"ผมเป็นคนฆ่าทั้ง 3 คนเอง ยิงนายสุจิตเพราะไม่พอใจเรื่องงบฯอบต. ที่แบ่งให้ไม่เพียงพอ แถมยังโดนดุด่าและท้าให้ยิงเลยเหนี่ยวไกยิงใส่ไปหลายนัด หลังจากนั้นจึงขับรถไปยิงนางกิ่งแก้วซึ่งเป็นอดีตน้องสะใภ้กับนายณรงค์แฟนใหม่ของนางกิ่งแก้ว เพราะไม่พอใจที่นางกิ่งแก้วยืมเงินไปไม่คืน แถมยังตีตัวออกห่างน้องชาย หันไปคบกับนายณรงค์ จึงถือโอกาสนี้ฆ่าให้ตายทั้งหมด"
คือ คำให้การของนายวรวุฒิ ปาลี อายุ 46 ปี
รอง นายกอบต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ในฐานะมือปืนผู้ลั่นไกสังหารนายสุจิต ปาลี อายุ 48 ปี นายกอบต.ห้วยยาบ ซึ่งเป็นญาติกัน ก่อนที่จะขับรถไปยิงนางกิ่งแก้ว ปาลี 39 ปี อดีตน้องสะใภ้และนายณรงค์ ฟองคำ อายุ 33 ปี สามีนางกิ่งแก้วซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากัน
ลงมือครั้งเดียวฆ่าศัตรูถึง 3 ศพ!!
งานนี้ยังดีที่ตำรวจสามารถตามจับกุมมือปืนเอาไว้ได้ สารภาพทำไปเพราะไม่พอใจนายสุจิตในเรื่องงาน ส่วนที่ตามไปยิงนางกิ่งแก้วกับนายณรงค์ ก็เพราะต้องการสะสางเรื่องคาใจเก่าๆ ไปพร้อมกัน
ฆ่าคนตายโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก!??
ย้อนกลับไปดูเหตุร้ายครั้งนี้ เกิดขึ้นตอน 4 ทุ่ม ของวันที่ 12 ก.พ.
พ.ต.ต.มนตรี ไกลถิ่น พนักงานสอบสวนสภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตที่ร้านคาราโอเกะ ชื่อ "ระเบียงคาราโอเกะ" เลขที่ 196 หมู่ที่ 7 ต.แช่ช้าง อ.สันกำแพง จึงรายงานพ.ต.อ.จักร อ่อนนิ่ม ผกก.สภ.สันกำแพง รุดไปตรวจสอบ
คำสารภาพมือฆ่าทมิฬ วันเดียวไล่ยิง3ศพ!?! เช็กบิลนายกอบต.-อริเก่า
โดยที่ร้านระเบียงคาราโอเกะกลายเป็นสถานที่เด็ดวิญญาณนายสุจิต ซึ่งถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.
เข้ากกหูซ้ายทะลุขวา และที่แก้มซ้ายทะลุขวา ล้มฟุบอยู่คาโต๊ะหมายเลข 8 เลือดไหลนองเต็มพื้น ในที่เกิดเหตุมีเศษแก้วแตกกระจายเกลื่อน และพบปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกัน 4 ปลอกตกอยู่จึงเก็บเป็นหลักฐาน
พยานเล่าว่า
ก่อนเกิดเหตุผู้ตายซึ่งเป็นนายกอบต.ห้วยยาบ มานั่งกินอาหารอยู่ที่ร้านพร้อมเพื่อนอีก 4 คน ระหว่างนั้นนายวรวุฒิซึ่งเป็นรองนายกอบต.อยู่ด้วยกัน ได้มาสมทบและเกิดมีปากเสียงกัน โดยนายวรวุฒิได้ใช้ปืนยิงใส่ขวดเบียร์ 1 นัด จนแขกในร้านแตกตื่นวิ่งหนีอลหม่าน หลังจากนั้นนายวรวุฒิจึงหันปากกระบอกปืนไปยิงใส่นายสุจิต จนเสียชีวิตคาที่ ก่อนที่จะเดินอย่างใจเย็นไปขึ้นรถกระบะมิตซูบิชิ รุ่นไซโคลน ขับหลบหนีไป
ตำรวจเชียงใหม่วิทยุสกัดจับทันที
เจ้าหน้าที่ระดมกำลังไปตามจุดต่างๆ ที่คาดว่านายวรวุฒิจะขับรถผ่าน ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานตำรวจก็ต้องหัวปั่นอีกครั้ง เมื่อมีคนโทร.แจ้งว่านายวรวุฒิที่ตำรวจกำลังตามล่าตัวอยู่นั้น ได้ไปก่อเหตุบุกยิงนางกิ่งแก้วซึ่งเป็นอดีตน้องสะใภ้กับนายณรงค์ที่ร้านคาราโอเกะ "ตีนดอยคาราโอเกะ" ตั้งอยู่เลขที่ 125/1 หมู่ 4 บ้านห้วยไทร ต.ห้วยยาบ ท้องที่ สภ.บ้านธิ จ.ลำพูน จนถึงแก่ความตายเช่นกัน
ในคืนนั้นตายพร้อมกันถึง 3 ศพ!!
