นศ.สาว ราชภัฏดัง หายลึกลับ กับเบนซ์

พ่อแม่ร้องกองปราบฯ น.ศ.สาวราชภัฏพระนครหายตัวลึกลับพร้อมรถเบนซ์

ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงบัดนี้ไม่สามารถตามตัวได้เลย แจ้งความคนหายไว้กับท้องที่ก็ไม่มีความคืบหน้า เผยอยู่กินกับวิศวกรวัย 45 ทั้งที่ยังเรียนอยู่ ก่อนจะมีเรื่องระหองระแหงกันแล้วหายตัวไป เกรงจะเกิดอันตราย ทางด้านสามีวิศวกรแฉกลับ เมียน.ศ.สาวหนีไปเอง หลังจากทะเลาะรุนแรงเพราะตัวเองไปเห็นคลิปกำลังเสพยาบ้ากับเพื่อน ส่วนรถเบนซ์ที่หายไปก็แจ้งความคดีลักทรัพย์ไว้แล้ว ทราบว่านำไปขายต่อ

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 10 มิ.ย. ที่กองปราบปราม นายสุนทร มหามาตย์ อายุ 57 ปี นางอ้วน มหามาตย์ อายุ 52 ปี และน.ส.บุญญาลักษณ์ มหามาตย์ อายุ 27 ปี บิดา มารดา และพี่สาว

ของน.ส.สุธิดา มหามาตย์ อายุ 24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะบริหารทรัพยากรฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 4 ต.บ้านดู่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.ธรรมศักดิ์ ต่อมหล้า พงส.(สบ2) บก.ป. เพื่อขอให้ช่วยติดตามหาตัวน.ส.สุธิดาที่หายตัวไปจากหอพักไอส์แลนด์แมนชั่น เลขที่ 717 ถนนรามอินทรา ซอย 99 แขวงและเขตคันนายาว กทม. พร้อมกับรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น อี 230 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน สบ-1498 กทม. ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.2550 โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความคนหายไว้ที่สน.บางชัน เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2550 แต่เรื่องยังไม่มีความคืบหน้าเกรงว่าอาจเกิดอันตรายขึ้นกับน.ส.สุธิดา

น.ส.บุญญาลักษณ์ กล่าวว่า น.ส.สุธิดาเดินทางเข้ามาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครได้ประมาณ 2 ปีแล้ว

ต่อมาน้องสาวได้ไปรู้จักกับนายวุฒิชัย วงษ์พานิช อายุ 45 ปี ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่วิศวกรโยธา สำนักงานเขตประเวศ ภายหลังคบหาเป็นแฟนกัน โดยฝ่ายชายเคยมีครอบครัวมาแล้วแต่ได้หย่าร้างกับภรรยา ต่อมาน้องสาวได้แต่งงานกับนายวุฒิชัยโดยจัดงานแต่งงานขึ้นที่บ้านพักในจ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2550 หลังจากแต่งงานแล้วน้องสาวไปพักอยู่กับนายวุฒิชัย นานๆครั้งจึงติดต่อกับที่บ้าน ส่วนตนไม่ได้ติดต่อกับน้องสาวมากนัก

น.ส.บุญญาลักษณ์ กล่าวต่อว่า ก่อนที่น้องสาวจะหายตัวไปจำได้ประมาณเดือนต.ค. น้องสาวได้ขับรถยนต์มาหาแล้วขอยืมโทรศัพท์มือถือไป

จากนั้นไม่ได้ติดต่อกันอีก จนเมื่อนายวุฒิชัยสามีของน้องสาวได้โทรศัพท์มาหาบอกว่าน้องสาวหายตัวไปพร้อมกับรถยนต์ หลังจากทราบข่าวจึงรีบบอกกับบิดามารดา ก่อนจะพากันออกตามหาตัวน้องสาว โดยสอบถามจากกลุ่มเพื่อนๆแต่ไม่มีใครทราบข่าว ส่วนนายวุฒิชัยได้ไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดของหอพักมาเป็นหลักฐานตรวจสอบ พบว่ามีภาพของน้องสาวกับเพื่อนสาว จึงพากันเข้าแจ้งความที่สน.บางชัน แต่เรื่องก็ยังไม่คืบหน้า

"ตามปกติแล้วน้องสาวเป็นคนนิสัยร่าเริง ก่อนหน้านี้พอจะทราบมาว่าน้องสาวมีปัญหาระหองระแหงกับนายวุฒิชัย เนื่องจากนายวุฒิชัยไม่พอใจที่น้องสาวมีผู้ชายมาติดพัน และพยายามจะหนีไป หลังจากที่น้องสาวหายตัวไปดูเหมือนนายวุฒิชัย จะกระตือรือร้นในการตามหาแค่เพียงช่วงแรกๆ เท่านั้น แถมยังบอกอีกด้วยว่า เลี้ยงดูอย่างดีแล้ว แต่กลับมาหนีไป ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ยังนำเอาเสื้อผ้าของน้องสาวมาคืนให้ที่บ้านด้วย จึงทำให้พวกเรารู้สึกเป็นห่วง เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับน้องสาวจึงมาร้องเรียนกับกองปราบฯ" พี่สาวนักศึกษากล่าว

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ เพื่อจะได้ประสานงานกับตำรวจของสน.บางชัน ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไปยังนายวุฒิชัย สามีของน.ส.สุธิดา นายวุฒิชัยเปิดเผยว่า เชื่อว่าน.ส.สุธิดาไม่ได้มีอันตรายใดๆ แต่สงสัยว่าอาจโดนกลุ่มเพื่อนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดล่อลวงไป เพราะก่อนจะเกิดเรื่อง ตนเคยเจอคลิปวิดีโอ มีภาพของภรรยากำลังเสพยาบ้ากับกลุ่มเพื่อนๆ เมื่อตนสอบถามก็เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ภายหลังภรรยาหนีไป ส่วนรถยนต์ที่หายไป โดนนำไปขายต่อแล้ว จึงเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีแล้วในข้อหาลักทรัพย์ที่สน.บางชัน เชื่อว่าเป็นเพราะเรื่องดังกล่าวจึงทำให้อดีตภรรยาไม่กล้าติดต่อกลับไปที่บ้าน เนื่องจากกลัวจะถูกจับดำเนินคดี ส่วนคดีคนหายนั้น ทางตำรวจท้องที่มีข้อยุติไปแล้วว่าน.ส.สุธิดายังมีชีวิตอยู่ เหลือเพียงคดีลักทรัพย์เท่านั้น