ฆ่าโหดบ่าว-สาว ทุบหัวเละ ชิงเงินช่วยงาน

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 18 ก.พ.

ร.ต.ท.ชำนาญ ก่อเกิด ร้อยเวร สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนถูกฆ่าตาย 2 ศพ ริมชายหาดโครงการฟื้นฟูสวนหย่อมเฉลิมพระเกียรติ เทศบาลตำบลแหลมฉบัง หมู่บ้านแหลมฉบัง หมู่ 3 ต.ทุ่งศุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพรัช สุภาสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.ท.รัฎฐ ประทุมแก้ว รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ประณต เพียรบุปผา สว.สส. นพ.ภัสธร นรานันทน์ แพทย์เวร รพ.อ่าวอุดม และหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ไปตรวจสอบ
 

จุดเกิดเหตุเป็นชายหาดด้านหน้าโรงเรียนวัดแหลมฉบังเก่า

ซึ่งทางเทศบาลตำบลแหลมฉบัง นำป้ายมาปักประกาศเตรียมปรับปรุงเป็นสวนหย่อมเฉลิมพระเกียรติ โดยในบริเวณดังกล่าวมีร้านอาหารทะเลปลูกสร้างเรียงรายอยู่กว่า 10 ร้าน และอยู่ใกล้อู่ต่อเรือของบริษัทยูนิไทย ประมาณ 200 เมตร มีชาวบ้านนับร้อยคนยืมมุงดูที่เกิดเหตุ วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหี้ยมโหดของคนร้าย ผู้เสียชีวิตเป็นชาย-หญิง 2 ศพไม่ทราบชื่อ นอนตายเคียงคู่กันอย่างน่าเวทนาอยู่บนเสื่อพลาสติกสีเหลืองสลับสีแดง ศพถูกน้ำทะเลซัดขึ้นมาท่วมแล้วครึ่งตัว ฝ่ายชายสวมเสื้อยืดสีขาวนุ่งกางเกงยีนสีน้ำเงิน นอนหงายเลือดท่วม หน้าผากเหนือคิ้วซ้ายมีบาดแผลถูกทุบผิวหนังฉีกขาดเห็นกะโหลกขาวโพลน โหนกแก้มซ้ายและคิ้วขวาถูกทุบเป็นแผลฉกรรจ์ข้างศพผู้ชายด้านซ้ายมือ พบศพผู้หญิงนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดสีชมพู นุ่งกางเกงยีนสีดำ ที่คอสวมสร้อยทองหนัก 2 สลึง ข้อมือซ้ายสวมเลสทองหนัก 1 บาท และนิ้วนางข้างซ้ายสวมแหวนทอง 1 วง สภาพศพถูกทุบกลางศีรษะ คิ้วซ้ายและเหนือคิ้วขวามีแผลถูกตี ใต้ขอบตาขวาทะลุเป็นรูโบ๋ แพทย์ระบุทั้งคู่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อ 2-3 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในที่เกิดเหตุพบท่อนไม้เปื้อนเลือด ขนาดกว้าง 3 นิ้ว ยาว 1 เมตร ปลายไม้มีตะปูพับติดอยู่ คาดว่าเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ข้างศพพบหมวกกันน็อกสีแดง และรองเท้าชาย-หญิง 2 คู่ บริเวณรอบศพพบรอยเท้าคล้ายรองเท้าบูทเหยียบย่ำไปมาบนทราย และยังพบรอยล้อรถ จยย.ตีวงโค้ง 1 รอย ลักษณะคล้ายเร่งรีบหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ ส่วนริมถนนมีรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 125 สีบรอนซ์-ดำ ทะเบียน คตพ ชลบุรี 973 จอดอยู่ ใกล้รถพบก้อนหินขนาดเหมาะมือเปื้อนเลือด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
 

