เริ่มฆ่าตัดตอน ประกบยิงคารถ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 ก.พ. ร.ต.ท.ปรัญช์ เพชรพันธ์ ร้อยเวร สภ.เมืองกระบี่

รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บ เหตุเกิดหน้าเรือนจำชั่วคราวจังหวัดกระบี่ ถนนเพชรเกษม ฝั่งขาออก หมู่ 11 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สติ มาลกานนท์ รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.ท.ทักษิณ โภชากรณ์ รอง ผกก.ป. แพทย์เวร รพ.กระบี่ เจ้าหน้าที่วิทยาการ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ไปตรวจสอบ 

จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากประตูเรือนจำประมาณ 10 เมตร

พบรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บต 7083 กระบี่ ตกอยู่ในคูระบายน้ำริมถนน กระจกประตูฝั่งคนขับมีรูกระสุน 6 รู ที่ขอบประตูอีก 2 รู ด้านหน้ารถชนกับต้นไม้ได้รับความเสียหาย ภายในเบาะนั่งคนขับพบศพนายปรีชา เครือจันทร์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126/1 หมู่ 6 ต.สินปุน อ.เขาพนม จ.กระบี่ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว-น้ำเงิน กางเกงยีนขายาวสีน้ำเงิน ถูกยิงด้วยปืน .357 เข้าที่หน้าอก 5 นัด กระสุนทะลุหลัง ในรถยังพบหัวกระสุนปืนขนาดดังกล่าวตกอยู่ 3 หัว ส่วนคนเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้า ทราบชื่อนางผกาจันทร์ บุญทก อายุ 33 ปี ภรรยาของผู้ตาย อยู่บ้านเลขที่ 43/2 หมู่ 7 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงเข้าที่แขนขวา 1 นัด อาการไม่สาหัส
 

สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้ตายได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมุ่งหน้ามาจากตัวเมืองกระบี่

เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รถของผู้ตายขับอยู่ในเลนซ้ายสุด ระหว่างนั้นมีรถกระบะ 3 คัน ซึ่งขับตามมาห่างๆ 2 คันแรกขับเข้าประกบด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนคันที่ 3 เป็นรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อ สีน้ำเงิน ขับขึ้นมาประกบตีคู่ จากนั้นมือปืนที่นั่งอยู่ข้างคนขับได้ลดกระจกลงมา แล้วรัวยิงใส่ผู้ตายไม่ยั้งจนรถผู้ตายเสียหลักพุ่งลงคูน้ำข้างถนนและชนกับต้นไม้หน้าเรือนจำ คนร้ายมั่นใจว่าเหยื่อเสียชีวิตแน่จึงรีบหลบหนีไป 

จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายปรีชา เครือจันทร์ ผู้ตาย ก่อนจะถูกยิงเพิ่งกลับจากไปรายงานตัวที่ศาลจังหวัดกระบี่

ในคดียาเสพติดที่ผู้ตายถูกจับกุมเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหาจำหน่ายยาบ้ารวม 20 เม็ด จากพื้นที่ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ซึ่งประเด็นการสังหารในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นการฆ่าตัดตอนในขบวนการค้ายาบ้าด้วยกัน เพราะจากการตรวจสอบประวัติของผู้ตายยังพบว่ามีรายชื่อพัวพันกับแก๊งค้ายาเสพติด โดยเป็น 1 ในเอเย่นต์ จำหน่ายยาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่ และยังมีคดีปล้นทรัพย์ในท้องที่ อ.เขาพนม อีกด้วย