วันนี้ (9 มิ.ย.) นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า
ในฤดูฝนนี้เป็นช่วงที่มีฝนตกชุก สัตว์จำพวกสัตว์มีพิษ อาจหนีน้ำขึ้นมาอยู่ตามบ้านเรือนได้ ที่ต้องระวังมากที่สุดคือ งูพิษ ซึ่งแต่ละชนิดมีพิษต่ออวัยวะได้หลายระบบ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้สำรองเซรุ่มแก้พิษงูต่างๆ ไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกระจายให้โรงพยาบาลชุมชนต่างๆ สามารถแก้พิษงูได้ 7 ชนิด ได้แก่ งูเห่าไทย(Cobra) งูจงอาง (King cobra) งูสามเหลี่ยม (Banded krait) งูทับสมิงคลา (Malayan Krait) งูแมวเซา (Russell, s viper) งูกะปะ (Malayan pit viper) และงูเขียวหางไหม้ (Green pit viper)
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
ในรอบ 5 เดือนปีนี้ มีผู้ถูกงูกัดแล้ว 1,513 ราย ยังไม่มีเสียชีวิต ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย อายุ 15-54 ปี สำหรับปี 2550 มีรายงานทั้งหมด 8,273 ราย เสียชีวิต 3 ราย โดยถูกกัดมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม จำนวน 1,042 ราย พบในภาคกลางมากที่สุด 2,825 ราย รองลงมา ภาคเหนือ 2,045 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,834 ราย และภาคใต้ 1,569 ราย ผู้ถูกกัดส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 90 อยู่ในชนบท ในจำนวนนี้ 2 ใน 3 ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล