ประหารชีวิต! กำนันดัง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 มี.ค. ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช

ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมพงษ์ สุวรรณมณี อายุ 36 ปี จำเลยที่ 1 นายพอพันธ์ รัตนคช หรือกำนันพอพันธ์ อายุ 55 ปี จำเลยที่ 2 นายสุทัศน์ กฤษกรี อายุ 35 ปี จำเลยที่ 3 นายสมชาย คงชนะ อายุ 45 ปี จำเลยที่ 4 นอกจากนี้ มีนายวุฒิชัย จินวรรณ อายุ 31 ปี จำเลยที่ 5 นายโอชา รัตนสุภา อายุ 40 ปี จำเลยที่ 6 นายพิงค์พันธ์ รัตนคช อายุ 29 ปี ลูกชายนายพอพันธ์ จำเลยที่ 7 และนางนภัสกร กฤษกรี อายุ 34 ปี จำเลยที่ 8 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน
 

ศาลได้อ่านคำบรรยายฟ้องของโจทก์ว่า

เมื่อคืนวันที่ 13 ต.ค. 2548 มีคนร้ายใช้ปืนลูกซองและปืน .38 ยิงนายไพรัช จินดาฤกษ์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิตขณะร่วมงานศพของชาวบ้านที่หมู่ 1 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับนายสมพงษ์ สุวรรณมณี ได้ในคืนเดียวกันพร้อมปืนลูกซอง
 

สอบสวนนายสมพงษ์สารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายพอพันธ์ รัตนคช ให้ยิงนายไพรัช จินดาฤกษ์ ด้วยค่าจ้าง 3 แสนบาท

จึงร่วมกับพรรคพวกที่ถูกจับกุมได้ในคดีนี้วางแผนแบ่งหน้าที่กันทำงาน เริ่มจากจัดหาอาวุธปืนลูกซองยาวและอาวุธปืนสั้นขนาด .38 หาคนชี้เป้า จัดหารถยนต์และทะเบียนปลอม เมื่อทุกอย่างพร้อม นายสมชาย คงชนะ ขับรถยนต์พานายสมพงษ์จำเลยที่ 1 ไปยิงนายไพรัช ส่วนสาเหตุที่นายพอพันธ์จ้างวานฆ่านายไพรัช เนื่องจากมีความขัดแย้งในพื้นที่มานานแล้ว เมื่อพิเคราะห์ พยานหลักฐานแล้ว เชื่อว่าจำเลยที่ 1-7 กระทำผิดตามฟ้อง จึงพิพากษาให้ประหารชีวิตนายพอพันธ์ จำเลยที่ 2 ส่วนจำเลยที่ 8 ฟังไม่ได้ว่าร่วมกระทำผิดจึงยกฟ้อง ส่วนจำเลยคนอื่นอีก 6 คน ให้จำคุกคนละ 30 ปี
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลอ่านคำพิพากษาจบ นายพอพันธ์ถึงกับเข่าอ่อนหน้าซีด
 
เจ้าหน้าที่ต้องประคองออกจากห้องพิจารณาคดีไปขังไว้ห้องขังใต้ถุนศาลพร้อมกับจำเลยคนอื่นๆ เพื่อรอส่งตัวเข้าเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยนายพอพันธ์กล่าวสั้นๆว่า น้อมรับคำพิพากษาของศาล และได้ให้ญาติยื่นหลักทรัพย์และเงินสดและกรมธรรม์มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เพื่อขอยื่นประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ต่อไป และยังมั่นใจว่าบริสุทธิ์ ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว
 

สำหรับนายพอพันธ์ รัตนคช เคยเป็นกำนันตำบลท่าศาลาและอดีตสมาชิก อบจ.นครศรีธรรมราชเขต อ.ท่าศาลา เป็นที่รู้จักกันดีใน จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างประกันตัวสู้คดีเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2550 ลงสมัคร ส.ส. นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 4 สังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา แต่สอบตก