ในห้วงนั้นตำรวจสันกำแพงจึงรีบผนึกกำลังกับตำรวจบ้านธิเข้าเฝ้าจุดปิดล้อมบ้านพักนายวรวุฒิที่บ้านห้วยยาบในทันที เพราะมั่นใจว่าถึงอย่างไรคนร้ายก็ต้องกลับมาตั้งหลักที่บ้านหลังนี้
หลังจากนั้นไม่นานข้อสันนิษฐานของตำรวจก็เป็นจริง
เมื่อจู่ๆ นายวรวุฒิขับรถเลี้ยวปราดเข้ามาบ้านพัก เท่านั้นเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม นำตัวมาสอบสวนที่สภ.สันกำแพง
โดยนายวรวุฒิให้การรับสารภาพ
ว่าในช่วงเช้าก่อนวันเกิดเหตุมีการประชุมสภาที่อบต.ห้วยยาบ แล้วมีการประชุมเรื่องงบประมาณการดำเนินงานในอบต. ซึ่งพี่ชายคือนายสุจิตให้ตนดำเนินการในงบประมาณ 80,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอ หลังการประชุมนายสุจิตออกจากห้องประชุมและมานั่งกินเหล้ากับเพื่อนที่ร้านบ้านระเบียงซึ่งเป็นร้านประจำ ตนยังคาใจจึงตามมาและนั่งดื่มเบียร์จำนวน 2 ขวด จากนั้นก็เริ่มพูดคุยเรื่องงบประมาณการดำเนินการและเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง
นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า
ระหว่างนั้นตนถูกนายสุจิตต่อว่าต่างๆ นานาจึงโกรธ ประกอบกับความเมาจึงชักปืนออกมาข่มขู่นายสุจิต แต่ก็ถูกด่าอีก จึงยิงปืนใส่ขวดโซดาแตกกระจายคาโต๊ะอาหาร 1 นัด จากนั้นก็เดินกลับแต่นายสุจิตยังกลับด่าทอตนอย่างหนักและท้าให้ตนยิงอีก จึงชักปืน 9 ม.ม.ออกมากระหน่ำยิงเข้าที่หน้านายสุจิต 3 นัดซ้อน กระสุนเข้าที่กกหูซ้าย 2 นัด แก้มซ้าย 1 นัด จากนั้นขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางกังวลใจว่าจะถูกจับกุมตัวเพราะหนีไปรอดแน่ ประกอบกับยังมีเรื่องคาใจอีกเรื่องคือเรืองที่นางกิ่งแก้ว ภรรยาน้องชายยืมเงินไป 700,000 บาทแล้วมีท่าทีจะไม่คืน ประกอบกับนางกิ่งแก้ว เริ่มตีตัวออกห่างจากน้องชาย จึงอยากไปพูดคุยปัญหาก่อนถูกจับ แต่เมื่อไปถึงร้านคาราโอเกะที่ลำพูน ใกล้บ้าน พบนางกิ่งแก้วกับนายชัยณรงค์ซึ่งเป็นแฟนใหม่นางกิ่งแก้วอยู่ด้วยกันในร้าน ตนจึงเข้าไปทวงเงิน แต่นางกิ่งแก้วบอกไม่มี ด้วยความโกรธแค้นจึงชักอาวุธปืนออกมายิงทั้งนางกิ่งแก้วและนายชัยณรงค์พร้อมกัน
สายวันรุ่งขึ้นตำรวจนำตัวนายวรวุฒิ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ
ที่ร้านระเบียงคาราโอเกะในท้องที่โรงพักสันกำแพง จ.เชียงใหม่ ก่อนจะย้ายมาทำแผนต่อกันที่ร้านตีนดอยคาราโอเกะท้องที่โรงพักบ้านธิ จ.ลำพูน ซึ่งระหว่างการทำแผนที่จ.ลำพูน กลุ่มญาติพี่น้องผู้ตายเกิดความไม่พอใจนายวรวุฒิพยายามกรูเข้าทำร้ายจนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าระงับเหตุเป็นพัลวัน หลังจากนั้นจึงนำนายวรวุฒิไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ก้มหน้ารับกรรมที่ทำไว้!!