คลั่งอีกนศ.มะกัน ยิงแหลก7ศพ

นักศึกษามะกันคลั่งอีก บุกห้องเล็กเชอร์รัวยิงแหลก

ก่อนจ่อขมับฆ่าตัวสยอง 7 ศพ เหตุเกิดกลางม.ดัง "นอร์ธเทิร์น รัฐอิลลินอยส์" เผยเป็นอดีตนักศึกษาปริญญาโท ควงปืนบุกเข้าไปในห้องเล็กเชอร์ช่วงใกล้หมดเวลาเรียน แล้วชักปืนอย่างเยือกเย็นยิงใส่กลุ่มน.ศ.กว่า 140 คน ก่อนปลิดชีพตัวเอง เผยเกิดเหตุเป็นครั้งที่ 5 ในรอบเดือนก.พ. ในม.ที่เกิดเหตุมีน.ศ.ไทยเรียนอยู่ด้วยกว่า 10 คน รวมทั้งบุตรชาย"ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร"แกนนำพรรคปชป. ทุกคนปลอดภัย

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. เอเอฟพีรายงานว่า

เกิดเหตุการณ์คนร้ายคลั่งยิงกราดในสหรัฐอเมริกาอีกครั้งเป็นครั้งที่ 5 ภายในช่วงสัปดาห์เดียว เหตุการณ์ล่าสุดผู้ก่อเหตุอดีตนักศึกษาสังหารเหยื่อ 5 ราย บาดเจ็บอีก 16 ราย ก่อนยิงตัวตายเป็นศพที่ 6 กลางห้องบรรยายวิชาธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์น รัฐอิลลินอยส์ ในช่วงเวลา 15.00 น. วันที่ 14 ก.พ. วันวาเลนไทน์ ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ หรือตรงกับช่วง 04.00 น. วันที่ 15 ก.พ. ในประเทศไทย ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย รวม 7 ศพ

โดนัลด์ แกรดี หัวหน้าตำรวจประจำมหาวิทยาลัยกล่าวว่า มือปืนพกอาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก ปืนพกอีก 2 กระบอก ก่อเหตุด้วยท่าทีเยือกเย็น

ตั้งแต่เดินออกมาจากหลังม่านหน้าห้องเล็กเชอร์ในช่วงใกล้จะหมดเวลาชั้นเรียนวิชาธรณีวิทยา จากนั้นกราดยิงใส่นักเรียนที่นั่งฟังการบรรยายอยู่ราว 140 คน ท่ามกลางเสียงหวีดร้อง ก่อนหันปืนจ่อขมับตัวเอง จบเหตุการณ์ภายในเวลารวดเร็วมากนับวินาทีได้ ส่วนตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ 2 นาทีหลังได้รับแจ้งเหตุ และไม่ได้ควบคุมสถานการณ์ใดๆ เมื่อเห็นมือปืนนอนจมกองเลือดไปแล้ว

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มือปืนเป็นชายผิวขาว สูงราว 180 ซ.ม. ใส่ชุดดำเข้ามาก่อเหตุ ส่วนแหล่งข่าวตำรวจเปิดเผยว่า
 
มือปืนอายุ 27 ปี เคยมาลงทะเบียนเป็นนักศึกษาปริญญาโทในคณะสังคมวิทยาเมื่อปีก่อน จากนั้นย้ายไปเรียนภาคสังคมสงเคราะห์ของมหาวิทยาลัยแห่งอิลลินอยส์ วิทยาเขตเออร์บานา แชมเพน ไม่เคยมีประวัติถูกจับกุมหรือติดต่อตำรวจมาก่อน เมแกน เมอร์ฟี นักศึกษาที่อยู่ในที่เกิดเหตุเล่าว่า มือปืนยืนนิ่งอยู่หน้าห้องได้ราว 1 วินาที มองและก็เปิดฉากยิง ใบหน้าไร้อารมณ์ใดๆ เหมือนไร้วิญญาณ ด้านนายจอห์น จิโอวานนี ผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนกล่าวว่า มือปืนยิงตรงเข้าใส่นักศึกษาที่ฟังเล็กเชอร์ โดยไม่ได้พูดอะไร และดูเหมือนว่าไม่ได้เล็งจะยิงใครเป็นพิเศษ ส่วนกลุ่มนักศึกษาต่างหวีดร้องและหลบลงไปใต้โต๊ะ อีกส่วนวิ่งหนีไปทางประตู ท่ามกลางความโกลาหล

