ศึกสายเลือดเต็นท์รถมือสอง ช่างองค์การโทรศัพท์สาขาโคราช ลาออกจากงานนำเงินมาลงขันกับน้องชายทำเต็นท์รถมือสองขาย
พิษยุคปฏิวัติเศรษฐกิจเศรษฐกิจซบเซา จึงขาดทุนเรื่อยมา พี่ชายเจรจาขอถอนหุ้นได้เงินคืนไม่ครบ จึงเป็นปัญหา ล่าสุดพี่ชายบุกไปเคลียร์เรื่องเงินๆ ทองๆ กับน้องที่เต็นท์รถ แต่กลับตกลงกันไม่ได้ จึงเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรง สุดท้ายชักปืนออกมายิงน้องชาย แล้วยิงตัวตายตาม
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 30 มี.ค. พ.ต.ท.ชมภู สมสุไทย พนักงานสอบสวน สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา
รับแจ้งเหตุมีคนยิงกันที่บ้านหนองพิมาน หมู่ 13 ต.จอหอ จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมกำลังจำนวนหนึ่ง ที่เกิดเหตุอยู่ภายในสำนักงานขาย หจก.จอหอกลการ 2006 ตั้งอยู่ริม ถ.สุรนารายณ์ หน้าทางแยกเข้าชุมชนพิมานธานี โดยด้านหน้ามีรถยนต์สภาพมือสองจอดอยู่ 6 คัน พบศพนายสุนทร จันทร์หมื่นไวย อายุ 56 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 10 ต.หมื่นไวย อ.เมือง นครราชสีมา นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ใกล้โต๊ะทำงาน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะเหนือกกหูซ้าย วิถีกระสุนทะลุออกมาด้านขวา ห่างออกไปเล็กน้อยมีอาวุธปืนขนาด .38 และหัวกระสุนจำนวน 1 หัวตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ยังรับแจ้งเพิ่มเติมว่ามีคนถูกยิงนอนหายใจรวยริน
มีพลเมืองดีช่วยกันหามส่งร.พ.มหา ราช จ.นครราชสีมา จึงเดินทางไปตรวจสอบทราบชื่อภายหลังว่านายอำนาจ จันหมื่นไวย อายุ 43 ปี ที่อยู่เดียวกันกับนายสุนทร แพทย์และพยาบาลพยายามยื้อชีวิตสุดความสามารถ แต่นายอำนาจทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา เพราะถูกยิงบริเวณหน้าท้อง ลำคอ และปาก
โดนพิษศก.-ธุรกิจเจ๊ง พี่ฆ่าน้อง แล้วยิงตัวตายตาม
จากการสอบถามนางจำปี หวลโคกสูง อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านเช่าหลังเกิดเหตุ ให้การว่าไม่ทราบสาเหตุความขัดแย้ง
รู้แต่เพียงว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกัน มาติดต่อขอเช่าบ้านผ่านลูกเขย โดยตกแต่งเป็นสำนักงานขายรถยนต์มือสองและรับจัดไฟแนนซ์ ขณะเกิดเหตุตนกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่อีกบ้านอีกหลัง ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังสำนักงานขาย เห็นทั้งสองพูดคุยกันอยู่ภายในห้องเพียงสองคน จึงไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ครั้งแรกคิดว่าเป็นเสียงเคาะโลหะ เนื่องจากด้านข้างก็เป็นอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ จะได้ยินเสียงดังเป็นประจำ จากนั้นมีเสียงเพื่อนบ้านร้องตะโกนมีเหตุร้าย จึงรู้ว่าสองพี่น้องที่พูดคุยกันเกิดทะเลาะวิวาทถึงขั้นยิงกันตาย
พ.ต.ท.ชมภู พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีระบุว่ายังไม่ทราบว่าหจก.จอหอกลการ 2006 ที่เปิดบริการมาหลายปี
มีใครเป็นหุ้นส่วนในกิจการรับจัดไฟแนนซ์บ้าง สาเหตุการยิงกันน่าจะเกิดจากการพูดคุยตกลงในปัญหาความขัดแย้งทางธุรกิจไม่ได้ เนื่องจากที่ผ่านมา มีลูกค้าเบี้ยวการชำระหนี้สินเพิ่มขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจไม่ดี และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงก็เพิ่มสูงขึ้น จึงต้องติดตามทวงหนี้ ไล่ยึดรถยนต์กันเป็นประจำ ประกอบกับนายทุนผู้ปล่อยเงินกู้ เริ่มมีปัญหาในการสำรองเงินทุน โดยนายสุนทรพี่ชาย เจรจาขอถอนหุ้นแต่ตกลงกันไม่ได้ นายสุนทร จึงใช้อาวุธปืนขนาด .38 ที่เตรียมมาจ่อยิงน้องชาย 3 นัด จนล้มฟุบ ก่อนจะใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงตัวเองเพื่อหนีความผิดที่ก่อขึ้น อย่างไรก็ตามตนจะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
นายน้อม จันหมื่นไวย อายุ 61 ปี พี่ชายผู้ตายทั้งสองคนให้การกับตำรวจว่า
เดิมนายสุนทร คนก่อเหตุทำงานเป็นนายช่างโทรศัพท์ 5 อยู่ที่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) สาขานครราชสีมา แต่เมื่อปลายปี 2548 ลาออกจากทีโอที โดยได้เงินมาจำนวน 4 ล้านกว่าบาท จากนั้นน้องชายอีกคนหนึ่งคือนายอำนาจ ชักชวนมาลงทุนทำธุรกิจเต็นท์รถมือสอง รับซื้อขายและแลกเปลี่ยนรถยนต์และจักรยานยนต์ทุกชนิด โดยทั้งสองคนลงทุนคนละประมาณ 1.1 ล้านบาท แต่ภายหลังธุรกิจเต็นท์รถมือสองซบเซาอย่างหนัก ช่วงเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติ รถยนต์ที่ซื้อมาก็ขายไม่ได้ ไม่มีเงินทุนหมุนเวียน ต่อมานายสุนทร จึงขอถอนหุ้นคืน นายอำนาจซึ่งขณะนั้นก็กำลังประสบปัญหาไม่มีเงินทุนหมุนเวียน จึงขอผัดผ่อน จนทั้งสองคนถึงขั้นขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดีกัน ซึ่งญาติพี่น้องรวมถึงตนเองก็พยายามช่วยกันไกล่เกลี่ยจนทุกอย่างดีขึ้น
แต่นายสุนทรเคยกล่าวไว้ว่า "ถ้าไม่ให้เงินลงทุนคืนกูจะไปซื้อปืนมายิงพวกมึงตายให้หมดแล้วกูจะยิงตัวตายตาม"
ต่อมาเมื่อปลายปี 2550 นายอำนาจ หาเงินมาจ่ายให้พี่ชายก่อน 7 แสนบาท ส่วนที่เหลืออีก 4 แสน นายอำนาจจะผ่อนให้เดือนละ 5 พันบาท ซึ่งทุกอย่างก็น่าจะรับกันได้ แต่ตนไม่นึกว่าจะเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดเช่นนี้กับน้องทั้งสองคน ซึ่งเป็นสายเลือดเดียวกันแท้ๆ