แม่เลี้ยงสุดโหด! น้ำร้อนราด เตารีดนาบดญ.12

เหตุในครอบครัวที่แม่เลี้ยงทำร้ายลูกเลี้ยง

จนคนใกล้ชิดเด็กทนไม่ได้ โร่พึ่งมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ให้เข้าช่วยเหลือเด็กในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ว่า เมื่อช่วงเช้าเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ด.ญ.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ได้ถูกนางอ้วน (นามสมมติ) วัย 23 ปี อาชีพค้าขาย แม่เลี้ยง ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บเป็นประจำ และขณะนี้ตัวเด็กอยู่ในการดูแลของครูที่โรงเรียนวัดโยธินประดิษฐ์ 


ต่อมาเวลา 13.00 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ

เดินทางไปที่โรงเรียนวัดโยธินประดิษฐ์ ที่ ด.ญ.ก้อยเรียนอยู่ เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าวจากปากของ ด.ญ.ก้อย ซึ่งใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง โดยมีครูที่ปรึกษา และนายอิน (นามสมมติ) วัย 53 ปี บิดาบังเกิดเกล้าของ ด.ญ.ก้อยร่วมฟังด้วย หลังจากนั้นนางปวีณาได้ประสานงานไปยัง พ.ต.อ.นริศวร์ ละม้ายอินทร์ ผกก.สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ เพื่อนำตัว ด.ญ.ก้อยเข้าแจ้งความ โดยมี พ.ต.ท.ดำรงค์ มาดี พนักงานสอบสวน (สบ 2) สภ.สำโรงใต้ รับเรื่อง


จากการสอบปากคำเบื้องต้น ด.ญ.ก้อยให้การว่า

ถูกนางอ้วน แม่เลี้ยง ทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำ จนมีบาดแผลทั่วทั้งตัว และเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะอยู่ในบ้านย่านสำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นางอ้วนได้เอาน้ำร้อนราดบริเวณต้นขาและน่องซ้ายจนเป็นผื่นแดง ขณะที่บริเวณข้อพับแขนซ้ายถูกเตารีดนาบ จนเป็นแผลพุพอง แล้วนางอ้วนยังใช้รีโมตทีวีทิ่มเข้าที่เบ้าตาข้างซ้าย จนเบ้าตาบวมและเขียวช้ำ ส่วนสาเหตุที่ถูกแม่เลี้ยงทำร้ายหนักขนาดนี้ ด.ญ.ก้อยกล่าวว่า เพราะตนและน้อง ซึ่งเป็นลูกแท้ๆ ของนางอ้วนแย่งรีโมตทีวี จนเกิดทะเลาะกัน ทำให้นางอ้วนไม่พอใจ จึงเข้ามาทำร้ายตน  


ด้านนายอิน พ่อของ ด.ญ.ก้อย หลังจากทราบเรื่องจากปากลูกสาว
 
ถึงกับอึ้งด้วยความคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุร้ายกับลูก และยอมรับว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นมาก่อน เพราะมัวแต่ทำงานและไม่ค่อยได้กลับบ้าน นอกจากส่งเงินกลับมาให้ครอบครัวมากกว่า 

หลังจากสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัว ด.ญ.ก้อยเข้าตรวจร่างกายที่ รพ.ชัยปราการ โดยมี นพ.ณรงค์ จอมศิริวัฒนา เป็นผู้ตรวจร่างกาย ซึ่งพบว่า ด.ญ.ก้อย มีอาการบวมช้ำบริเวณตาซ้าย แต่โชคดีที่กระดูกเบ้าตาไม่แตก แต่ต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในวันรุ่งขึ้น เพื่อตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง ส่วนบาดแผลบริเวณข้อพับที่แขนซ้ายและขาซ้าย เป็นบาดแผลที่เกิดจากความร้อน คงต้องมาล้างแผล อีกวันหรือสองวันก็จะหายเป็นปกติ  

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวนางอ้วน ที่บ้านพัก และนำตัวมาสอบปากคำ

ซึ่งนางอ้วนให้การยอมรับว่า

ทำจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยง แต่เพราะเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ จึงทำให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ความจริงแล้วรักน้องก้อยมาก เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และไม่อยากให้ไปไหน อยากให้อยู่ด้วยกัน  อย่างไรก็ดี นางปวีณาได้กล่าวว่า ต้องนำตัว ด.ญ.ก้อย ออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุก่อน จากนั้นได้นำตัว ด.ญ.ก้อย ส่งไปที่บ้านพักพระประแดงของพัฒนาสังคมจังหวัด เพื่อพำนักชั่วคราวและฟื้นฟูจิตใจ ขณะที่เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ ตำรวจได้ตั้งข้อหานางอ้วนว่าก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่น และส่งตัว ด.ญ.ก้อยไปตรวจร่างกายเพิ่มเติมเพื่อประกอบการทำคดีต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์