โวยเมียโดนงูกัด ส่งรพ.กลับตาย!

เที่ยงวันที่ 12 พ.ค. นายสมพิศ ม่อมทรัพย์ อายุ 69 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 750/36 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางนา เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกรณีนางถนอม ม่อมทรัพย์ อายุ 67 ปี ภรรยา ถูกงูกัดเสียชีวิตหลังจากส่งไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิครินทร์ โดยมี พ.ต.อ.สาโรจน์ ซุ่นทรัพย์ ผกก. และ พ.ต.ท.ก่อเกียรติ พรหมบุตร รอง ผกก.สส. เข้าร่วมรับฟังข้อมูลด้วย 

นายสมพิศให้การว่า เมื่อเย็นวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ภรรยาอยู่บ้านเพียงลำพัง ถูกงูไม่ทราบชนิดกัดบริเวณสันมือด้านขวาขณะกำลังเก็บของอยู่ที่รั้วประตูหน้าบ้าน

มีเพื่อนบ้านมาช่วยเอาผ้ารัดขันชะเนาะที่แขนเพื่อไม่ให้ พิษเข้าสู่ร่างกายแล้วรีบส่งโรงพยาบาลศิครินทร์ เมื่อไปถึงแพทย์นำเข้าห้องฉุกเฉิน ภรรยายังมีอาการดี พูดคุยปกติ ต่อมาพยาบาลฉีดยาแก้ปวดแล้วให้น้ำเกลือทางแขนซ้าย พร้อมทั้งคลายผ้าที่ขันชะเนาะออก ปรากฏว่าเวลาผ่านไปแค่ 10 นาที อาการของภรรยากลับทรุดลง ร่างกายเริ่มชักกระตุก หายใจไม่ออก กระทั่งช็อกหัวใจหยุดเต้น แพทย์ต้องปั๊มหัวใจถึง 2 ครั้ง อาการไม่ดีขึ้นจนเสียชีวิต โดยแพทย์ ลงบันทึกสาเหตุการตายเมื่อเวลา 17.50 น. ระบุคนไข้ถูกสัตว์มีพิษลักษณะคล้ายงูกัด
 

สามีผู้สูญเสียให้การอีกว่า หลังจากภรรยาเสียชีวิตได้นำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดราษฎร์รังสรรค์ ต.คอกกระบือ อ.เมืองสมุทรสาคร แต่ติดใจการทำงานของแพทย์

ทำไมถึงต้องคลายเชือกที่รัดขันชะเนาะออก รวมทั้งไม่มีการฉีดเซรุ่มแก้พิษ ปล่อยภรรยาตายไปต่อหน้าต่อตา แม้ผู้บริหารโรงพยาบาลพยายามชี้แจง และเสนอค่าทำขวัญยินดีจะชดใช้เงิน 1.5 แสนบาท ตนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ภรรยาตนเสียชีวิต เงินแค่ 1.5 แสนบาท ซื้อชีวิตไม่ได้ จึงมาแจ้งความขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อน เพราะโรงพยาบาลจะนัดคุยอีกครั้งวันที่ 13 พ.ค.นี้ หากไม่ชี้แจงให้กระจ่างคงต้องร้องแพทยสภาต่อไป
 

ด้าน พ.ต.อ.สาโรจน์ ซุ่นทรัพย์ ผกก.สน.บางนา กล่าวว่า

เบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อหาใคร เพราะผู้เสียหายประสงค์ ขอลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานไว้ก่อน แต่ได้แนะนำให้ญาตินำศพนางถนอมส่งผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อยืนยันการเสียชีวิตว่ามาจากอะไรกันแน่ เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหลักฐานที่พบ และจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
 

ต่อมา นพ.ธงชัย ฉัตรยิ่งมงคล ผอ.โรงพยาบาลศิครินทร์ พญ.สาวิตรี จันทนาราช ทีมผู้บริหารโรงพยาบาล และ นพ.มนัสวี สมิตรสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายประกันสังคม ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า

เมื่อคนไข้เข้ามาถึงโรงพยาบาล แพทย์ได้พาเข้าห้องฉุกเฉินทันที ทำตามขั้นตอนและมาตรฐานของแพทย์ทุกอย่าง ให้ยาแก้ปวดและน้ำเกลือ ที่ญาติคนไข้ติดใจเรื่องเอาผ้าขันชะเนาะรัดกันไม่ให้พิษเข้าร่างกายออกนั้น ตามปกติแพทย์ต้องนำเอาออกอยู่แล้ว เพราะหากรัดอยู่นานเกินไปเลือดอาจไม่ หล่อเลี้ยงจนต้องตัดแขนทิ้ง อีกทั้งยังเคยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านพิษงูของแพทยสภายืนยันผลการวิจัยว่า ได้วัดเลือดของผู้ถูกพิษงูแล้วมีการขันชะเนาะกับวัดเลือดหลังปลดชะเนาะ ปรากฏว่ามีความเข้มข้นของพิษงูเท่ากัน จึงไม่มีผลว่าจะรัดขันชะเนาะหรือไม่รัด

ผอ.โรงพยาบาลศิครินทร์กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่แพทย์ไม่ฉีดเซรุ่มนั้น เรื่องนี้จะฉีดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้

บางคนแพ้ หรือไม่ตรงพิษชนิดงูอาจเสียชีวิตได้ ประกอบกับญาติและคนไข้ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นงูชนิดใดกัด งูพิษมี 2 กลุ่ม คือ พิษออกผลโดยตรงกับกระแสเลือด กับผลโดยตรงทางระบบประสาท ทำให้ระบบการหายใจล้มเหลว กรณีของคนไข้รายนี้มีความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายรวดเร็วมาก บางคนโดนต่อต่อย หรือมดกัดเพียงตัวเดียวก็เสียชีวิตได้เหมือนกันเพราะภูมิต้านทานต่ำ หรือแพ้สารพิษของสัตว์เหล่านี้ แต่ปกติแพทย์จะดำเนินการตามขั้นตอนที่มีมาตรฐานอยู่แล้ว รายของนางถนอม คณะกรรมการของโรงพยาบาลหารือกันแล้ว ยินดีให้เงินค่าทำขวัญ 1.5 แสนบาท ให้เพราะเป็นหลักมนุษยธรรม แต่ญาติผู้เสียชีวิต เรียกร้องถึง 8 แสนบาท มากเกินกว่าที่คณะกรรมการโรงพยาบาลจะอนุมัติได้ ซึ่งบ่ายวันที่ 13 พ.ค.นี้จะนัดญาติผู้ตายมาเจรจาตกลงกันอีกครั้ง