วธ.ขู่-ลุยมือบอน ขจัดไฮไฟว์ลามก

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว. วัฒนธรรมกล่าวถึงกรณีการนำภาพสวิงกิ้ง ภาพการร่วม เพศมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ไฮไฟว์ว่า

ได้ประสานไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าของเว็บไฮไฟว์ในต่างประเทศ  ร่วมกันตรวจสอบกลุ่มคนที่ได้กระทำอนาจารแล้ว เนื่องจากกระทรวงวัฒนธรรมไม่มีกฎหมายที่จะบังคับใช้ดำเนิน คดีกับผู้กระทำความผิด แต่สามารถรับเป็นเจ้าภาพใน การประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ขณะเดียวกัน มี แนวคิดที่จะทำระบบการตั้งค่าคอมพิวเตอร์ เพื่อคัดกรองการนำเสนอสิ่งที่ไม่เหมาะสมในอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับเรื่อง เพศ ภาษา และความรุนแรง รวมทั้งจะขอความร่วมมือจากเจ้าของไฮไฟว์ให้ช่วยเปิดหมายเลขทะเบียนของผู้ใช้ไฮไฟว์ หรือไอพีแอดเดรส เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจสอบผู้กระทำความผิดได้ด้วย 


รมว.วัฒนธรรมกล่าวต่อไปว่า ขอเตือนผู้ที่เข้าไปแสดงภาพที่ไม่เหมาะสม

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีมาตร-การที่ตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 แล้ว และขอฝากไปยังผู้ปกครองให้ดูแลแนะนำบุตรหลานในการเข้าใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันเด็กเข้าไปดูภาพลามกอนาจาร ต้องยอมรับว่าในยุคโลกาภิวัตน์ เด็กและเยาวชนมีความอยากรู้อยากเห็น จึงไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด สิ่งที่กระทรวงจะสามารถทำได้คือการปลูกฝังและส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม แก่เด็กและเยาวชน ตลอดจนเฝ้าระวังสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่เข้ามาในสังคมไทยด้วย 


ด้านนายสุธา ชันแสง รมว.การพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า

เรื่องนี้คงต้องประสานความร่วมมือกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการตรวจสอบและหามาตรการดำเนินการกับเว็บไซต์ดังกล่าว รวมทั้งประสานไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ปดส.) ในการดูแล ควบคุมร้านอินเตอร์เน็ต ไม่ให้เปิดบริการแก่เยาวชนเกิน 22.00 น. ตามระเบียบ ส่วนกรณีที่เด็กเล่นในบ้าน ต้อง เป็นเรื่องที่พ่อแม่คงต้องดูแลเอาใจใส่ การแก้ปัญหาสังคมจะอาศัยกระทรวง ภาครัฐดำเนินการอย่างเดียวไม่ได้ แต่ ต้องเป็นความร่วมมือกันจากทุกฝ่ายทั้งฝ่ายของเอกชน และครอบครัวด้วย


สำหรับความคืบหน้าในการหามาตรการควบคุมการเล่นไฮไฟว์ของพระสงฆ์นั้น นายอำนาจ บัวศิริ ผอ. สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า
 
หลังจากที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาเรื่องดังกล่าว โดยมอบให้กรรมการมหาเถรฯ 3 รูป คือพระพรหมสุธี พระ ธรรมวรเมธี และพระธรรมกิตติเมธี หาแนวทางในการควบคุมนั้น จากการหารือกับพระพรหมสุธีเห็นว่าจะต้องมีการทำหนังสือไปยังผู้ดูแลเว็บไซต์ไฮไฟว์ โดยจะเป็นการทำหนังสือในนามของมหาเถรสมาคม เพื่อขอความร่วมมือในการระมัดระวังและตรวจสอบผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกเว็บไฮไฟว์ว่าเป็นพระหรือไม่ และให้แจ้งมาที่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ มาตรการต่อมาคือให้แจ้งไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้อินเตอร์เน็ตของพระสงฆ์ในพื้นที่มากขึ้น รวมทั้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ หารือกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อหาแนวทางในการให้มีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะในแต่ละจังหวัด สำหรับให้ พระใช้อินเตอร์เน็ตโดยเฉพาะ จะทำให้ง่ายต่อการควบคุม


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์