นอกจากนี้ยังมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน
หน่วยกู้ภัยฯนำส่ง รพ.แหลมฉบังอินเตอร์เนชั่นแนล ทราบชื่อ นายพินิจ คารัมย์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 10 ต.พระครู อ.เมืองบุรีรัมย์ ทำงานเป็นช่างทาสี ถูกยิงเข้าศีรษะด้านขวา 2 นัด กระสุนฝังใน อีกรายทราบชื่อ นายสมจิตร์ ถนอมรอด อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 1 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ถูกยิงเข้าแก้มขวาและศีรษะด้านขวา 2 นัด กระสุนฝังใน แพทย์พยายามช่วยยื้อชีวิต แต่ทั้ง 2 คนอาการสาหัสมาก และเสียชีวิตในเวลาต่อมาทั้งคู่
นายศักดิ์ชัย ด้ายรินรัมย์ อายุ 22 ปี
ผู้อยู่ในเหตุการณ์ และรอดชีวิตเพียงคนเดียว เล่าให้ตำรวจฟังด้วยอาการตื่นตระหนกว่า เมื่อช่วงหัวค่ำพวกตนตั้งวงนั่งดื่มเหล้ากันที่บ้านนายสมจิตร์ ซึ่งเป็นลูกพี่ใหญ่ ก่อนจะชวนนายจรงค์ ญาติสนิทของนายสมจิตร์ที่เพิ่งเลิกจากทำงานในนิคมอีสเทิร์นซีบอร์ดระยอง ไปเที่ยวกันต่อที่ร้านสตางค์เฮ้าส์ เพลงเพื่อชีวิต หน้าการเคหะแหลมฉบัง ไปด้วยกันทั้งหมด 6 คน พอร้านเลิกเวลาตี 1 ได้เช็กบิลออกมาจากร้าน เพื่อนร่วมวง 2 คนขี่รถ จยย.แยกกันไปอีกทาง ส่วนตนและผู้ตายทั้ง 3 นั่งรถเก๋งมาคันเดียวกัน มีนายจรงค์เจ้าของรถเป็นคนขับ นายพินิจนั่งคู่กันมาที่เบาะหน้า นายสมจิตร์ นั่งเบาะหลังฝั่งคนขับ ส่วนตนนั่งเบาะหลังฝั่งซ้าย โดยเปิดกระจกรถทั้ง 4 ด้าน
ขณะรถวิ่งมาชะลอที่สามแยกการเคหะแหลมฉบัง
เพื่อจะเลี้ยวซ้ายออกถนนสุขุมวิท มุ่งหน้ากลับบ้านที่บางละมุง ปรากฏว่ามีชายฉกรรจ์ 2 คนขี่รถ จยย.เข้าประกบด้านข้างช่วงประตูหลังฝั่งขวา คนซ้อนท้ายชักปืนออกมาจ่อยิงนายสมจิตร์ 2 นัด นายจรงค์คนขับเห็นนายสมจิตร์ ถูกยิงจึงรีบเร่งเครื่องรถหนี คนร้ายกลัวเป้าหมายไม่ตายจึงสาดกระสุนเข้าใส่อีกหลายนัด กระสุนพลาดไปถูกนายพินิจ และนายจรงค์ทำให้รถเสียหลักพุ่งตกคลองก่อนจะข้ามสะพาน ตนกลัวคนร้ายจะตามมายิงซ้ำอีก จึงเปิดประตูรถออกวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต แล้วโทรศัพท์เรียกเพื่อน 2 คน ที่ขี่รถ จยย.แยกทางไปก่อนหน้านั้นให้ย้อนกลับมารับ พร้อมแจ้งตำรวจทราบ
พ.ต.อ.สีห์ศักดิ์ สร้อยศรี ผกก.สภ.แหลมฉบัง เปิดเผยว่า
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุคาดว่าคนร้ายมีความแค้นกับนายสมจิตร์โดยตรง เพราะมือปืนจ่อยิงที่ศีรษะเหยื่อ 2 นัด และยังมีรอยกระสุนปืนอีก 3 นัดฝังขอบประตูรถฝั่งที่นายสมจิตร์นั่งอยู่ คล้ายกับว่ามือปืนกลัวนายสมจิตร์ไม่ตาย จึงสาดกระสุนไล่หลังตามไปอีกชุดใหญ่ ทำให้กระสุนพลาดไปถูกนายพินิจและนายจรงค์ จนเสียชีวิตไปด้วย ส่วนนายศักดิ์ชัยที่รอดตาย เพราะนั่งอยู่เบาะหลังฝั่งซ้ายมือ และก้มลงหลบกับพื้นรถพ้นจากวิถีกระสุนพอดี
สำหรับสาเหตุการสังหาร สอบถามจากพนักงานในร้านสตางค์เฮ้าส์
ไม่พบว่ากลุ่มนายสมจิตร์มีเรื่องกับใครในคืนที่มาเที่ยว จึงตั้งประเด็นสังหารไว้ 2 เรื่องคือ ขัดแย้งเรื่องธุรกิจ เพราะนายสมจิตร์มีอาชีพเป็นผู้รับเหมาทาสีทั่วไป น่าจะไปประมูลตัดราคา หรือหักหลังกับคู่แข่งในการประมูลงานทาสี อีกสาเหตุหนึ่งอาจมาจากการโกรธแค้นของแก๊งยาบ้าหรือแก๊งรถซิ่งในพื้นที่ เพราะนายสมจิตร์ นอกจากจะเป็นผู้รับเหมาทาสีแล้ว ยังช่วยเหลือสังคมโดยเป็นอาสาสมัครมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ นามเรียกขาน “กู้ภัย 236” ผู้ช่วยกรรมการฝ่ายป้องกันชุมชนกระทิงลาย และเป็นตำรวจอาสาชุมชนกระทิงลาย ของ สภ.บางละมุง ซึ่งการทำงานในหน้าที่ตำรวจอาสาที่ผ่านมา ผู้ตายอาจจะไปชี้เบาะแสให้ตำรวจจับแก๊งยาบ้า หรือจับแก๊งรถซิ่งในพื้นที่ เมื่อคนร้ายพ้นคดี หรืออาจมีญาติของผู้ต้องหาที่ถูกจับเกิดความโกรธแค้น จึงตามมาดักยิงทิ้งดังกล่าว