รวบตัวคาสนามบินพ่อฟลุคพระเอกดัง

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2541 นายมานิต กับพวกที่ยังหลบหนี ร่วมกันลงทุนทำธุรกิจ ส่งออกกุ้งกุลาดำแช่แข็ง ในนามบริษัท ประมงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทประมงไทย (สงขลา) จำกัด

โดยส่งไปจำหน่ายที่ประเทศสหรัฐอเมริกา น้ำหนัก 1 แสนกิโลกรัม ซึ่ง จะต้องเสียภาษีจำนวนหนึ่ง แต่กลับแจ้งเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรว่าส่งกุ้งกุลาดำแช่แข็งไปประเทศดังกล่าวน้ำหนักถึง 4 ล้านกิโลกรัม เพื่อขอคืนเงินภาษีตามกฎหมาย กระทั่งกรมศุลกากรตรวจพบว่าเป็นการแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ บก.ปศท. ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบสวนสอบสวนอยู่นานหลายปี จนสามารถขออนุมัติหมายจับ และจับกุมได้ดังกล่าว

ต่อมาช่วงเช้าวันเดียวกัน พ.ต.ท.ธัญญะ ระย้า พนักงานสอบสวน (สบ3) ฝป.2 บก. ปศท.พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี

ได้ควบคุมตัว นายมานิต ผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขัง ยังศาลจังหวัดพระโขนง เป็นผัดแรก โดยยื่นคำร้องคัดค้านการให้ประกันตัว ให้เหตุผลว่ายังสอบปากคำผู้ต้องหาไม่เสร็จสิ้น และต้องรอตรวจสอบพยานหลักฐานบางอย่าง อย่างไรก็ตามได้มีญาติของนายมานิตมายื่นคำร้องต่อศาลขอประกันตัวในวงเงิน 1.5 แสนบาท ศาลพิเคราะห์ถึงคำให้การ และพยานหลักฐานแล้วจึงอนุญาตให้ปล่อยตัวนายมานิตชั่วคราว ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าหลังนายมานิตได้รับการประกันตัว แล้วเดินออกจากห้องควบคุม นายมานิตพยายามปิดบังใบหน้าตัวเองตลอดเวลา ก่อนจะเดินไปขึ้นรถยนต์ ที่จอดรออยู่อย่างรวดเร็ว โดยไม่พูดจากับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

ด้านนายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ทางกรมสรรพากรยังไม่ทราบเรื่องนี้

แต่เคยมีกรณีในอดีตที่เป็นลักษณะนี้เหมือนกัน คือแจ้งส่งออกน้อย แต่ทำหลักฐานส่งออกมากเพื่อขอคืนภาษี จึงอยากให้กรมศุลกากร พิสูจน์หลักฐานของตัวเลขส่งออกให้ชัดเจนก่อน แล้วจึงจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ ซึ่งหากตรวจพบว่าแจ้งตัวเลขที่เป็นเท็จต่อกรมสรรพากร ก็จะดำเนินการขอคืนภาษีกลับ พร้อมทั้งดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับ พ.ร.บ.ชดเชยค่าภาษีอากรฯ นั้น มีสาระสำคัญที่จะช่วยเหลือนักธุรกิจส่งออก เพื่อจะได้ไปแข่งขันกับต่างชาติในเวทีตลาดโลกได้ในลักษณะยิ่งส่งออกสินค้ามากก็จะได้รับภาษี คืนมาก จึงอาจเป็นช่องโหว่ให้เกิดการทุจริต ดังกล่าวได้.