ฆ่าหนุ่มบ.ขายตรง แขวนเผาใต้สะพาน

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 17 พ.ค. ร.ต.ท.อดุลย์ สวยสม พนักงานสอบสวน (สบ 1) สภ.เมืองน่าน

รับแจ้งมีคนถูกฆ่าแล้วเผาที่ใต้สะพานพัฒนาภาคเหนือ ข้ามแม่น้ำน่าน ถนนมหาวงศ์ ต.ในเวียง ไปสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.อรรถกิจ กรณ์ทอง ผบก.ภ.จ.น่าน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ รอง ผบก.ภ.จ.น่าน พ.ต.อ.วีระชัย บั้งเงิน ผกก.สภ.สองแคว จ.น่าน ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนปราบปรามผู้มีอิทธิพล  มือปืนรับจ้างและงานสืบสวนปราบปรามอาชญากรรม บก.ภ.จ.น่าน พ.ต.อ.วิโรจน์ วัชรัคกุล ผกก. สภ.เมืองน่าน พ.ต.ท.เสถียร สมฤทธิ์ รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ท. ชุมพล วัฒวัณณ รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท.สมศักดิ์ ผิวสลิด สว.สส.ชุดสืบสวน  แพทย์เวร  รพ.น่าน และหน่วยกู้ภัย อบจ.น่าน 

พบไฟกำลังลุกไหม้ศพเหยื่อฆาตกรรมที่นอนคว่ำหน้า

ทราบชื่อนายจรูญศักดิ์ มะลิดง อายุ 39 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 654/8 หมู่บ้านสินธานี 5 หมู่ที่ 5 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย ระดมฉีดน้ำจนไฟมอด ตรวจสอบพบที่ ลำคอมีเชือกไนลอนสีเขียวมัดไว้และมีลวดพันรอบใบหน้าอย่างแน่นหนา ใกล้กันพบถุงพลาสติกสีดำถูกไฟไหม้บางส่วน บนราวสะพานมีเชือกและลวดผูกติดไว้แต่ด้านปลายขาด ค้นในตัวผู้ตายพบกระเป๋าสตางค์มีเงิน 120 บาท นามบัตรของผู้บริหารบริษัทขายตรงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

ต่อมา พ.ต.อ.วีระชัย บั้งเงิน ได้ประสานไปยังที่ บก.ภ.จ.เชียงราย ให้ติดต่อกับญาติผู้ตาย
 
และได้สอบถามนางจิตรา มะลิดง อายุ 39 ปี ภรรยาของผู้ตายทางโทรศัพท์ ทราบว่า นายจรูญศักดิ์เคยทำงานอยู่ที่บริษัท ขายตรงแห่งหนึ่ง และเป็นเซลส์ขายยาสระผมยี่ห้อหนึ่ง ปัจจุบันไม่ได้ทำงานอะไร และหายออกจากบ้านตั้งแต่เช้าวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา มีเงินติดตัวเพียง 200 กว่าบาท ส่วนสาเหตุการถูกฆ่าโหดไม่ทราบว่าเกิดมาจากสาเหตุใด  ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนได้ออกหาข่าวเกี่ยวกับผู้ตาย ทราบว่าก่อนถูกฆาตกรรมนายจรูญศักดิ์ได้เปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองน่าน โดยใช้ชื่อว่านายเกียงศักดิ์ มะลิดง อาชีพขายน้ำยาสระผมยี่ห้อหนึ่ง และจากการสอบถามพนักงานโรงแรมระบุว่า ผู้ตายพัก อยู่คนเดียว และออกจากโรงแรมไปเมื่อเวลา 10.00 น. เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายถูกลวง ไปฆ่าที่อื่นแล้วนำศพนำมาแขวนคอที่ราวสะพาน

จากนั้นจุดไฟเผาเพื่ออำพรางคดี โดยสภาพศพคาดว่าเหยื่อเสียชีวิตมาแล้วหลายชั่วโมง เพราะเริ่มขึ้นอืดแล้ว ส่วนปม สังหารอาจจะขัดแย้งในเรื่องส่วนตัวหรือเกี่ยวพันกับธุรกิจไม่เปิดเผยบางอย่าง และกลุ่มฆาตกรต้องการประจานผู้ตายด้วย เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นย่านชุมชน อยู่ห่างจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดน่านเพียง 500 เมตร เท่านั้น