นายจอห์น ปีเตอร์ ประธานมหาวิทยาลัย กล่าวว่า

เหยื่อที่ถูกกระสุนปลิดชีวิตเป็นหญิง 4 ราย ชาย 1 ราย เสียชีวิตทันทีในจังหวะที่หน่วยแพทย์ฉุกเฉินมาถึง ผู้ที่ถูกยิงทั้งหมดเป็นนักศึกษา รวมถึงผู้บรรยายที่เป็นนักศึกษาปริญญาโท ในจำนวนผู้บาดเจ็บมี 6 รายอาการสาหัส ส่วนอีก 8 รายได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ด้านนายโจเซฟ ปีเตอร์สัน ผู้สอนวัย 26 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเป็นคนที่วิ่งหนีในนาทีมือปืนยิงกราด โดยจังหวะที่มือปืนยิงกราดใส่นักศึกษาแล้ว จึงหยิบปืนพกขึ้นมาและเริ่มยิงเข้าใส่ตน ตนวิ่งหนี และถูกมือปืนฟาดใส่ตรงไหล่ด้านซ้าย แต่จังหวะนั้นหลุดออกมาจากห้องบรรยายได้ทัน ตนไม่รู้ว่าทำไมมือปืนก่อเหตุขึ้น และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุสังหารหมู่ครั้งนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากเหตุคลั่งยิงกราดในโรงเรียนที่รัฐโอไฮโอ หลุยเซียนา เทนเนสซี และแคลิฟอร์เนีย ภายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

มีผู้เสียชีวิตรวม 5 ราย และเกิดหลังจากเหตุสังหารหมู่ครั้งใหญ่ที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย เทค เมื่อ 10 เดือนก่อน ที่นายโชซุงฮุย นักศึกษาเชื้อสายเกาหลีกราดยิงนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเสียชีวิต 32 ราย ส่วนมหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์น อิลลินอยส์ สถานที่เกิดเหตุล่าสุดนี้เพิ่งประกาศเตือนภัยเมื่อเดือนธ.ค. หลังจากตำรวจพบข้อความข่มขู่ทางเชื้อชาติจากเหตุเวอร์จิเนีย เทค ที่ผนังห้องน้ำของมหาวิทยาลัย ขณะที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์น อิลลินอยส์ ก่อตั้งในปีพ.ศ.2438 ปัจจุบันมีนักศึกษาต่างชาติกว่า 862 คน จาก 88 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย

วันเดียวกัน ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ

กล่าวถึงกรณีมือปืนกราดยิงนักศึกษาในมหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งมีนักศึกษาไทยศึกษาในมหาวิทยาลัยลัยดังกล่าวกว่า 10 คน รวมถึงบุตรชายของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ว่าทุกคนปลอดภัยดี ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวนี้น่าวิตก เพราะเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในรอบเดือนก.พ. จึงขอฝากถึงผู้ปกครองที่จะส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อในต่างประเทศให้เตือนบุตรหลานในการใช้ชีวิตระมัดระวังตัวต่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด รวมถึงควรมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อสถานทูต สถานกงสุล เพื่อให้เข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที

ด้านนายณรงค์ ศศิธร กงสุลใหญ่ไทย ณ นครชิคาโก กำชับผู้อำนวยการฝ่ายต่างประเทศของมหาวิทยาลัยดังกล่าวให้ดูแลนักศึกษาไทยอย่างใกล้ชิดแล้ว และในวันที่ 16 ก.พ. กงสุลใหญ่จะเดินทางไปเยี่ยมดูแลเป็นขวัญกำลังใจแก่นักศึกษาไทยด้วย