ต่อมามีนางเลียบ คำวันดี อายุ 57 ปี เดินมาที่เกิดเหตุ พอเห็นศพผู้ชายก็ตกใจร้องไห้โฮบอกว่าผู้เสียชีวิตเป็นหลานชายชื่อนายเสกสรร ทองเพชร อายุ 35 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 52/1 บ้านน้ำสวย ต.น้ำสวย อ.เมืองเลย ทำงานเป็นช่างประกอบติดตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมัน ของบริษัทซียูอีแอล ที่ตั้งอยู่ภายในอู่ต่อเรือบริษัทยูนิไทย ปัจจุบันพักอยู่กับตนที่บ้านเลขที่ 114/56 หมู่ 2 ต.ทุ่งศุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ห่างจุดเกิดเหตุ 500 เมตร ขณะเดียวกันมีนางบุญทัน บัวไข อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 1 ต.ปราสาท อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ เดินทางมาดูศพ และบอกว่าเป็นเพื่อนกับผู้ตายฝ่ายหญิง ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นางบุญช่วย แจ้งไธสงค์ หรือชื่อใหม่ นางธันยมัย ดนัยศักดิ์ ชื่อเล่น ปู อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่บ้านเดียวกัน มีอาชีพเป็นไกด์บริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
 

นางบุญทันให้การกับตำรวจว่า

นางธันยมัยเป็นเพื่อนเรียนหนังสือมาด้วยกัน เคยแต่งงานแล้ว แต่ไม่มีลูก เลิกกับสามีเก่าได้ 5-6 ปี ต่อมาเมื่อ 4 เดือนก่อน ตนชักชวนผู้ตายให้มาเที่ยวชายทะเลแหลมฉบังจุดเกิดเหตุ และแนะนำให้รู้จักกับนายเสกสรร เพื่อนสามี ซึ่งทำงานอยู่บริษัทเดียวกัน ทั้งคู่คบหาเป็นแฟนกันได้ไม่กี่เดือนก็ตัดสินใจแจกการ์ดแต่งงานเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน และเพิ่งจัดงานเลี้ยงฉลองแต่งงานที่ร้านเจ๊จูน ห่างจุดพบศพราว 50 เมตร เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา มีญาติๆและเพื่อนของทั้ง 2 ฝ่ายมาร่วมงานเกือบ 200 คน พองานเลิกทั้งคู่กลับเข้าที่พักเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นในช่วงดึกก็หอบเสื่อออกมาปูนอนคุยกันริมชายหาด โดยนายเสกสรรได้สะพายกระเป๋าสีดำขนาดใหญ่ ภายในมีซองเงินที่เพื่อนๆนำมาช่วยงาน รวมแล้วเป็นเงินหลายหมื่นบาทติดตัวมาด้วย จากนั้นทั้งคู่ก็เงียบหายไปทั้งคืน กระทั่งมาพบเป็นศพดังกล่าว
 

เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุการสังหารไว้ 2 ประเด็น สาเหตุแรกมาจากเรื่องชิงทรัพย์

โดยหลังจากผู้ตายทั้งคู่ออกจากที่พักมาปูเสื่อนอนคุยกันริมทะเล ระหว่างนั้นคาดว่ามีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คน ที่รู้เห็นว่าผู้ตายหอบเงินช่วยงานแต่งติดตัวออกมาด้วย ได้เข้าไปชิงกระเป๋าใส่เงิน แต่นายเสกสรรต่อสู้ขัดขืน จึงถูกรุมทำร้ายทุบด้วยก้อนหินจนเสียชีวิต ขณะเดียวกันคนร้ายที่เหลือก็ใช้ไม้ หน้าสามติดตะปูตีเข้าที่ใบหน้านางธันยมัยจนตะปูพับงอเพื่อฆ่าปิดปาก เพราะกลัวเหยื่อจะจำหน้าได้ ส่วนอีกประเด็นอาจมาจากเรื่องชู้สาว เพราะฝ่ายหญิงเป็นหญิงสาวหน้าตาดี มีหนุ่มๆมาติดพันหลายคน แต่ผู้ตายกลับตกลงปลงใจแต่งงานกับนายเสกสรร อาจทำให้ชายที่หลงแอบชอบไม่พอใจ พาพรรคพวกมาดักทำร้ายด้วยความโกรธแค้นและทำทีชิงกระเป๋าเงินเพื่ออำพรางคดีเป็นชิงทรัพย์ เพราะทรัพย์สินอื่นๆของฝ่ายหญิงยังอยู่ครบ