เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 พ.ค. พ.ต.ท.ชาญศิลป์ นาสูงชน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร
รับแจ้งมีคนร้ายขโมยรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เกจิดังที่เป็นที่เคารพนับถือของชาว จ.สกลนคร และจังหวัดใกล้เคียง ที่ประดิษฐานบริเวณซุ้มปราสาทประตูทางเข้าศูนย์ราชการจังหวัดสกลนคร จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภ. จ.สกลนคร พ.ต.ท.สันติสุข สิทธิกุลสมบัติ สวป. สภ.เมืองสกลนคร รุดไปตรวจสอบ
พบบริเวณซุ้มประตูถูกออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงาม สูงจากพื้นดินประมาณ 10 เมตร ด้านบนมีปราสาท 3 ยอด
บริเวณปราสาทด้านซ้ายที่เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงปู่มั่นได้หายไป และพบร่องรอยฐานที่ตั้งของรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ถูกขยับเคลื่อนออกจากที่เดิม นอกจากนี้ยังพบพระสารีบุตร ที่เดิมอยู่หลังรูปเหมือนหลวงปู่มั่นก็ถูกยกลงมาไว้ด้านล่าง โดยมีรอยกระแทกจนชำรุด ส่วนพระหลวงพ่อพระองค์แสน เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองที่ประดิษฐานอยู่ที่ปราสาทตรงกลางยังอยู่เหมือนเดิม
นายบุญส่ง วิจักษณบุญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร ที่มีบ้านพักอยู่ด้านหน้าซุ้มประตูให้การว่า
ที่ผ่านมาไม่ได้สังเกตว่าพระหายไปตั้งแต่เมื่อใด คาดว่าคงเกิดเหตุหลายเดือนแล้ว ครั้งแรกคิดว่าเจ้าหน้าที่คงจะนำไปซ่อม เนื่องจากที่ผ่านมามีการบูรณะทาสีและตกแต่งซุ้มใหม่ เมื่อประมาณ 6 เดือนก่อน นอกจากนี้ ยังมีการตกแต่งประดับไฟในงานเทศกาลต่างๆอยู่ตลอด ดังนั้น จึงไม่คาดคิดว่าพระจะหายไปได้ ขณะที่นางน้อง สวนศิริ อายุ 59 ปี ที่มีบ้านพักอยู่บริเวณหน้าซุ้มประตูเช่นกันให้การว่า เมื่อหลายเดือนก่อนเห็นเจ้าหน้าที่มาทาสีซุ้มประตูใหม่ก็ไม่ได้สังเกตว่าพระหายไปหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ก็อยากให้คนที่นำไปช่วยนำมาคืนด้วย เพราะรูปเหมือนหลวงปู่มั่นตนกราบไหว้ทุกวัน ดังนั้น จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามกลับคืนมา
ด้าน พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภ.จ.สกลนคร กล่าวว่า
จากการตรวจสอบพบว่าพระหลวงปู่มั่นหายไปจริง เหลือเฉพาะฐานตั้งองค์พระ โดยคาดว่าน่าจะหายไม่ต่ำกว่า 5-6 เดือนแล้ว แต่ไม่มีคนสังเกตเห็น เบื้องต้นได้สั่ง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานอย่างละเอียด พร้อมประสานไปยังหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบว่าได้นำไปเก็บรักษาไว้หรือไม่ แต่หากโดนขโมยไปจริง บุคคลใดที่ขโมยไปก็ขอให้นำมาส่งคืนกับตำรวจ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอคืน หากมีการตรวจสอบและจับกุมได้จะมีโทษสถานหนัก เนื่องจากเป็นทรัพย์สินทางราชการ และถือเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจพุทธศาสนิกชนชาวสกลนครเป็นอย่างมาก