ดวดเหล้าคลุ้มคลั่งฆ่าเชือดคอภรรยาดับ

ช่างก่อสร้างดวดเหล้ากับเพื่อนร่วมงานจนเมา อาการประสาทกำเริบ คลุ้มคลั่งฆ่าเชือดคอภรรยา ก่อนยิงกรอกปากตัวเองดับ

คดีสามีฆ่าเชือดคอภรรยาแล้วฆ่าตัวตายตามครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.ปยังกูล ลุนหล้า พนักงานสอบสวน สภ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 4 ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบศพ นายบุญเส็ง ทานนะเวช อายุ 46 ปี นอนกอดศพ นางเครือวัลย์ ทานนะเวช อายุ 41 ปี ภรรยา โดยศพนายบุญเส็งมีรอยถูกยิงกรอกปาก ขณะที่ศพนางเครือวัลย์ถูกเชือดคอหวิดขาด แขนขวาขาด และศีรษะถูกฟันเป็นแผลเหวอะหวะ ใกล้กันพบปืนแก๊ป 1 กระบอก มีดอีโต้ 1 เล่ม และโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง

จากการสอบสวนทราบว่า นายบุญเส็งมีอาชีพช่างก่อสร้าง

เมื่อเย็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังเลิกงานได้ชวนเพื่อนร่วมงานมาดื่มสุราที่บ้านพัก กระทั่งดึกเพื่อนร่วมงานต่างทยอยกันกลับ เหลือนายบุญเส็งกับนางเครือวัลย์อยู่ภายในบ้านพักหลังเกิดเหตุตามลำพัง แต่นายบุญเส็งซึ่งมีอาการทางประสาทเกิดคลุ้มคลั่งใช้มีอีโต้ไล่ฟันนางเครือวัลย์จนแขนขวาขาด ที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ก่อนเชือดคอจนเสียชีวิต หลังสังหารภรรยา นายบุญเส็งก็โทรศัพท์ไปบอก นายสงวน ทานนะเวช อายุ 37 ปี น้องชาย พร้อมกับเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้น้องชายฟัง และสั่งเสียให้น้องชายช่วยดูแลลูกให้ด้วย หลังจากนั้นก็นอนกอดศพภรรยาแล้วใช้ปืนแก๊ปยิงกรอกปากตัวเองตายตาม 

นายสงวน ให้การว่า พี่ชายมีอาการป่วยทางประสาท เคยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี จนอาการดีขึ้นจึงกลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน

โดยแพทย์ได้ให้ยามารับประทาน ระยะหลังอาการเกือบหายเป็นปกติ นายบุญเส็งจึงเลิกกินยา ซึ่งคาดว่าหลังนายบุญเส็งดื่มสุราเข้าไปแล้ว อาการทางประสาทเกิดกำเริบคลุ้มคลั่งฆ่าภรรยาตัวเองแล้วฆ่าตัวตายตาม "พี่โทรศัพท์มาหาผม บอกว่าฆ่าพี่สะใภ้ตายแล้ว และฝากให้ผมดูแลหลานด้วย ผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องจริงจึงไม่ได้สนใจ กระทั่งเช้าจึงเดินทางมาที่บ้านของพี่ชาย พบว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว" นายสงวน กล่าว