รมว.มหาดไทย ลั่น ต้องจับกลุ่มชายฉกรรจ์รุมชกต่อยนักข่าวหนุ่มเมืองสมุทรปราการให้ได้ ถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ล่าสุด 5 คนที่ร่วมรุมสกรัมย่องเข้ามอบตัวแล้วกลางดึก ผู้ว่าฯ สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงด่วน ผิดจริงไม่เว้นแม้แต่ผู้บังคับบัญชา ขณะที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงผู้บังคับการภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา
ความคืบหน้าจากเหตุการณ์ นายเดี่ยว คงสินธ์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ประจำ จ.สมุทรปราการ
ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 10 คน สวมชุดดับเพลิงเทศบาลตำบลบางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ รุมชกต่อยทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลฟกช้ำตามใบหน้าและลำตัว ขณะไปทำข่าวรถเฉี่ยวชนกันในซอยหลังร้านอาหารดีดี คาเฟ่ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยรถคู่กรณีเป็นรถยนต์โตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน ทช 1226 กรุงเทพมหานคร ส่วนอีกคันเป็นรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบางเมือง ซึ่งคู่กรณีตกลงกันไม่ได้
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว ภรรยาของนายเดี่ยวซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก" และเนชั่นทีวี บันทึกภาพวิดีโอเอาไว้ได้
ขณะมีกลุ่มชายฉกรรจ์สวมเสื้อยืดสีดำ ด้านหลังสกรีนคำว่า "ดับเพลิง เทศบาลตำบลบางเมือง" จำนวนหลายคนกรูกันเข้ามารุมชกต่อยทำร้ายตน ทำให้กล้องถ่ายภาพตกกระแทกพื้น และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่อยู่ในเหตุการณ์รีบเข้าห้ามปราม ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุพากันแยกย้ายหลบหนีไป นายเดี่ยวจึงเข้าแจ้งความ (ดูคลิปวิดีโอได้ที่ www.komchadluek.net)
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์
ด.ต.วิชาญ ตรีทัศน์ อายุ 50 ปี ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไประงับเหตุการณ์ ได้เข้าพบ ร.ต.ท.พิชญา พิพัฒน์บรรณกิจ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ เจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ในฐานะพยานที่เกิดเหตุ
โดย ด.ต.วิชาญ ให้การว่า
ก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า มีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันแต่ตกลงกันไม่ได้ จึงได้เข้าตรวจสอบ พบรถคู่กรณีทั้งสองคันเฉี่ยวชนกันอยู่กลางถนนจึงได้เข้าทำการฉีดพ่นสีเอาไว้พร้อมทั้งให้ย้ายรถทั้งสองคันเข้าด้านข้างถนนระบายการจราจร แต่รถดับเพลิงคู่กรณีกลับขับหายไป จนกระทั่ง นายเดี่ยว คงสินธ์ ได้มาทำข่าวและถ่ายภาพในที่เกิดเหตุ ทำให้เกิดมีปากเสียงและมีการชกต่อยจนเป็นเหตุชุลมุนกันขึ้น ซึ่งตนสามารถจดจำใบหน้าของผู้ก่อเหตุที่เข้ารุมชกต่อยทำร้ายนายเดี่ยวได้เพียงสองคน คือ นายวัชระ บัวทอง อายุ 24 ปี และ นายปวิช ส้มโอชา อายุ 25 ปี ส่วนคนอื่นๆ จำไม่ได้เพราะเหตุการณ์รวดเร็วมากและในขณะเกิดเหตุนั้นมีคนอยู่จำนวนมาก
ร.ต.ท.พิชญา กล่าวว่า
ได้มีการเชิญตัวพยานบุคคลในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำเพิ่มเติมรวมแล้วจำนวน 4 ปาก ซึ่งส่วนใหญ่จำหน้าผู้ก่อเหตุที่เข้าไปชกต่อยทำร้ายนายเดี่ยวได้ โดยเฉพาะภาพจากกล้องวิดีโอที่จับภาพเหตุการณ์ได้สามารถนำมายืนยันและเป็นหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้มีผู้ก่อเหตุเดินทางเข้ามอบตัวแล้วรวม 5 คน
ได้ทำการบันทึกรอยนิ้วมือและทำประวัติไว้เบื้องต้น ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายแก่กายผู้อื่น ได้แก่ นายวัชระ บัวทอง อายุ 24 ปี นายปวิช ส้มโอชา อายุ 25 ปี นายนพดล พูนสวัสดิ์ อายุ 23 ปี ทั้งสามเป็นพนักงานดับเพลิงของเทศบาลตำบลบางเมือง พ.จ.อ.ฉลาด พุกปรางค์ อายุ 40 ปี และนายชาตรี เจษฎาไพโรจน์ อายุ 36 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุอีกรายเป็นชายสวมเครื่องแบบเทศกิจนั้น อยู่ในระหว่างติดตามตัว ขณะนี้ได้มีการเร่งสรุปสำนวนเพื่อส่งฟ้องต่ออัยการตามขั้นตอนต่อไป
ต่อมาเวลา 11.15 น. วันเดียวกัน
นายคำนึง นันทศีลวัฒน์ อายุ 49 ปี พร้อมชาวบ้านหมู่บ้านอุบลศรี หมู่ 6 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เดินทางรวมตัวกันกว่า 10 คน และได้มอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจนายเดี่ยว ขณะเดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ
