้อมใจที่ร้านใกล้เคียง 2 ขวด เมื่อเห็นเจ้าของร้านลงมาเปิดประตู ก็ถือมีดเข้าไปก่อเหตุทันที เมื่อได้ทองมาแล้วก็รีบวิ่งหนีออกมาเรียกรถแท็กซี่ เพื่อกลับรถไปฝั่งตรงข้าม แต่เห็นตำรวจจราจรไล่ตามมาติดๆ จึงตัดสินใจลงจากรถ วิ่งข้ามถนนมุ่งหน้าไปโรงเรียนอำนวยศิลป์ แต่ รปภ.โรงเรียนไม่ให้เข้า จึงต้องวิ่งข้ามถนนกลับไปทางซอยเพชรเกษม 92/9 เมื่อมาถึงอู่ซ่อมรถก็ลื่นล้มลง จึงถูกตำรวจและคนงานอู่ช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายณรงค์ไปสอบ สวนอย่างละเอียดที่ สน.เพชรเกษม อีกครั้ง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ และพกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ดำเนินคดีต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
