จากภาวะราคาน้ำมันที่แพงลิบลิ่ว โดยดีเซลและเบนซินราคาพุ่งทะยานไปไกลถึงลิตรละกว่า 40 บาทแล้ว
ทำให้ประชาชนที่มีรถส่วนตัวหนีตาย นำรถไปติดแก๊สกันเป็นแถว ทำให้ปั๊มน้ำมันจำนวนมากเจอปัญหาลูกค้าหดหายไปและส่อเค้าเตรียมปิดกิจการไปตามๆกันเพราะเจ๊ง ปั๊มบางแห่งถือโอกาสฉกฉวยเล่นตุกติกการเติมน้ำมันของลูกค้า นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นรายวัน ได้ส่งผลกระทบต่อปัญหาปากท้องของชาวบ้านอย่างเป็นลูกโซ่
ทั้งนี้ นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นมากในปัจจุบันว่า
ทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าต่างๆปรับขึ้นตามไปด้วย โดยสินค้าวัสดุก่อสร้าง ทั้งเหล็ก ปูนซีเมนต์ ได้รับผลกระทบมากที่สุด ต้นทุนการผลิตปรับขึ้นสูงถึง 15% อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น 4% สินค้าอุปโภคบริโภค สูงขึ้น 1% ขณะเดียวกันยังมีผลกระทบทางอ้อม โดยพบว่า ค่าขนส่งรถบรรทุก เพื่อบรรทุกสินค้าได้ปรับขึ้นราคาตามไปด้วย เช่น ค่าบรรทุกจากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จากเดิม 8,400 บาท/เที่ยว ขึ้นเป็น 12,000 บาท/เที่ยว และมีแนวโน้มว่าจะขึ้นอีกในเดือน มิ.ย.นี้
นายยรรยงกล่าวยอมรับว่าทำให้การดูแลราคาสินค้าเป็นเรื่องลำบาก
เพราะกรมไม่สามารถอนุมัติให้ผู้ผลิตปรับขึ้นราคาขายได้ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริงในทุกรายการสินค้าที่ขอปรับมา เนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากขึ้น ในภาวะที่ค่าครองชีพสูงขึ้นมากเช่นนี้ สิ่งที่กรมเป็นห่วงคือ อัตราเงินเฟ้อ ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันมีสัดส่วนในเงินเฟ้อ 12% หรือคน 1 คน มีเงิน 100 บาท เป็นค่าใช้จ่ายน้ำมัน 12 บาท เทียบกับปี 47 ที่มีสัดส่วนเพียง 5% หรือ 5 บาทต่อเงิน 100 บาทเท่านั้น วิธีเดียวที่จะอยู่รอดคือ ต้องลดการใช้น้ำมันลง หากเทียบราคาน้ำมันในปี 47 กับปีนี้จะเห็นว่าเพิ่มขึ้นเยอะมาก โดยเบนซินปี 47 ลิตรละ 17 บาท ปัจจุบัน 40.04 บาท เพิ่มขึ้น 135% ส่วนดีเซล จากลิตรละ 14.59 บาท เป็น 38.34 บาท เพิ่มขึ้น 139% การดูแลผู้บริโภคกรมคงทำได้คือเพิ่มจำนวนโครงการสินค้าธงฟ้าเข้าไปช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งมีแผนจะจัดงานธงฟ้าทั่วประเทศพร้อมกัน อย่างน้อยช่วยลดภาระค่าครอง ชีพ ได้บ้าง เพราะสินค้าที่ขายในโครงการราคาถูกกว่าตลาด 20-40% ประชาชนสามารถซื้อไว้ใช้ได้ 2-3 เดือน ส่วนแนวทางในการดูแลราคาสินค้ากรมยังยึดแผนเดิมคือหากสินค้าใดที่ใช้ต้นทุนวัตถุดิบจากต่างประเทศเข้ามาผลิตเป็นหลัก แม้จะควบคุมไม่ได้แต่จะให้ปรับขึ้นราคาช้าที่สุด ส่วนสินค้า ที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก จะขอให้หาวัตถุดิบอื่นมาใช้แทน เพื่อยังไม่ให้มีการปรับขึ้นราคาขณะนี้
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวต่อว่า จากการ ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจหัวจ่ายน้ำมันของสถานีน้ำมันทั่วประเทศ
ช่วงเดือน ต.ค. 50-30 เม.ย. 51 สามารถตรวจสอบหัวจ่าย น้ำมันได้ทั้งหมด 46,852 หัวจ่าย โดยในจำนวนนี้พบว่า มีความผิดปกติหรือขายน้ำมันไม่ตรงตามปริมาตรที่กำหนด 1,893 หัวจ่าย จึงได้สั่งผูกติดบัตรห้ามใช้ 1,872 หัวจ่าย อีก 21 หัวจ่าย ได้สั่งอายัดและดำเนินคดีกับเจ้าของสถานีน้ำมันรวมทั้งหมด 4 ราย ข้อหาปรับเปลี่ยนแก้ไขหัวจ่าย โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 120,000 บาท ขณะนี้ผู้บริโภคร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 จำนวนมากเกี่ยวกับพฤติกรรมของสถานีน้ำมัน กรมจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบอย่างเข้มงวด จากเดิมที่ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้ว เพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชนมาก ซ้ำเติมประชาชนจากภาวะน้ำมันแพง ถ้าจับได้จะจัดการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด
สำหรับกรณีที่สถานีน้ำมันบางรายมีพฤติกรรมเอาเปรียบประชาชน ด้วยการปิดปั๊มในเวลาก่อนกำหนด
เพื่อรอขายน้ำมันราคาใหม่จากการประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันที่จะมีผลในวันถัดไปนั้น ถือเป็นพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภคเช่นกัน ซึ่งกรมจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบพฤติกรรมของสถานีน้ำมันดังกล่าว หากพบเป็นจริงตามการร้องเรียน จะดำเนินคดีในข้อหากักตุน ไม่จำหน่ายสินค้า มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่การตรวจสอบสถานีน้ำมัน ย่านถนนรัชดาภิเษกดินแดงและสุทธิสาร เมื่อวันที่ 28 พ.ค. หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชน 11 รายว่า ขายน้ำมันไม่ตรงตามปริมาตรที่หัวจ่ายนั้น พบว่ามีการเติมน้ำมันไม่ตรงตามปริมาตรหัวจ่ายจริง แต่กรมไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพราะน้ำมันที่ขาดไปมีปริมาณเล็กน้อย ไม่เกินเกณฑ์ที่กรมกำหนด เผื่อเหลือเผื่อขาดที่ 100 มิลลิลิตร
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว