ภายหลังที่ ผศ.จักรฤทธิ์ อุทโธ อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ถูก น.ส.เฟิร์น (นามสมมติ) อายุ 21 ปี นักศึกษาปีที่ 3 คณะบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน แจ้งความ สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ดำเนินคดี ข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ เพราะลวนลามและชวนหลับนอนเพื่อแลกเกรด ส่วนทางด้านวินัย ถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและให้ ผศ.ฉาวออกจากราชการไว้ก่อนนั้น
ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 1 ก.ค. น.ส.เฟิร์น เหยื่อกามฉาว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกเครียดมาก
หลังจากที่ถูกเพื่อนนักศึกษาที่เคยชวนเข้าไปพบ ผศ.จักรฤทธิ์ด้วยกันในห้องพักอาจารย์ และถูก ผศ.จักรฤทธิ์บอกให้ออกไปรออยู่ข้างนอก ไม่ยอมเป็นพยานให้ คาดว่าถูกข่มขู่ แม้แต่ เพื่อนนักศึกษาที่เคยถูก ผศ.จักรฤทธิ์ลวนลามและพร้อมที่จะไปแจ้งความด้วยต่างขอถอนตัว ทำให้มีความรู้สึกโดดเดี่ยว อย่างไรก็ตาม ขอยืนหยัดที่จะต่อสู้ต่อไป ถึงแม้ว่าจะถูกกดดันจากอาจารย์บางคนก็ตาม และโชคดีที่มีพ่อซึ่งเป็นทหารกับแม่ที่เข้าใจ คอยปลอบใจให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลาว่ากระทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
นักศึกษาสาวยังได้ระบายความอัดอั้นว่า ขณะนี้ทางฝ่าย ผศ.จักรฤทธิ์พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหา หลุดพ้นจากการถูกสอบสวนทางวินัยร้ายแรง
ด้วยการขอภาพหลักฐานที่ตนนำไปแจ้งความจากผู้สื่อข่าวข่าวทีวีช่องหนึ่งไปดูพร้อมกับอาจารย์ที่เป็นหนึ่งในกรรมการสอบสวน เพื่อหาช่องทางพ้นผิดแล้วจะโยนบาปให้ตนเป็นผู้สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อแบล็กเมล์ ขอเงินไม่ได้แล้วไปแจ้งความ สาเหตุที่รู้เรื่องนี้ เพราะมีอาจารย์ คนหนึ่งที่รู้พฤติกรรมของ ผศ.จักรฤทธิ์ มาบอกให้รู้ตัวเพื่อเตรียมรับสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากตกเป็นข่าวฉาวขึ้นมามีผู้บริหารบางคนของมหาวิทยาลัย พยายามปกปิดข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว
ทั้งเรื่องคำสั่งพักราชการ หรือคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ผศ.จักรฤทธิ์ รวมทั้งการร้องเรียนของนักศึกษาทั้งชายและหญิงเกี่ยวกับพฤติกรรมของ ผศ.จักรฤทธิ์ แม้กระทั่งหน้าห้องของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รมว.ศึกษาธิการ ได้โทรศัพท์มาขอคำสั่งพักราชการก็ยังถูกปฏิเสธ
ทางด้านนายสุทัศน์ เงินหมื่น อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีต รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ได้ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น
หากนักศึกษาไม่ได้รับความเป็นธรรมจะต้องยื่นมือให้ความช่วยเหลืออย่างแน่นอน ในฐานะที่เป็นผู้ร่วมออกกฎหมายจัดตั้งมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ในสมัยที่เป็น รมช.มหาดไทย และนายไชยศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ อดีต รมว.ทบวงมหาวิทยาลัย สมัยนั้นเป็นผู้ผลักดัน “คนที่ร่วมกันผลักดันตั้งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีขึ้นมาเพื่อต้องการให้ความรู้แก่เยาวชน แต่เมื่อมีคนไม่ดีเข้ามาปะปนก็ต้องช่วยกันขับออกจากมหาวิทยาลัย ไม่ใช่มากางปีกปกป้องกัน แล้วโยนบาปให้เด็ก” นายสุทัศน์กล่าว