นักท่องเที่ยวผวาหนอนทะเล หรือที่ชาวประมงเรียก"บุ้งทะเล"
ตายเกลื่อนหาดบางแสนจนไม่กล้าลงเล่นน้ำ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแสนสุขสั่งเก็บซากส่งสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพาตรวจสอบ ด้านผอ.สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลชี้อาจเกิดจากออกซิเจนในน้ำน้อย ทำให้บุ้งหรือหนอนทะเลตาย ก่อนถูกน้ำซัดลอยมาจำนวนมาก เตือนอย่าแตะตัวหนอน เพราะจะมีอาการคัน ผื่นแดง
เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่บริเวณชายหาดบางแสน ต.แสนสุข
ชาวบ้านในพื้นที่ต.แสนสุข รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าบริเวณแนวชายหาดบางแสนและนักท่องเที่ยวแห่มาดูหนอนทะเล หรือที่ชาวประมงเรียกกันว่าร่านทะเล ขึ้นมานอนตายเกลื่อนชายหาดบางแสน ทำให้นักท่องเที่ยวต่างหวาดผวาไม่กล้าลงเล่นน้ำ เกรงว่าจะเกิดอันตราย นายประสงค์ กลิ่นมณี อายุ 45 ปี ชาวประมง และมีบ้านพักอยู่ที่แถวหาดวอนนภา กล่าวว่า ปกติร่านทะเล หรือ บุ้ง หรือหนอนทะเลจะอาศัยอยู่บริเวณน้ำลึก ที่อยู่อาศัยนั้นจะเป็นพวกสาหร่ายหน้าดิน จะมีชุกชุมมากแถวหน้าเกาะสีชัง สาเหตุที่ทำให้สัตว์ชนิดนี้ขึ้นมาตายอาจมาจากการที่มีน้ำจืดปนอยู่กับน้ำทะเลจำนวนมาก ทำให้สัตว์ทะเลบางชนิดปรับตัวไม่ทัน และขาดอากาศหายใจตายในที่สุด
"ตัวร่านทะเลนั้นไม่เป็นอันตรายมากนัก ถ้าจะเปรียบกับแมงกะพรุนซึ่งเป็นอันตรายมากกว่า แต่ควรจะหลีกเลี่ยงการจับต้องตัวมัน เพราะตัวล่านทะเลมีหนามหรือขนที่มีพิษพอสมควร เวลาไปจับต้องจะเกิดอาการคันและเป็นผื่น จะต้องรีบไปทำความสะอาด โดยการล้างน้ำให้สะอาด แล้วทายาแก้คัน พิษก็จะหายไปเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ คาดว่าจะมีประมาณ 2-3 วันก็จะหมดไป เพราะฉะนั้นขอให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องตกใจกับการลงเล่นน้ำทะเลในระยะนี้ และอย่าหวาดวิตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นเรื่องธรรมชาติ" นายประสงค์ กล่าว
นายสวัสดิ์ หอมปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข ซึ่งรับผิดชอบดูแลชายหาดบางแสน กล่าวว่า
ร่านทะเล บุ้ง หรือหนอนทะเลไม่เคยปรากฏที่บริเวณชายหาดมาก่อน แต่ในปีนี้รู้สึกแปลกมากที่ขึ้นมานอนตายเกลื่อน ปกติจะมีแต่เพียงแมงกะพรุนหรือเม่นทะเล แต่เพื่อความปลอดภัย ทางเทศบาลเมืองแสนสุขจะประสานงานกับทางสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหา วิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี โดยจะเก็บซากไปให้ตรวจพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้งหนึ่ง ส่วนการดูแลบริเวณชายหาดบางแสนนั้นจะมีการกำจัดขยะตลอดเวลา เพื่อให้เกิดความสะอาดและสวยงาม อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จึงสั่งให้พนักงานทำความสะอาดจัดเก็บซากของล่านทะเลแล้ว
วันเดียวกัน นายวรเทพ มุธุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า
ปกติร่านทะเลจะมีขนแข็งๆ รอบตัว หากใครโดนเข้า จะเกิดอาการคันแต่ไม่มาก ซึ่งในสถานที่เพาะเลี้ยงของสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล พนักงานทำความสะอาดอะควอเรียมจะโดนกันบ่อย ในช่วงที่ทำความสะอาดจะเกิดผื่นแดงตามมือ เมื่อล้างด้วยน้ำสะอาดและทายาแก้คันก็จะหาย ทางที่ดีถ้านักท่องเที่ยวเห็น อย่าหยิบจับหรืออย่าไปโดนตัวร่านทะเลจะดีที่สุด สำหรับล่านทะเลส่วนใหญ่จะหากินอยู่กับสาหร่ายทะเล คาดว่าปริมาณออกซิเจนอาจจะมีน้อย จึงทำให้ขาดอากาศหายใจและตาย น้ำทะเลจึงพัดเข้าหาชายฝั่ง ซึ่งทางสถาบันจะเก็บซากร่านทะเลไปตรวจพิสูจน์อีกครั้งหนึ่งว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ จึงทำให้ล่านทะเลขึ้นมาตายเกลื่อนบริเวณชาย หาดบางแสนในช่วงนี้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