โดยนายคำนึง กล่าวว่า
รู้สึกตกใจที่มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับนายเดี่ยวนั้นเป็นผู้สื่อข่าวที่มีจรรยาบรรณ เคยทำข่าวช่วยเหลือชาวบ้านและประชาชนหลายครั้ง เมื่อทราบเรื่องจึงโทรศัพท์ติดต่อก่อนเดินทางเข้าให้กำลังใจ และขออวยพรให้นายเดี่ยวปลอดภัยและผ่านพ้นเรื่องร้ายแรงที่เกิดขึ้น
ด้านนายเดี่ยว กล่าวว่า
หลังเกิดเรื่องขึ้น และได้มีการนำเสนอข่าวออกไปทั่วประเทศ ตีแผ่พฤติกรรมและการกระทำที่ไม่เหมาะสม ก็มีประชาชน ชาวบ้าน และเพื่อนที่รู้จักคุ้นเคยร่วมทั้งผู้สื่อข่าวหลายสถาบันได้โทรศัพท์มาให้กำลังใจกันอย่างไม่ขาดสาย เพื่อให้ต่อสู้จนถึงที่สุด
นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลย์วุฒิ ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ กล่าวว่า
ได้สั่งการให้สำนักงานจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงของคดีดังกล่าว หากเจ้าหน้าที่หรือพนักงานของรัฐมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว หรือใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น ก็เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว ไม่ว่าผู้เสียหายคนนั้นจะเป็นประชาชนหรือผู้สื่อข่าว อย่างไรก็ดี คงจะต้องมีการรอให้ในส่วนของคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และหากมีการชี้ชัดว่าเป็นผู้กระทำความผิดก็สามารถดำเนินการทางวินัยได้โดยทันที ส่วนผู้บังคับบัญชา จะต้องมีการถูกตรวจสอบด้วยเช่นกันว่ารู้เห็นเป็นใจหรือสมรู้ร่วมคิดให้ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำความผิดหรือไม่
ขณะที่ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 1 พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า
ในฐานะที่ตนดูแลพื้นที่เขต 1 หรือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ รู้สึกตกใจว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงการคุกคามสื่อมวลชน โดยการรุมทำร้ายจากเจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ทั้งๆ ที่สื่อมวลชนคือกลุ่มคนที่ทำงานเพื่อประชาชน มีหน้าที่ถ่ายทอดข่าวสาร เป็นยามเฝ้าแผ่นดิน อยากร้องเรียนไปยังผู้ว่าฯ สมุทรปราการ หรือผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ให้มีการดูแลคุ้มครองนายเดี่ยว ผู้เสียหาย เนื่องจากการกระทำของคู่กรณีมีลักษณะความรุนแรงคล้ายกลุ่มผู้มีอิทธิพล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ นายวิสูตร พิริยะวณิชย์ หัวหน้าศูนย์ข่าวเดลินิวส์ภาคตะวันออก พร้อมคณะได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดเหตุขึ้นและขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 จ.สมุทรปราการ ถูกทำร้าย ว่า
ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ จะเข้าไปเยี่ยม พร้อมกับหารือกับทางผู้ว่าฯ สมุทรปราการ และจะกำชับให้จับคนร้ายให้ได้ ซึ่งคดีดังกล่าวจะต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพราะถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ “ผมเห็นในข่าวตำรวจห้ามแล้วยังไม่เกรงอกเกรงใจ ถือว่าใช้ไม่ได้ ผมอยากจะฝากสื่อว่าอย่าเพิ่งวิพากษ์วิจารณ์ผม ขอให้ช่วยผม ผมจะจัดระเบียบดูแลความเรียบร้อยและคุกคามพวกก่ออาชญากรรม จะปล่อยให้มีอภิสิทธิ์เหนือบ้านเมืองไม่ได้” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงผู้บังคับการภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีใจความว่า
จากกรณีที่นายเดี่ยว คงสินธ์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ประจำ จ.สมุทรปราการ ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์สวมชุดดับเพลิงของเทศบาลตำบลบางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากไม่พอใจที่เข้าไปทำข่าวและถ่ายภาพอุบัติเหตุรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลบางเมืองเฉี่ยวชนกับรถเก๋งภายในซอยหลังร้านอาหารดีดี คาเฟ่ ต.บางเมือง เมื่อบ่ายวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ต่อหน้าตำรวจจราจร และภายหลังได้หลบหนีไป ซึ่งมีภาพวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ โดยในเบื้องต้น นายเดี่ยวได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการไว้แล้วนั้น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการทำร้ายร่างกายผู้สื่อข่าวที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดความกระจ่างและความเป็นธรรมโดยเร็ว