พ่อโหดออสเตรียขู่ใช้แก๊สพิษฆ่าลูก

จากคดีช็อกโลก นายโจเซฟ ฟริตเซิล วิศวกรไฟฟ้า วัย 73 ปี ชาวเมืองอัมสเต็ตเทน ประเทศออสเตรีย

ขังน.ส.เอลิซาเบธ ลูกสาวไว้ในห้องใต้ดินและข่มขืนต่อเนื่องนาน 24 ปี จนมีลูกด้วยกัน 7 คน และตายไป 1 คนหลังคลอด ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เฮลมุต เกรเนอร์ โฆษกตำรวจออสเตรีย แถลงว่า นายฟริตเซิลเคยขู่เอลิซาเบธกับลูกๆ ว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองจะปล่อยแก๊สพิษรมควันฆ่าทุกคนที่อยู่ในห้องใต้ดินให้ตายตกตามกัน

เกรเนอร์ กล่าวว่า ฟริตเซิลให้ข้อมูลดังกล่าวกับตำรวจหลังถูกจับไม่นาน

ขณะนี้ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญไปยังบ้านพักของฟริตเซิลในเมืองอัมสเต็ตเทนเพื่อตรวจสอบดูว่ามีกลไกปล่อยแก๊สพิษจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่การพูดขู่เพื่อให้เหยื่อหวาดกลัว ไม่กล้าคิดหลบหนีและต่อสู้ขัดขืน นอกจากนั้น ฟริตเซอร์ยังอ้างว่าประตูอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำจากคอนกรีตหนัก 300 กิโลกรัม ซึ่งใช้เป็นช่องทางเข้าออกห้องใต้ดินนั้นได้รับการตั้งเวลาไว้ให้เปิดโดยอัตโนมัติถ้าในกรณีที่ตัวเขาไม่อยู่บ้าน หรือไม่มีคนมาเปิดประตูนี้เป็นเวลานานๆ ซึ่งต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน

รายงานแจ้งว่า เอลิซาเบธเคยหนีออกจากบ้านหลังถูกฟริตเซิลข่มขืนขณะมีอายุเพียง 11 ปี

แต่ฟริตเซิลไปแจ้งความ ทำให้ตำรวจไปตามตัวกลับมาได้โดยไม่รู้เลยว่าเด็กตกเป็นเหยื่อละเมิดทางเพศไปแล้ว เมื่ออายุ 18 ปี พ่อโหดรายนี้จึงมอมยาและนำตัวไปขังไว้ในห้องใต้ดิน ซึ่งทางการอนุญาตให้ก่อสร้างได้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อใช้เป็นที่หลบภัยระเบิดนิวเคลียร์ พร้อมกับไปแจ้งความกับตำรวจสร้างเรื่องโกหกว่าเอลิซาเบธหนีออกจากบ้านไปเข้ารีตกับลัทธิๆ หนึ่ง

ต่อมาเมื่อเอลิซาเบธถูกข่มขืนจนตั้งครรภ์ ฟริตเซิลจึงค่อยๆ ขยายห้องใต้ดินให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยจากเดิม 1 ห้อง เป็น 3 ห้อง กินเนื้อที่รวม 60 ตารางเมตร
 
ประกอบด้วยทางเดินแคบๆ และเพดานที่เตี้ยมาก ส่งผลให้นายเฟลิกซ์ ลูกชายคนโตของเอลิซาเบธที่โดนขังอยู่ด้วยกันกลายเป็นคนเดินหลังค่อม ส่วนเด็กชายเฟลิกซ์ วัย 5 ขวบลูกอีกคนชอบคลานกับพื้นมากกว่าเดินสองขาแม้ในวันนี้จะได้รับอิสรภาพแล้วก็ตาม ส่วนอาการน.ส.เคิร์สเทน ลูกสาวคนโตวัย 19 ปียังไม่รู้สึกตัวต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู สภาพร่างกายอ่อนแอมาก ต้องใช้เครื่องฟอกไต ที่น่าประหลาดคือฟันร่วงหมดปาก ซึ่งต้องสอบสวนต่อไปว่าเกิดจากอะไร

เอลิซาเบธให้การกับตำรวจถึงชีวิตในห้องใต้ดินว่า ตลอดเวลานับสิบปีที่ถูกกักขัง ไม่เคยบอกความจริงกับลูกว่าฟริตเซิลเป็นใคร

และทำไมจึงต้องมาอาศัยอยู่ในห้องใต้ดิน ชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ จะอ่านหนังสือ เล่าเทพนิยาย รวมทั้งร้องเพลงกล่อมเด็กให้ลูกฟัง และเปิดภาพยนตร์ให้ลูกดู ส่วนนายฟริตเซิลมักลงไป ขลุกอยู่ในห้องใต้ดินแทบทั้งวัน เพื่อนั่งดูทีวี เล่นกับเด็กๆ และทานอาหารค่ำ ถ้าวันไหนเด็กๆ ไม่ยอมทำตามคำสั่ง ฟริตเซิลจะทุบตีทำร้ายร่างกายลูกโดยที่ตนช่วยเหลืออะไรไม่ได้

วันเดียวกัน สื่อออสเตรียเผยภาพใหม่สมัยฟริตเซิลเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย

พร้อมกับนายพอล เอช. เพื่อนชาวเยอรมัน นาน 3 สัปดาห์เมื่อปี 2541 เป็นภาพขณะฟริตเซิลนั่งบนหลังช้างในพัทยาแสดงสีหน้าท่าทางยิ้มแย้ม ขณะที่ขังลูกตัวเองไว้ใต้ดินในอีกซีกโลกหนึ่ง ด้านทนายความฟริตเซิล กล่าวว่า ลูกความไม่ขอให้การใดๆ ต่อไปกับตำรวจ และกำลังหวาดกลัวอย่างหนักว่าจะโดนนักโทษในคุกทำร้าย